ฟิลิปโป้ อินซากี้ : ฮีโร่ของ เอซี มิลาน ปี 2007 ทั้งที่ฟอร์มเห่ยที่สุดในชีวิต

Rittichai Sermsuteeanuwat

May 01, 2024 · 1 min read

ฟิลิปโป้ อินซากี้ : ฮีโร่ของ เอซี มิลาน ปี 2007 ทั้งที่ฟอร์มเห่ยที่สุดในชีวิต
ฟุตบอล | May 01, 2024
ฟิลิปโป้ อินซากี้ : ฮีโร่ของ เอซี มิลาน ปี 2007 ทั้งที่ฟอร์มเห่ยที่สุดในชีวิต

พูดถึง ฟิลิปโป้ อินซากี้ ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนาน แม้ไม่ได้มีเทคนิคพรสวรรค์, ความเร็ว หรือหลายๆ สิ่งเหมือนกับนักเตะยุคปัจจุบัน แต่นี่คือตัวจบสกอร์ที่ดีสุดๆ คนหนึ่งโดยเฉพาะทักษะการพิฆาตกัปดักล้ำหน้าซึ่งมักจะหลุดเข้าไปล่อเป้าและมักอยู่ถูกที่ถูกเวลาอยู่เป็นประจำ

313 ประตู 680 นัดตลอดเส้นทางค้าแข้งมีอยู่หลายประตูที่เป็นตัวลูกสินเกม เกิดขึ้นในเกมใหญ่ๆ แม้ในยามที่ทีมต้นสังกัดมีผลงานที่ไม่ดีนัก

แน่นอนว่าหน้าที่ของผู้เล่นกองหน้าก็คือการทำประตู แต่หากจะพูดถึงฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดของ ฟิลิปโป้ อินซากี้ หนึ่งในนั้นก็คงเป็นซีซั่น 2006-07 กับ เอซี มิลาน

ไม่นับช่วงปี 2003-05 ที่ส่วนใหญ่จะมาจากเหตุผลเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่ในซีซั่น 2006-07 นั้นที่บอกว่าเลวร้ายสุดๆ เพราะนั่นคือปีที่ อินซากี้ อายุ 33 ปี และแทบส่งบอกซุกก้นตาข่ายไม่ได้เลย

เขานับหนึ่งในเกมที่พา เอซี มิลาน เอาชนะ ลาซิโอ้ 2-1 ในวันเปิดซีซั่นของ กัลโช่ เซเรีย อา และเป้าสะอาดยิงยาวจนถึงช่วงมกราคม 2007 วันที่ยิงประตูชัยเอาชนะ ปาร์ม่า ได้ 1-0 และนั่นคือ 2 ประตูของ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ในลีกสูงสุดแดนมะกะโร ณ ซีซั่นนั้น

ด้วยผลงานที่ไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่ทำให้โอกาสส่วนใหญ่ของ อินซากี้ ในปีนั้นเป็นตำสำรอง โดยทาง คาร์โล อันเชล็อตติ เลือกให้โอกาสตัวสดกว่าอย่าง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโอ้ และก็ผลิตสกอร์ได้มากมาย รวมไปถึง โรนัลโด้ R9 ที่เซ็นมาจาก เรอัล มาดริด ช่วงกลางปี 2007

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าฟอร์มที่ตกลงไปอย่างน่าใจหายของ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ส่งผลกับพลพรรค “ปีศาจแดง-ดำ” ขนาดไหน เพราะในช่วง คริสต์มาส ปี  2006 เอซี มิลาน รั้งอยู่อันดับ 13 และชนะแค่ 6 จาก 17 นัดแรกของซีซั่น

ถึงจะหวดไปแค่ 2 ประตูในเกมลีกแต่ในเวทียุโรปนั้นแตกต่าง เพราะ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ยิงได้ 2 ประตูในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกที่เจอกับ เร้ด สตาร์ เบลเกรด ส่วนรอบแบ่งกลุ่มก็ยิงได้ 1 ประตูในวันเจอ เออีเค เอเธนส์ และอีก 1 ประตูในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ เลก 2 ที่บุกไปเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-0

เอซี มิลาน ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศโดยจะไปพบกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งจะเป็นการรีแมตช์นัดชิงฯ เมื่อปี 2005 ทาง ฟิลิปโป้ อินซากี้ ก็รู้ตัวว่าเขาคงไม่ได้โอกาสลงตัวจริง เพราะฟอร์มที่น่าผิดหวัง ยิงในลีกแค่ 2 ลูก ใน โคปปา อิตาเลีย 3 ลูก และใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 ประตู

แต่ว่ามันโชคดีตรงที่ โรนัลโด้ R9 ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด กลางซีซั่นจึงติดคัพไทไม่สามารถลงเล่นในรายการนี้ได้ ดังนั้น คาร์โล อันเชล็อตติ จึงมีแค่ 2 ตัวเลือกระหว่าง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ที่มีความสด ฟอร์มดี ยิงได้เยอะ แต่ประสบการณ์น้อย กับ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ที่คุ้นชินกับเกมที่กดดันแบบนี้ และเก๋าเกมมากประสบการณ์กว่า

สุดท้าย “เดอะ คาร์เล็ตโต้” ตัดสินใจเลือก ฟิลิปโป้ อินซากี้ และในฤดูกาลที่เลวร้ายสุดๆ ของเขาก็เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืนเพราะเขาคือฮีโร่ที่ซัลโว 2 ประตูช่วยให้ เอซี มิลาน เฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 และได้เถลิงบัลลังก์แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

“จนกระทั่งวันนี้แฟนๆ เอซี มิลาน ก็ยังคงขอบคุณผมสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในแมตช์นั้น ตอนที่ผมยิงประตูที่ 2 ในนาที 82 เวลามันก็เหลืออีกไม่มากแล้ว นั่นเป็นตอนที่คุณเริ่มคิดว่าคุณกำลังจะได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย 2 ประตูของคุณ มันคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้เล่นที่เป็นกองหน้า”