HOT GIRL : ‘ซายะ-ชนิตา’ สปอร์ตเกิร์ลแสนซนผู้หลงใหลศิลปะป้องกันตัว

เชื่อว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ผู้ชื่นชอบการส่อง Instagram สาวๆ สุด Sexy ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนใคร ย่อมต้องเคยผ่านตากับบัญชีที่ใช้ชื่อแปลกๆ ว่า ‘agirlwhocantalktoanimal’ ซึ่งมีโปรไฟล์การแนะนำตัวที่น่าสนใจ เป็นทั้ง นางแบบ, นักแสดง และเรียนจบมาทางด้าน ‘สัตวแพทย์’

ตัวตนของ ‘ซายะ’ ตามแพลตฟอร์ม โซเชียล มีเดีย ทุกช่องทางของเธอ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, IG หรือ Tiktok ล้วนนำเสนอคอนเทนทฺ์ไปในแนวทาง Sexy ปนกับความทะเล้นกวนๆ ผสมผสานกันออกมาได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะกิจกรรมยามว่างที่เป็นแนว ‘สปอร์ต เกิร์ล’ ชอบออกกำลังกายและเล่นกีฬาแบบลุยๆ หลากหลายชนิด

จากข้อมูลที่กล่าวมาเบื้องต้น ส่งผลให้ทาง ‘Mansion Sports’ มองว่าสาวน้อย ‘ซายะ’ มีเสน่ห์ดึงดูดคนรอบข้างด้วยทิศทางที่ตรงกับคอลัมน์ Hot Girl ที่เรากำลังตามหาอยู่พอดี ดังนั้นจึงเป็นที่มาของบทสัมภาษณ์สุด Exclusive ที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเธอในหลากหลายมุมมองที่ไม่เคยเผยมาก่อน

ยิ่งเจ้าตัวเผยออกมาด้วยว่า ‘นี่เป็นครั้งแรก’ ที่เคยสัมภาษณ์ล้วงลึกแบบจริงจัง เมื่อสบโอกาสแบบนี้ทีมงานของเราย่อมใส่ไม่ยั้ง เพื่อล้วงลึกถึงสิ่งที่ผู้อ่านอยากรู้มาให้ได้มากที่สุด เริ่มต้นจากคำถามไล่ระดับเบาๆ ไปจนถึง ‘ความลับ’ ที่เธอไม่เคยเผยให้ใครรู้มาก่อน

Mansion Sports : รู้สึกยังไงบ้างกับการถ่ายแบบในธีม ‘นักมวยสาว’ ในครั้งนี้?

ซายะ : ปกติแล้วครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ ยะ ได้มีโอกาสถ่ายแบบในแนวสปอร์ตแบบจริงจัง เพราะส่วนใหญ่งานก่อนหน้าที่ที่ติดต่อมาจะเป็นฟีลโฆษณามากกว่า วันนี้ก็ดีใจมากที่ได้ทำงานแนวนี้เต็มตัวมากขึ้น อาจจะมีเหนื่อยบ้างจากอากาศที่คนข้างร้อน แต่ก็สนุกมากเลยค่ะ เพราะเข้ากับตัวตนของ ยะ ที่เป็นคนตื่นตัวอยู่เสมอ พลังงานเยอะ แล้วไม่ค่อยทำอะไรเป็นรูทีนซ้ำๆ เดิมเท่าไหร่

Mansion Sports : การทำงานปกติของ ซายะ ออกแนวจริงจังหรือมีโหมดเล่นอยู่บ้าง?

ซายะ : ปกติแล้วเวลาทำงาน ยะ จะเป็นโหมดจริงจังทั้งหมดเลย ไม่ค่อยมีโหมดเล่นสักเท่าไหร่ อาจจะมีพยายามเล่นบ้างในบางเวลา เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์กับงาน

Mansion Sports : ดูชื่อเล่นของ ซายะ แล้วรู้สึกถึงความเป็นลูกครึ่ง เอาจริงๆ แล้วมีที่มาจากอะไร? แล้วพื้นเพเราเป็นคนที่ไหนยังไง?

ซายะ : เอาจริงๆ เลยนะ ซายะเนี่ยเป็นชื่อในวงการ (หัวเราะ) ชื่อเล่นจริงๆ ชื่อ ทราย แต่ตอนเด็กเพื่อนในห้องมีชื่อซ้ำกันสองคน เพื่อนที่เป็น โอตาคุ (กึ่งๆ แฟนคลับ) เลยตั้งชื่อ ซายะ ขึ้นมาให้ พื้นเพเป็นคนจังหวัดนครสวรรค์เพราะเกิดที่นู่น แต่มาโตที่กรุงเทพฯเพราะมีบ้านที่นี่และอยู่ตรงนี้เป็นหลัก 

Mansion Sports : ชื่อไอจีของ ซายะ และการศึกษาดูเหมือนจะสื่อไปในทิศทางที่เป็นคนรักสัตว์ พอจะเล่าที่มาที่ไปให้ฟังได้มั้ย?

ซายะ : คือรู้ตัวตั้งแต่เด็กๆ เลยว่าชอบทางนี้ เพราะที่บ้านดูทีวีอยู่สองช่อง คือ Animal Planet กับ Cartoon Network เลยได้รับอิทธิพลมาจนกลายเป็นสิ่งที่เรามองว่าน่าสนใจแล้วเราอยากใช้เวลาด้วย ที่บ้านก็ปลูกฝังมาเรื่อยๆ ให้เราเป็นคนรักสัตว์ อนุญาตให้มีสัตว์เลี้ยงได้ตั้งแต่เด็ก จนทำให้เรามีความคิดอยากเรียนต่อสาขา สัตวแพทย์

Mansion Sports : ตอนตั้งชื่อ ไอจี คิดอะไรอยู่?

ซายะ : เอาจริงๆ เรื่องมันตลกมาก ยะ ชอบไปสวนสัตว์ และ ชอบเลียนเสียงคุยกับสัตว์แค่นั้นเอง มันอาจเหมือนชื่อไอจีหลุมนะ แต่ ยะ มาก่อนกาลนะ ก่อนจะมีแอคหลุมอีก ถ้าเอาตอบแบบมีสาระ คือ ยะ รู้สึกว่าตัวเองมี การสื่ออารมณ์ถึงสัตว์ที่ตัวเองเลี้ยงได้ อย่างตัวที่เลี้ยงอยู่นี่ก็ 8 ขวบแล้ว เวลายะไม่สบาย เขาก็จะมานอนทับตัว แสดงถึงความเป็นห่วงเรา แล้วก็เป็นแบบนี้มาตลอด

Mansion Sports : แล้วแบบนี้สัตว์เลี้ยงตัวแรกของเราคืออะไร?

ซายะ : ปลาหางนกยูง ที่เป็นโครงงานจากครูให้เลี้ยงตอนเด็กนี่นับมั้ย ถ้านับก็น่าจะเป็นอันแรก แต่ถ้าจะเอาคำตอบจริงจังขึ้นมาหน่อย คงเป็นสุนัขที่ชื่อว่า มัมมี่ เป็นพันธุ์ชิวาว่าผสม ที่ตัว ยะ เองได้ใช้เวลาคลุกคลีกับน้องนานมาก

Mansion Sports : ปรับสวิตช์ไม่ให้ตั้งตัวเลยแล้วกัน สถานภาพปัจจุบันทั้งเรื่องเรียนและสถานะหัวใจพอจะบอกได้มั้ย?

ซายะ : ตอนนี้ ยะ อายุ 27 ปีแล้ว เรียนจบมาได้ประมาณสองปี ส่วนสถานะหัวใจ คือ ‘โสด’ ค่ะ

Mansion Sports : แต่อาชีพ นางแบบ กับ สัตวแพทย์ มันดูต่างกันมากเลยนะ? ซายะในสองบทบาทนี้มันมีความแตกต่างกันไหม? แล้วจุดเริ่มต้นที่เข้ามาสายวงการบันเทิงมันมีที่มายังไง?

ซายะ : จุดเริ่มต้นของการเป็นนางแบบมันมาจากการที่ ยะ เป็นคนชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว พอเราลงรูปไปก็มีตากล้องติดต่อเข้ามาก็เริ่มรับงานเป็นนางแบบฟรีแลนซ์ระหว่างที่เรียนอยู่ช่วงปี 2 ปี 3 การแบ่งแยกเวลาและหน้าที่ของสองบทบาทนี้ค่อนข้างชัดเจน หน้างานเกี่ยวกับสัตวแพทย์ก็จะเป็นอีกแบบ ส่วนเวลาเป็นนางแบบหน้ากล้องก็เป็นอีกบทบาทหนึ่ง แต่ถ้ามองภาพรวมในการทำงานแล้ว คือ คนเดียวกันที่มีความจริงจังกับงานเต็มร้อย ต่างกันแค่ภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองมากกว่า

Mansion Sports : แรกเริ่มเห็นว่าถ่ายแบบแนวน่ารัก คิวท์ๆ มาก่อน แต่พอปรับลุคมาเป็นถ่าย Sexy ขึ้น มีความรู้สึกขัดกับตัวตนของเราบ้างไหม?

ซายะ : ยะ คิดว่าเรื่องนี้มันเลือกใช้กันได้ ทุกคนย่อมมีหลากหลายมุมในตัวของตัวเองอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าในตอนนั้นตัวเราอยากเลือกนำเสนอหรือพรีเซนท์ในอารมณ์ไหนออกมา เพื่อจุดประสงค์อะไร? ในสถานการณ์แบบไหน? แค่เลือกใช้ให้มันเหมาะสมแค่นั้น เอาจริงๆ แล้ว ยะ เป็นคนโก๊ะๆ หลุดๆ เอนจอยกับการใช้ชีวิต ไม่ค่อยซีเรียสอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าในโหมดของการทำงานก็เป็นอีกส่วนหนึ่งนะ

Mansion Sports : ในมุมของการทำงานเป็นนางแบบคำว่า Sexy ของ ซายะ จำกัดความคำนี้ไว้แบบไหน?

ซายะ : Sexy ของ ยะ คือไม่ใช่การถอดหมด แต่มันคือการส่งเอเนอร์จี้ออกไปทางไหนหรือทางใดทางหนึ่งมากกว่า มันอาจเป็นการสื่อทางสายตา ท่าทาง ไม่ใช่แค่การแต่งกายภาพนอกเพียงอย่างเดียว

Mansion Sports : พอปรับลุคมาเป็นสาว Sexy ยอดผู้ติดตามมีมากขึ้น เคยเจอประสบการณ์โดนคุกคามบ้างไหม?

ซายะ : อันนี้แปลกมากที่ไม่มีเลย! เพราะ ยะ เป็นคนที่มีขอบเขตกับคนอื่น มันเลยไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย แม้แต่ในประสบการณ์ทำงานจริงๆ มีแต่นางแบบรุ่นน้องมาปรึกษาหรือเล่าประสบการณ์ให้ฟัง แต่ตัวเองไม่เคยเจอเลย ต่อให้วันนึงเจอกับตัวจริงๆ มันก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา แค่เพิกเฉยกับคนพวกนั้น ไม่ต้องให้ค่า แล้วการกระทำของพวกเขาก็จะไม่มีผลอะไรกับเรา แล้วนี่มันก็ไม่ใช่ปัญหาของเราด้วย

Mansion Sports : ประทับใจอาชีพนางแบบตรงไหน? ชอบอะไรมากที่สุด

ซายะ : สิ่งที่ชอบที่สุดของ ยะ คือ การได้เจออะไรใหม่ๆ งานมันเซอร์ไพรส์ทุกวันคาดเดาไม่ถูกว่าต้องเจอกับอะไร แล้วมันทำให้ตัวเราสนุกไปด้วย อย่างที่จำได้ดีคือมีงานโฆษณาที่ต้องเจอทั้งแดด ทั้งน้ำ ในวันเดียว กองเดียว คิวเดียว ถ่ายกันนาน 18 ชั่วโมง เหนื่อยแต่ก็สนุก ได้ออกจากคอมฟอร์ทโซน พอได้ประสบการณ์ผ่านจากตรงนั้นมาได้ ยะ ก็มองว่ามันทำให้เราโตขึ้น ก้าวไปสู่การทำงานอีกระดับหนึ่ง

Mansion Sports : มองว่าอาชีพนางแบบหรืองานในวงการบันเทิงมั่นคงขนาดไหน?

ซายะ : อันนี้ ยะ มองว่าคนคนนั้นเขาวางแผนอาชีพไว้แบบไหน อันนี้ก็เป็นคำถามของ ยะ กับตัวเองเหมือนกัน เพราะ ยะ ก็ยังไม่รู้ว่ายังไง มองในมุมคนอื่นมันอาจไม่มั่นคง แต่ถ้าสังเกตดีวงการทุกวงการนั้นมีหลายบทบาทให้เลือกทำ บางทีเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งก็อาจผันตัวไปรับบทบาทอื่นได้ มันไม่จำเป็นต้องยึดติดกับหน้าทีใดไปตลอด ทุกอย่างมันปรับเปลี่ยนกันได้ด้วยความยืดหยุ่นของเนื้องาน

Mansion Sports : มีไอดอล นางแบบ, นักแสดง หรือบุคคลที่อยากร่วมงานด้วยมั้ย?

ซายะ : ถ้าไอดอลสายนางแบบชอบ เดวอน อาโอกิ ที่เล่น Fast&Furious แต่ถ้านักแสดงล่าสุดเลยชอบ Llly Rose ลูกของ จอนนี่ เด็ปป์ แต่ถ้าชื่นชอบเป็นการส่วนตัวและอยากร่วมงานด้วยชอบ เจนนี่ แบล็คพิงค์ เพราะเขาเป็นเหมือนแรงบันดาลใจอะไรบางอย่างให้กับเราด้วย ถ้ามองจากคาแรกเตอร์ของเค้า ยะ มองว่ามีจุดที่ลิงค์กันได้ เลยชอบเขาเป็นพิเศษ

Mansion Sports : อาชีพนักแสดงปกติแล้วต้องดูแลรักษาหุ่นและสุขภาพ ตอนนี้ ซายะ เล่นกีฬาอะไรอยู่บ้าง?

ซายะ : ตอนนี้ ยะ ต่อยมวยเป็นหลัก พยายาม เวท เทรนนิ่ง บ้าง แต่เอาจริงๆ แล้วค่อนข้างหลากหลาย เพราะอยากเล่น เซิร์ฟ, ยิงปืน และกำลังจะเข้าเรียนการต่อสู้ด้วยมีด ส่วนตัวแล้วจะเลือกกีฬาที่อยูในแขนงของการต่อสู้ เนื่องจากรู้สึกว่ามันเป็นทักษะติดตัว ที่เราสามารถหยิบมาใช้ป้องกันตัวได้จริง แล้วมันก็สนุกมากด้วย

Mansion Sports : การเล่นกีฬามันเอามาใช้ประโยชน์อะไรกับอาชีพของเราได้บ้าง?

ซายะ : ยะ มองว่าส่วนนี้ช่วยได้เยอะเลยนะ คือ การเล่นกีฬามันต้องมีความอดทน ต้องมีความต่อเนื่องในการเล่น มันทำให้เรามีวินัยในการสร้างตัวเองขึ้นมา ยิ่งมีความต่อเนื่องก็พัฒนาตัวเองได้ไว พอทำเป็นประจำก็ส่งผลในเรื่องของตารางงานที่ทำให้เรามีความรับผิดชอบไปแบบอ้อมๆ ยิ่งไปกว่านั้นพอมีกิจกรรมที่ผ่อนคลาย สภาวะรวมๆ ของเราก็ดีขึ้นไปด้วย ยิ่งตัว ยะ ไม่ใช่สาย คาเฟ่ แบ่งเวลาผ่อนคลายไปทำ สปา หรือ ไปเที่ยวไปเลย ไม่ใช่สาวคาเฟ่ ถ้าให้เลือก คาเฟ่ กับไป ยิม ขอเลือกไปยิมดีกว่า แต่กีฬาพวกใช้อุปกรณ์นี่เป็นจุดอ่อนของ ยะ เลยนะ ปิงปอง แบต เทนนิส หรืออะไรที่ใช้ไม้นี่ไม่ได้เลยจริงๆ

Mansion Sports : จริงจังกับการเล่นกีฬามากแค่ไหน?

ซายะ : คือตอนนี้ ยะ รู้สึกว่ามันเป็นความชอบ เล่นได้ประมาณหนึ่ง แต่ปีนี้ก็มีการตั้งเป้ากับตัวเองไว้ประมาณนึงว่า อยากให้ตัวเองมีความเชี่ยวชาญในการเล่นกีฬาสักชนิดหนึ่ง ก็คงเป็น ‘มวย’ ที่อยากเล่นให้จริงจังมากขึ้น

Mansion Sports : มีนักมวยที่ชื่นชอบบ้างไหม?

ซายะ : ถ้ามีชอบจริงๆ ก็คงเป็น รถถัง จิตรเมืองนนท์ เพราะมองว่าเขาเฟี้ยวดี บุคลิกด้านเมนคาแรกเตอร์เขามันเด่นมันชัด แต่ถ้าหน้าตาก็ต้องเป็น ‘ตะวันฉาย’ อะเนอะ (หัวเราะ)

Mansion Sports : ถ้าพูดทักทายกับ รถถัง และ ตะวันฉาย ได้ 3 คำ หากได้ร่วมงานด้วยกัน?

ซายะ : ถ้าเป็นพี่รถถึง คงยกนิ้วโป้งเยี่ยมให้แล้วบอกว่า ‘พี่ เท่ห์ มาก’ แต่ถ้าเป็น ตะวันฉาย คงอุทานว่า ‘อุ๊ย หล่อ จัง’

Mansion Sports : การออกกำลังกายในมุมมองของ ซายะ คือการลงทุนที่คุ้มค่าไหม?

ซายะ : มุมมองของ ยะ เลยนะ ยะ มองว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องจ่าย แค่ดูว่าความสามารถในการจ่ายของคุณนั้นเหมาะสมกับระดับตรงไหน มันมี Local Gym หรือ ค่ายมวย Local เล็กๆ ที่ค่าใช้จ่ายมันแค่หลักร้อย ซึ่งหลายคนคงสามารถจ่ายได้อยู่แล้ว เพียงแค่คุณจะเลือกช้อยส์ไหน ใช้เงินของเราไปให้มีประโยชน์ทีสุดอย่างไร?

Mansion Sports : มีประสบการณ์ดีๆ ที่อยากแชร์ หรืออยากบอกคนที่กลัวการออกกำลังกายนอกสถานที่บ้างไหม?

ซายะ : โอเคๆ ยะ อยากพูดเรื่องนี้มาก คืออเวลาที่คุณเป็นคนเริ่มออกกำลังกาย ไม่มีใครเขามาตัดสินตัวคุณ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะทำไม่ถูก ไม่ดี ในสายตาคนอื่น แค่ออกมาเจอสังคมใหม่ๆ ทุกคนพร้อมช่วยเหลือคุณ สนับสนุนคุณ ให้กลายเป็นคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยกันอยู่แล้ว เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ที่ใหญ่ขึ้น หลายคนอาจกลัวและคิดไปเอง ซึ่งจริงๆ แล้วจากประสบการณ์ของ ยะ มันไม่เป็นแบบนั้นเลย

Mansion Sports : แล้วถ้าแฟนๆ อยากเห็น ซายะ ต่อยมวยแบบตัวเป็นๆ สามารถแย้มได้มั้นว่าตอนนี้เล่นอยู่ที่ไหน?

ซายะ : อ๋อ ได้ค่ะ ตอนนี้ ยะ ฝึกอยู่กับค่าย Fitfac แถวรังสิต ประมาณนี้เป็นหลัก

Mansion Sports : ชอบออกกำลังกายขนาดนี้ แปลว่า สเปคผู้ชายที่ชอบต้องเป็น นักกีฬา รึเปล่า?

ซายะ : จริงๆ อืม ใช่ เพราะไทป์ผู้ชายที่ชอบเลยจริงๆ คือเป็น Athlete หรือนักกีฬาไปเลย เพราะคนที่ดูแลตัวเองมันน่าดึงดูด มันสื่อไปถึงเรื่องของความจริงจังและความมุ่งมั่นไปด้วย

Mansion Sports : วิธีการที่เป็นไม้ตายของ ซายะ ถ้าต้องลากเพื่อนสนิทที่ไม่ชอบไปบิมไปเป็นเพื่อคือ?

ซายะ : ง่ายมากเลย แค่บอกไปดูผู้ชาย เพราะเคยลองพูดด้วยเหตุด้วยผลแล้ว ผลจบที่เพื่อนิดออด ต้องใช้ผู้ชายหล่อล่อเป็นหลุมพรางไปก่อน รับรองเสร็จทุกราย

Mansion Sports : เป้าหมายในอาชีพขั้นต่อไปทั้งเรื่องเรียนและการทำงานคือ?

ซายะ : ตอนนี้ ยะ เป็นนักแสดงเป็นหลัก ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากขึ้นบิลบอร์ด เดี๋ยวจะได้ขึ้นภายในปีนี้แล้ว และมีงานที่เตรียมออนอยู่บนบิลบอร์ดเรียบร้อยหลายชิ้น แต่ว่าในปีนี้ ยะ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากเป็นนักแสดงที่สามารถเล่นภาพยนตร์ได้เข้าโรงหนัง ส่วนใหญ่งานตอนนี้เป็นโฆษณา ละครมีแตะๆ บ้างแต่ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ ส่วนตัวแล้วอยากเล่นหนังมากกว่า อยากเข้า Netflix เท่ห์ดี

Mansion Sports : ให้เลือกระหว่างทำงานสายบันเทิงต่อ กับ กลับไปทำงานสายที่จบมา จะเลือกอะไร? เพราะ?

ซายะ : ยะ เลือกเป็นนักแสดง เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังสนุกมาก ทุ่มเทกับงาน 100 เปอร์เซ็นต์ ยะ มีความสุขกับการทำงานในทุกๆ วัน ได้เจอทีมงาน ได้เข้ากอง ถามว่าวันนึงจะกลับไปทำ สัตวแพทย์ มั้ย? ถ้ากลับไปคงไปในฐานะเจ้าของกิจการ ทำเป็น Wellness Center ชวนพี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักกันมาเป็นคุณหมอประจำ คงไม่ได้กลับไปลงมือทำเองแบบที่เรียนมา

Mansion Sports : มีการวางแผนชีวิตของเราหลังจากนี้ไว้บ้างไหม?

ซายะ : ส่วนตัว ยะ ไม่ได้แพลนเอาไว้เลย เพราะว่าอยากรู้ว่า ความสามารถตัวเองที่มี มันไปถึงขีดสุดที่ตรงไหน แล้วเราไม่รู้ว่า ณ เวลานั้นมันคือตอนไหน? แต่ถ้ามองว่าไม่มีโอกาสเติบโตในหน้าที่ก็อาจจะไป ไม่เคยตั้งเพดานให้กับตัวเองเลย อาจเคยขีดไว้บ้างคร่าวๆ แต่มันไปไม่ถึง แต่ที่น่าแปลกพอไม่ไปตั้งมาตรฐานให้กับตัวเอง ยะ กลับรู้สึกว่ามันไปได้ไกลมากกว่าเดิมไม่มีจุดรั้ง เลยอยากปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น

Mansion Sports : เป้าหมายที่เป็นความฝันที่วางแผนไว้คร่าวๆ มีบ้างไหม?

ซายะ : คือปีนี้ ยะ คิดในใจเอาไว้ว่าจะทำโครงการเพื่อสัตว์สักโครงการนึง แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเงินของ ยะ เองหรือหาผู้ร่วมบริจาค ยะ อยากเอาเงินไปซื้อของเล่นจำนวนเยอะๆ แล้วหอบไปตามมูลนิธิต่างๆ กองไว้ให้น้องๆ สัตว์เลี้ยงมาเลือกไปเอง แต่ยังไม่ได้มองไกลว่าภาพที่ออกมาจริงๆ จะเป็นยังไง?

Mansion Sports : ทิ้งท้ายกันตรงนี้ช่วยสรุปชีวิตของ ซายะ ตอนนี้ออกมาเป็น 3 คำได้ว่า

ซายะ : คำแรก คือ Alive ที่หมายถึงความมีชีวิตชีวามากๆ คำที่สอง ความท้าทาย และคำสุดท้าย ‘อิสระ’ ค่ะ