อิปเปอิ มิซึฮาระ : เมื่อล่ามที่ ‘โชเฮอิ โอตานิ’ ไว้ใจ สุดท้ายกลับร้ายที่สุด

Maruak Tanniyom

March 22, 2024 · 2 min read

อิปเปอิ มิซึฮาระ : เมื่อล่ามที่ ‘โชเฮอิ โอตานิ’ ไว้ใจ สุดท้ายกลับร้ายที่สุด
กีฬาอื่น ๆ | March 22, 2024
นี่อาจจะไม่ได้เป็นแค่การเสียล่ามคู่ใจ และเหมือนการเสียเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดหลายปีในต่างแดน

เรียกได้ว่าเป็นข่าวช็อควงการเบสบอล ทั้งในญี่ปุ่น และทั่วโลก เมื่อ อิปเปอิ มิซึฮาระ ล่ามคนสนิทของ โยเฮอิ โอตานิ ยอดนักเบสบอลชาวญี่ปุ่น ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินเพื่อนร่วมชาติของเขาไปใช้หนี้การพนัน และถูกไล่ออกจากสโมสร 

จากรายงานของ ESPN ระบุว่ามีเงินมากถึง 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 163 ล้านบาท) ที่ถูกถอนออกไปจากบัญชีของ โอตานิ ที่ มิซึฮาระ เป็นผู้ดูแล โดยมีปลายทางอยู่ที่บริษัทพนันของ แมตต์ โบว์เยอร์ ที่เพิ่งถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการพนัน จากทางการสหรัฐฯ 

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญกว่าเงินก็คือนี่อาจจะเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของ โอตานิ นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในเมเจอร์ลีกเบสบอล ในปี 2017 เพราะ มิซึฮาระ ไม่ใช่แค่ล่าม แต่เป็นเหมือนคู่หูคนสำคัญในการมาล่าฝันที่แดนลุงแซม 

ทั้งคู่เจอกันครั้งแรก ตอนที่ มิซึฮาระ ซึ่งเคยมาใช้ชีวิตอยู่ที่ ลอสแอนเจลิส กับครอบครัวตั้งแต่เด็ก กลับญี่ปุ่น เพื่อไปเป็นล่ามให้กับผู้เล่นต่างชาติของ นิปปอนแฮม ไฟเตอร์ส ในปีที่ โอตานิ ถูกทีมดังจากฮอกไกโด ดราฟท์ตัวไปร่วมทีม 

ในตอนนั้น นอกจากคอยแปลบทสัมภาษณ์ของผู้เล่นต่างชาติกับสื่อทั้งก่อนเกมและหลังเกมแล้ว มิซึฮาระ ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้เล่นเหล่านั้น สามารถปรับตัวเข้ากับญี่ปุ่นได้ และจากความเป็นคนง่ายๆ ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้เล่นและสื่อ 

“อิปเปอิ เป็นคนตลกมาก เขาเล่นเกม และทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น” คริส มาร์ติน อดีตพิชเชอร์ของ ไฟท์เตอร์กล่าวในพอดแคสต์ Baseball Isn’t Boring 

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ โอตานิ จ้าง มิซึฮาระ เป็นล่าม ตอนที่เขาย้ายไปร่วมทีม ลอส แอนเจลิส แองเจิลส์ เมื่อปี 2017 และได้เป็นพนักงานของสโมสร ก่อนที่หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ โอตานิ 

เขากลายเป็นสะพานในการเชื่อมโยง โอตานิ เข้ากับ แองเจิลส์ ทั้งคอยช่วยแปลบทสนนาในระหว่างการฝึกซ้อม ไปจนถึงตามไปถ่ายทอดคำพูดของโค้ชตอนที่สตาร์ชาวญี่ปุ่น เตรียมออกไปขว้างที่เนินขว้าง 

“ทั้งคู่ตัวติดกันราวกับปาท่องโก๋” โจ แมดดอน ผู้จัดการทีมของ แองเจิลส์ กล่าวกับ Kyodo News เมื่อปี 2021 

มิซึฮาระ ยังเป็นคนช่วยรับบอล ตอนที่ โอตานิ ฝึกซ้อม หรืออบอุ่นร่างกาย หรือบางครั้งเขาก็สวมอุปกรณ์ของแคชเชอร์แบบเต็มยศ ตอนที่ผู้เล่น MVP 2 สมัย ออกไปที่ยังพื้นที่เตรียมตัวสำหรับพิชเชอร์ (Bullpen) 

เขายังอยู่เคียงข้างกับ โอตานิ และทำหน้าที่เป็น แคชเชอร์ ตอนที่เจ้าตัวเข้าร่วมการแข่งขัน Home Run Derby เมื่อปี 2021 หรือแม้แต่ตอนที่ โอตานิ ไม่ต้องการล่าม หลังเดินทางกลับมาเล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่นในเวิลด์ เบสบอล คลาสสิค มิซึฮาระ ก็ร่วมเดินทางมากับเขา 

นอกจากนี้ เขายังมีส่วนไม่น้อยในการช่วยให้ โอตานิ สามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ในต่างแดน แถม ก่อนที่ โอตานิ จะได้ใบขับขี่ในสหรัฐฯ เขาก็ทำหน้าที่เป็นสารถีคอยรับ-ส่งดาวเด่นชาวญี่ปุ่น หรือแม้แต่ช่วยไปซื้อของตอนที่ โอตานิ ได้รับบาดเจ็บในช่วงปี 2019-2020

“มันคือส่วนสำคัญ เราอยู่ด้วยกันตลอดเกือบทุกวัน มากกว่าที่ผมอยู่กับภรรยาเสียอีก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่หากคุณไม่ได้เข้าใจในระดับส่วนตัว” มิซึฮาระ กล่าวกับ The Athletic เมื่อปี 2023 

ดังนั้น เมื่อ มิซึฮาระ กลายเป็นผู้ต้องสงสัยยักยอกเงิน จึงถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะนี่คือคนที่ โอตานิ ไว้ใจที่สุด เพราะเขาไม่ใช่แค่ล่าม แต่เป็นเหมือนเพื่อนต่างวัยที่รู้ใจ และเชื่อใจตลอดชีวิตกว่า 7 ปีในสหรัฐอเมริกา 

อย่างไรก็ดี ก็มีข้อสังเกตว่า นี่อาจจะเป็นการเสียสละตัวเองของ มิซึฮาระ เพื่อให้ โอตานิ ไม่มีส่วนข้องเกี่ยวกับการพนัน ที่แม้ว่าจะถูกกฎหมายในหลายรัฐ แต่ก็ยังเป็นสิ่งผิดกฏหมายในแคลิฟอร์เนีย ที่พวกเขาอาศัยอยู่

เนื่องจากในตอนแรก มิซึฮาระ ให้สัมภาษณ์กับ ESPN ว่า โอตานิ รู้เรื่องนี้ หลังจากเขาไปขอร้องให้ สตาร์เลือดซามูไร ช่วยจ่ายหนี้สินที่ล้นพ้นตัวเขา แม้ว่าเขาจะมีรายได้ต่อปีอยู่ในราว 300,000 – 500,000 หรือราว 11-18 ล้านบาท (ราว 900,000-1.5 ล้านบาทต่อเดือน) ก็ตาม 

“แน่นอนว่า (โอตานิ) ไม่ได้แฮปปี้กับมัน และบอกว่าเขาจะช่วยผม เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่กลับมาเล่นมันอีก” มิซึฮาระ กล่าว 

มิซึฮาระ สารภาพว่าเขาเริ่มถลำลึก หลังจากได้เจอกับ โบว์เยอร์ ในปี 2021 และตลอดเกือบ 2 ปีหลังจากนั้น เขาต้องสูญเงินไปมากกว่า 1 ล้านเหรียญ หรือกว่า 36 ล้านบาท 

“ผมห่วยมาก (ในเรื่องพนัน) ผมจะไม่เล่นแล้ว ผมไม่เคยได้เงินเลย” มิซึฮาระกล่าว 

“ผมหมายความว่าผมขุดหลุมฝังตัวเอง ผมพยายามจะหาเงินให้ได้มากขึ้น หมายความว่าต้องลงเดิมพันหนักขึ้น เพื่อหลุดพ้นจากมัน และผมก็แพ้ มันเหมือนดินพอกหางหมู” 

ล่ามวัย 39 ปี เล่าให้ ESPN ฟังว่า หลังจากที่ โอตานิ ตกลงที่จะใช้หนี้ให้เขา นักเบสบอลของแองเจิลส์ ก็ ล็อกอินเข้าไปในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ก่อนจะโอนเงินจากบัญชีตัวเอง ที่ มิซึฮาระ รับผิดชอบอยู่ ไปยังบัญชีของบริษัทพนัน เป็นงวดๆ โดยโน้ตว่า ‘เงินกู้’ 

ซึ่งตรงกับหลักฐานว่า มีการจ่ายเงิน 500,000 เหรียญ 2 ครั้งในเดือนกันยายน และธันวาคม ไปยังบริษัทรับแทง ที่ดำเนินการโดย โบว์เยอร์ 

“เราได้เพิ่มคำอธิบายสำหรับการโอนเงิน ผมคิดว่า แมตต์ (โบว์เยอร์) น่าจะบอกผมว่าแค่ใส่คำว่า ‘กู้’ ลงไป คุณต้องใส่อะไรลงไปสักอย่าง” มิซึฮาระกล่าว

ส่วนเพราะเหตุใด โอตานิ ไม่เอาเงินให้ มิซึฮาระ โดยตรง ล่ามชาวญี่ปุ่นกล่าวว่าเป็นเพราะ โอตานิ ไม่ไว้ใจเขา และกลัวว่าเขาจะเอาเงินไปใช้อย่างอื่น เช่น เอาไปเล่นพนันต่อ แล้วไม่ได้ปลดหนี้ 

“เขาบอกผมว่าอยากให้หลุดพ้นจากการพนัน” มิซึฮาระอธิบาย

อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา มิซึฮาระ ก็กลับคำให้การ โดยบอกว่า โอตานิ ไม่รู้เรื่องหนี้พนันที่เขาก่อขึ้น นอกจากนี้ ทนายความของ นักเบสบอลคนดัง ยังกล่าวว่า ลูกความของเขาเป็นเหยื่อ จากการโจรกรรมครั้งใหญ่ 

“ในการตอบข้อซักถามของสื่อ เราพบว่า โอตานิ คือเหยื่อของโจรกรรมครั้งใหญ่ และเราก็กำลังส่งเรื่องนี้ไปยังเจ้าหน้าที่” แถลงการณ์จากทนายของ โอตานิ 

เนื่องจากตามกฎของ MLB ได้ระบุไว้ว่า ห้ามผู้เล่น สต้าฟโค้ช หรือเจ้าหน้าที่ ของสโมสรหรือลีก เล่นพนันเบสบอลอย่างเด็ดขาด และแม้ว่า มิซึฮาระ จะยืนยันว่า โอตานิ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพนันเลย แต่การที่บัญชีที่มีชื่อของสตาร์ชาวญี่ปุ่น โอนไปยังบัญชีของบริษัทรับแทง ก็อาจจะทำให้เขาตกอยู่ในเครือข่ายนี้ได้ 

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือให้ มิซึฮาระ เป็นผู้กระทำผิดแต่เพียงผู้เดียว ด้วยวิธียักยอกเงินที่ตัวเองมีสิทธิ์ดูแล ซึ่งฟังดูมีน้ำหนักพอที่จะตอบคำถามว่าเพราะเหตุใด เส้นทางการเงินจากบริษัทพนัน จึงเชื่อมโยงบัญชีของนักเบสบอลคนนี้ 

นี่อาจจึงเป็นการยอมรับกรรมแต่เพียงผู้เดียว เพื่อไม่ให้ โอตานิ ต้องตกอยู่ในร่างแห ที่อันที่จริงตัวเขาเองก็ไม่ได้ก่อ และต้องการเพียงแค่อยากช่วยเพื่อนเท่านั้น

“แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นความผิดของผม ทั้งผมที่ผมทำลงไป ผมพร้อมที่จะเผชิญกับผลที่ตามมา” มิซึฮาระ กล่าวนี้ 

เรื่องนี้ก็คงจะต้องติดตามกันต่อไป ว่าบทสรุปจะเป็นเช่นไร แต่แน่นอนว่ามันต้องส่งผลกระทบกับ โอตานิ ที่เพิ่งเซ็นสัญญาประวัติศาสตร์ มูลค่า 700 ล้านเหรียญฯ (25,000 ล้านบาท) 

เนื่องจากว่า โอตานิ ไม่ได้เสียแค่ล่ามคู่ใจ แต่เหมือนเสียทั้งเพื่อนสนิท พี่ชาย และที่ปรึกษาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และที่สำคัญ สายสัมพันธ์และมิตรภาพ ที่ไม่สามารถซื้อได้ ไม่ว่าจะใช้เงินกี่ร้อยล้านก็ตาม