หุ่นยนต์อัจฉริยะ : ผู้รักษาประตูที่เก่งกว่าแข้งเวิลด์คลาส แต่สู้ปูตินไม่ได้

Maruak Tanniyom

May 08, 2024 · 1 min read

หุ่นยนต์อัจฉริยะ : ผู้รักษาประตูที่เก่งกว่าแข้งเวิลด์คลาส แต่สู้ปูตินไม่ได้
ฟุตบอล | May 08, 2024
เมื่อผู้รักษาประตูที่เร็วที่สุดในโลกต้องมาพ่ายแพ้ให้กับผู้นำสูงสุดรัสเซีย

วลาดิเมียร์ ปูติน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซีย สมัยที่ 5 อย่างเป็นทางการ หลังเข้าพิธีสาบานตนไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับพิสูจน์ว่าในแผ่นดินรัสเซีย ไม่มีใครสามารถโค่นเขาลงได้ 

ไม่เว้นแม้แต่วงการฟุตบอล เพราะครั้งหนึ่ง ปูติน ก็สามารถจัดการกับ RoboKeeper หุ่นยนต์ผู้รักษาประตูอัจฉริยะ ที่ปราบนักเตะระดับโลกมาแล้วมากมาย เขาทำได้อย่างไร? 

อันที่จริงสำหรับ RoboKeeper มันคือหุ่นยนต์ผู้รักษาประตูที่ถูกพัฒนาโดย Fraunhofer Institute of Material Flow and Logistics ของเยอรมัน ด้วยเป้าหมายที่จะเอาชนะจุดโทษนักเตะจริงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทั้งนี้ แม้ว่าจะถูกเรียกว่าหุ่นยนต์ แต่ RoboKeeper กลับมีลักษณะเป็นแผ่นรูปผู้รักษาประตูกำลังพุ่งปัด ที่ยึดไว้กับมอเตอร์ เพื่อให้มันสามารถเคลื่อนที่เป็นครึ่งวงกลม ไปปัดลูกยิงที่มุมของประตูได้ 

“เป้าหมายในการพัฒนาคือเพื่อหยุดลูกบอลในระดับที่ไว้ใจได้ แม้ว่าจะเตะด้วยความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเป็นลูกเรียดมุมซ้ายหรือขวาล่างของประตูก็ตาม” โธมัส อัลเบรชต์ นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน Fraunhofer IML อธิบาย

“สิ่งนี้สอดคล้องกับระยะเหยียดตัวสูงสุดของผู้รักษาประตูที่เป็นมนุษย์ตอนที่ยืนตรงกลางประตูเพื่อรับบอลที่เตะเข้ามา โดยปกติแล้วความเร็วของลูกบอลตอนลอยอยู่ในอากาศอย่างสมบูรณ์จะอยู่ที่ 0.36 วินาทีหรือน้อยกว่านั้นเล็กน้อย เพราะบอลไม่สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในฉับพลัน”

นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2007 RoboKeeper ก็ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นมาตลอด โดยทางผู้สร้างเคลมว่ามันคือ “หุ่นยนต์ผู้รักษาประตูที่เร็วที่สุดในโลก” และพยายามพิสูจน์ด้วยการไปท้าดวลกับนักเตะดังระดับโลกมากมาย 

ไล่ตั้งแต่ อองตวน กรีซมันน์ ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส ที่ไม่ว่าจะยิงเล่นทาง หรือยิงเต็มข้อ ก็โดนเซฟไว้ได้ทั้งหมด จนทำให้เขาต้องโกง ด้วยการโยนบอลลูกแรกเข้าไปก่อน แล้วค่อยยิงอีกลูกตามไป 

หรือ โรนัลดินโญ อดีตสตาร์ระดับโลกชาวบราซิล ที่เคยได้ทดสอบในช่วงก่อนฟุตบอลโลก 2018 และหลังลองยิงในหลากหลายวิธี ทั้งลูกแป และลูกปั่น ก็ไม่ผ่านโกลหุ่นยนต์ตัวนี้อยู่ดี 

หรือแม้แต่ ลิโอเนล เมสซี ที่ในช่วงพีค ๆ ก็เกือบเอาหุ่นยนต์ผู้รักษาประตูตัวนี้ไม่ลง และทำให้เขาต้องงัดท่าไม้ตายด้วยการยิงเต็มแรงด้วยความเร็ว 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนบอลปลิ้นเข้าประตูไป 

เช่นกับสำหรับ เนย์มาร์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของ เมสซี ที่บาร์เซโลนา ที่ถึงขั้นบ่นอุบว่า “ยากอ่ะ” ก่อนสุดท้ายจะใช้วิธีเดียวกับ สตาร์ชาวอาร์เจนตินา ด้วยการซัดบอลให้แรงที่สุดในระดับ 131 กิโลเมตร จนผ่านมือ RoboKeeper ได้สำเร็จ 

“ยากนะ แต่ก็สนุกมาก สนุกมากจริง ๆ แต่มันยังจะยากกว่านี้อีกหรือ” เนย์มาร์ กล่าว

ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้ RoboKeeper เก่งกาจขนาดนี้ มาจากระบบ fast imaging โดยผู้ผลิตจะติดกล้องไว้สองตัวเหนือประตู เพื่อติดตามการเคลิ่อนไหวของลูกบอล จากนั้นจึงส่งข้อมูลไปประมวลผลและคำนวนว่าบอลจะมาถึงประตูตอนไหน แล้วค่อยส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปควบคุมมอเตอร์ เพื่อขยับแผ่นผู้รักษาประตูไปในทิศทางที่คาดไว้ 

“มันเป็นผู้รักษาประตูหุ่นยนต์ และการเคลื่อนที่ก็ต่างจากการเคลื่อนที่ของมนุษย์เล็กน้อย ตาของมันเป็นกล้องความเร็วสูงที่ถ่ายภาพได้ถึง 90 ภาพต่อวินาที” มาร์ก แลงทรี หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา ศูนย์วิทยาศาสต์แห่งชาติไอร์แลนด์กล่าวกับ Irish Sun

“เมื่อคุณเตะลูกโทษ มันจะถ่ายภาพด้วยความเร็ว 90 ภาพต่อวินาที ส่งรูปไปยังซอฟต์แวร์ประมวลผล และทำให้มันสามารถคำนวณวิถีของบอลได้” 

“เมื่อรู้มุมแล้ว มันจะส่งข้อมูลไปยังกลไกการขับเคลื่อนผู้รักษาประตู ซึ่งทำให้ RoboKeeper เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ถูกต้องเพื่อเซฟบอล”  

นอกจากนี้ มันยังมีกระปุกเกียร์คุณภาพสูงที่ทำให้ตัวหุ่นยนต์ ใช้เวลาเพียงแค่ 0.36 วินาทีในการเคลื่อนที่ไปยังจุดที่คำนวนไว้ และเป็นเหตุผลทำไม มันจึงสามารถเซฟลูกยิงไว้ได้เกือบทั้งหมด 

“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาแค่เสี้ยววินาที เร็วกว่าที่คุณเตะบอลหรือผู้รักษาประตูมนุษย์จะเคลื่อนที่ได้” แลงทรี กล่าว 

“เนย์มาร์และเมสซีต่างพยายามเอาชนะ RoboKeeper และก็ล้มเหลว (ในตอนแรก) มันมีวิดีโอเป็นหลักฐาน ดังนั้นคุณจะเห็นว่ามันยากแค่ไหนที่จะเอาชนะมันได้”

แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับ วลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อผู้นำสูงสุดของรัสเซีย สามารถเอาชนะ RoboKeeper ได้อย่างดาย ในระดับไม่ได้ออกแรงเต็มที่ด้วยซ้ำ 

เหตุการณ์ดังกล่าวต้องย้อนกลับไปในปี 2018 ที่ RoboKeeper ถูกนำไปแสดงที่จตุรัสแดงของรัสเซีย ในช่วงฟุตบอลโลก 2018 และทำให้ ปูติน ได้มีโอกาสท้าทายกับหุ่นยนต์อัจฉริยะตัวนี้ 

แต่แทนที่ ปูติน จะต้องออกแรงอย่างเต็มที่ เขากลับแค่แปบอลให้ลอยในระดับหัวเข่า ค่อย ๆ ลอย เข้าไปตุงตาข่าย โดยที่ RoboKeeper พุ่งตามอย่างช้าๆ จนไม่ทันเซฟได้ 

แม้ว่าจะไม่มีคำยืนยันจากผู้ผลิตว่าเพราะเหตุใด RoboKeeper จึงเคลื่อนที่ได้ช้ามาก ไม่เหมือนกับตอนเจอนักเตะระดับโลก แต่ก็คาดกันว่าทีมงานไม่อยากให้ท่านผู้นำต้องเสียหน้า จึงให้หุ่นยนต์ผู้รักษาประตูของพวกเขา เซฟบอลไม่ได้ 

เพราะหลังจากนั้น เมื่อ จานนี่ อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า ได้ลองยิงบ้าง RoboKeeper ก็เคลื่อนที่แบบไม่สุด จนทำให้ลูกยิงของเขาเสียบมุมเข้าไปเช่นกัน 

ทำให้ความ “อยู่เป็น” น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ RoboKeeper ที่เกือบจะไร้เทียมทาน ต้องมาแพ้ผู้นำสูงสุดของรัสเซียอย่างง่ายดาย