ผู้พันแซนเดอร์ส : จากอาถรรพ์คำสาปเบสบอลสู่ ‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ ของชาวญี่ปุ่น

Maruak Tanniyom

March 21, 2024 · 1 min read

ผู้พันแซนเดอร์ส : จากอาถรรพ์คำสาปเบสบอลสู่ ‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ ของชาวญี่ปุ่น
กีฬาอื่น ๆ | March 21, 2024
เมื่อสิ่งที่เคยเป็นอาถรรพ์แปรเปลี่ยนมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ทีมเบสบอลและ เคเอฟซี ดูเป็นสองสิ่งที่ไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกัน ทว่าครั้งหนึ่ง เคยมีความเชื่อว่าผู้พันแซนเดอร์ส อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ยอดทีมเบสบอลญี่ปุ่นทีมหนึ่งต้องไร้มงกุฎมาหลายสิบปี 

ฮันชิน ไทเกอร์ คือทีมนั้น เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา  และทำไมมาสค็อตของ เคเอฟซี จึงกลายเป็นคำสาปอาถรรพ์ แถมต่อมายังกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาอีกด้วย? 

ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ อาจจะต้องย้อนกลับไปในปี 1985 เมื่อ ฮันชิน ไทเกอร์ ยอดทีมเบสบอลแห่งภูมิภาคคันไซ (ตะวันตกของญี่ปุ่น) ที่นำโดย แรนดี้ แบตเตอร์ชาวอเมริกัน ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นมากในปีนั้น 

พวกเขามีโอกาสคว้าแชมป์เซ็นทรัลลีก ที่จะได้สิทธิ์เข้าไปตัดสินว่าใครเป็นเบอร์ 1 ของญี่ปุ่นในศึกเจแปนซีรีส์ ซึ่งเป็นแชมป์ที่พวกเขาไม่เคยทำได้มาก่อน 

และในเกมตัดสินกับ ยาคูลต์ สวอลโลวส์ ที่สนามเมจิ จิงงู สเตเดียม กรุงโตเกียว ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาถรรพ์เรื่องนี้ 

ในวันนั้นแม้ว่า ไทเกอร์ส จะกลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ หลังถูกนำไปก่อนในอินนิ่งที่ 4 (จาก 9 อินนิ่ง) แต่พวกเขาก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่ อินนิ่งที่ 6 แรนดี แบส จะทำ 2 คะแนน ช่วยให้ผู้มาเยือนออกนำ 3-1 

ทว่า ในอินนิ่งเดียวกัน สวอลโลวส์ ก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาทำ 4 คะแนนรวด พลิกกลับมานำ 5-3 จนกระทั่งการแข่งขันล่วงเลยมาถึงอินนิ่งสุดท้าย กลับกลายเป็น ไทเกอร์ส ก็มาตามตีเสมอได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่จะรักษาผลเสมอไว้ได้จนจบเกม

ทั้งนี้ จากผลดังกล่าวไม่เพียงทำให้ ไทเกอร์ส คว้าแชมป์ลีกเท่านั้น แต่มันยังทำให้เมืองโอซากา ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นหลักทีมเบสบอลทีมนี้ เต็มไปด้วยความโกลาหล เมื่อแฟนบอลออกมาฉลองชัยกันอย่างสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะริมคลองโดทมโบริ ที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง 

พวกเขาฉลองด้วยการร้องเพลงเป็นชื่อของนักกีฬาตามลำดับการตี และด้วยความเมามาย ทำให้แฟนเบสบอลที่มีชื่อเหมือนนักกีฬาในทีม พากันกระโดดคลองตามเสียงเรียก 

แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อถึงท่อนของ แรนดี แบส เพราะไม่มีแฟนคนไหนมีชื่อเหมือนกับนักกีฬาคนนี้ ทันใดนั้นเอง พวกเขาก็เหลือบไปเห็นรูปปั้นของผู้พันแซนเดอร์สที่ตั้งอยู่หน้าร้านเคเอฟซี จึงได้บุกไปชิงตัว แล้วจับโยนลงคลองโดทมโบริ ไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ 

ทว่า หลังจากนั้นกลับเกิดเรื่องแปลกกับทีมขึ้น เพราะแม้ว่าในปีนั้น ไทเกอร์ส จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบเจแปนซีรีส์ แถมยังคว้าแชมป์มาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์โชคไม่เข้าข้างหลายครั้ง 

ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นจอมอึดที่ลงเล่นติดต่อกันมาแล้วกว่า 600 เกม ต้องมาบาดเจ็บซ้ำๆ จนต้องประกาศเลิกเล่นด้วยวัยแค่ 33 ปี  หรือความพ่ายแพ้ในการจับฉลากดราฟท์ตัวถึง 12 ปีติดต่อกัน ที่ทำให้พวกเขาพลาดได้ตัวผู้เล่นเก่ง ๆ มาเสริมทีม

และนับตั้งแต่ปี 1985 ไทเกอร์ส ก็ไม่สามารถก้าวไปถึงแชมป์เจแปนซีรีส์ได้อีกเลย ทั้งที่สามารถทะลุเข้าไปถึงนัดชิงชนะเลิศได้อีก 2 ครั้ง ในปี 2003 และ 2005

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แฟนเบสบอล พยายามหาเหตุผลความตกต่ำของทีมรัก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าครั้งหนึ่งแฟน ไทเกอร์ส เคยทำไม่ดีกับ ผู้พันแซนเดอร์ส เอาไว้ ด้วยการเอาไปทิ้งในคลองที่เน่าเหม็น

พวกเขาเชื่อว่า มันคือ “คำสาปของผู้พันแซนเดอร์ส” (カーネルサンダースの呪い) และพยายามจะงมกู้รูปปั้นขึ้นมาเพื่อขอขมา แต่น่าแปลกที่ไม่ว่าจะหาอย่างไร ก็ไม่เคยเจอกับรูปปั้นของผู้พันคนดังจากรัฐเคนตักกี้อีกเลย 

อันที่จริง สิ่งที่ช่วยให้หลายคนเชื่อในเรื่องนี้มากขึ้น ยังเป็นเพราะรายการโทรทัศน์แนวไขปริศนาจากจดหมายของทางบ้านที่ชื่อว่า Detective! Knight Scoop! ที่เคยทำภารกิจไปงมหาผู้พันแซนเดอร์ส ถึง 4 ครั้งใน 1 เดือน แต่กลับไม่เจอเลยสักครั้ง 

ด้วยความเหนื่อยหน่ายทำให้ พิธีกรของรายการในตอนนั้นกล่าวแบบติดตลกว่า “จนกว่าท่านผู้พันจะถูกกู้ขึ้นมาและทำความสะอาด ฮันชินก็คงไม่มีหวังที่จะคว้าแชมป์” ก่อนที่ทุนจะทำให้แฟน ไทเกอร์ส หลายคนเริ่มคิดว่า หรือว่า “คำสาปของผู้พันแซนเดอร์ส” จะเป็นของจริง? 

ทว่า หลังจากหลับใหลอยู่ก้นแม่น้ำกว่า 24 ปี ในปี 2009 พวกเขาก็เจอกับผู้พันแซนเดอร์ส ด้วยความบังเอิญ ในขณะที่พนักงานกำลังทำความสะอาดแบบน้ำ โดยในตอนแรกพบแค่ท่อนบน แถมยังไม่มีมือ แต่ต่อมาก็เจอท่อนล่าง และสามารถประกอบเป็นร่างสมบูรณ์ได้  

“ตอนที่ผมได้ยินว่าเจอรูปปั้นแล้ว ผมรู้สึกว่าประวัติศาสตร์ (ที่เลวร้าย) ได้จบลงเสียที” โยชิโอะ โยชิดะ ผู้จัดการทีมของไทเกอร์ส ตอนปี 1985 กล่าวกับ Telegraph ในปี 2009

หลังกู้ร่างขึ้นมาได้สำเร็จ พวกเขายังนำท่านผู้พันไปทำความสะอาด และทำพิธีสะเดาะห์เคราะในศาลเจ้าชินโต เพื่อหวังจะแก้คำสาป ก่อนที่มันจะถูกนำไปตั้งที่หน้าร้านเคเอฟซี สาขา โคชิเอ็ง สเตเดียม ในเวลาต่อมา 

ทว่า ดูเหมือนว่าคำสาปจะยังไม่คลี่คลาย เมื่อ ไทเกอร์ส ยังไม่สามารถคว้าแชมป์เจแปนซีรีส์ได้อีกเลย แม้แต่ตอนที่ย้ายผู้พันแซนเดอร์สกลับมาเก็บที่ออฟฟิศที่โอซากาแล้วด้วยซ้ำ 

แต่ในปี 2023 การรอคอยของ ไทเกอร์ส ก็จบลง เมื่อพวกเขาสามารถเข้าไปถึงรอบเจแปนซีรีส์สำเร็จ แถมครั้งนี้ยังสามารถเอาชนะ ออริกซ์ บัฟฟาโลส์ ผงาดคว้าแชมป์ญี่ปุ่นในรอบ 38 ปีของสโมสรได้อย่างยิ่งใหญ่ 

อย่างไรก็ดี ไม่กี่เดือนหลังคว้าแชมป์ ท่านผู้พันแซนเดอร์ส ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังสำนักงานใหญ่ KFC ญี่ปุ่น ตัดสินใจมอบรูปปั้นอันทรุดโทรมนี้ให้แก่ศาลเจ้า ซูมิโยชิ ไทชะ ของเมืองโอซากา พร้อมจัดพิธีเผาตุ๊กตาหรือที่รู้จักกันในชื่อ “นินเงียว คุโย” (人形供養) 

เนื่องจากตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า ในทุกสรรพสิ่ง แม้จะเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ล้วนมีจิตวิญญาณสิงสถิตย์อยู่ เช่นกันสำหรับตุ๊กตา ที่บางคนเชื่อว่าสามารถปกป้องคุ้มครองเจ้าของด้วย ดังนั้นการนำไปทิ้งเป็นขยะ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ 

นอกจากนี้ การเผาไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพต่อตุ๊กตาแล้ว ยังเป็นการปลดปล่อยวิญญาณที่สิงสถิตย์อยู่ และทำให้วิญญาณเหล่านั้นจะกลายเป็นเทพเจ้าหรือ “คามิ” ตามความเชื่อของชินโต 

“เรารู้สึกเสียใจอย่างมากที่ต้องกล่าวคำลากับตุ๊กตาที่ ‘กลับมาอย่างปาฏิหาริย์’ แต่เราก็อยากแสดงความ ‘ขอบคุณ’ ต่อตุ๊กตา ซึ่งเป็นที่รักสำหรับใครหลายคน รวมถึงแฟนเบสบอล” แถลงการณ์จากสำนักงานใหญ่เคเอฟซี ญี่ปุ่นระบุ

ทั้งนี้ รูปปั้นผู้พันแซนเดอร์ส ได้เข้าทำพิธีไปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2024 โดยมี ทาคายูกิ ฮันจิ ประธานเคเอฟซี ญี่ปุ่น รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทเข้าร่วม ก่อนที่พวกเขาจะออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา

และทำให้ “คำสาปผู้พันแซนเดอร์ส” จะยังคงเป็นตำนานเมืองที่ถูกเล่าขานในทุกฤดูร้อนของแฟนเบสบอลชาวญี่ปุ่นต่อไป 

Tags