ที่ผ่านมาเมื่อไหร่ที่ทั้งคู่โคจรมาเจอกันต่างได้รับความสนใจ พร้อมมีแฟนบอลตีตั๋วเข้าชมในสนามเต็มความจุอยู่เสมอ
นอกจากความสนุกในสนามแล้ว ที่ผ่านมาพวกเขาทั้งสองสโมสรคือคู่แข่งแย่งแชมป์กันโดยตรงมาตลอด ซึ่งจากทำเนียบการคว้าแชมป์คือทีมอันดับ 1 และ 2 ที่คว้าโทรฟี่แชมป์ไปครองได้มากที่สุดตลอดกาล
ทำไมทั้งคู่ถึงเป็นคู่อริกัน และทำไมเมื่อการโคจรกันเมื่อไหร่ยังได้รับความสนใจ วันนี้เราไปหาคำตอบของ ดาร์บี้ แมตช์ อันดุเดือดของเกมนี้กัน
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2009 เรียกได้ว่าเป็นห้วงเวลาของการตั้งไข่ และฟุตบอลไทยลีกในบ้านเรามีกระแสตอบรับจากแฟนบอลเป็นอย่างมาก จากเดิมที่หลายๆ สโมสรมีฐานแฟนบอลแน่นอยู่แล้วทั้ง ชลบุรี เอฟซี, นครปฐม ยูไนเต็ด หรือ บีอีซี เทโรศาสน
นอกจากทีมในกลุ่มดังกล่าวแล้วในฤดูกาลดังกล่าวก็มีทีมน้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สร้างปรากฏการณ์คว้าแชมป์ลีกล่าง 2 ปีซ้อน พร้อมมีการคว้านักเตะระดับทีมชาติเข้ามาทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ หรือ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว
สุดท้ายทัพ “กิเลนผยอง” สามารถคว้าแชมป์ไทยลีกมาครองได้สำเร็จ ทั้งที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาได้เพียงปีแรก ณ ตอนนั้นเหมือนเป็นการประกาศศักดาว่าพวกเขาพร้อมแล้วสำหรับการเป็นบิ๊กทีมแนวหน้าของเมืองไทย และสถาปนาตัวเองเป็นคู่แข่งลุ้นแชมป์กับ ชลบุรี เอฟซี
ทว่าหลังจากนั้นในซีซั่นถัดมาด้วยการซื้อสิทธิ์ทำทีมของนาย เนวิน ชิดชอบ พร้อมเปลี่ยนสโมสรจาก การไฟฟ้า มาใช้ชื่อ บุรีรัมย์ พีอีเอ เรื่องราวของการต่อสู้ก็เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา
จากเดิมการแย่งแชมป์ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นของ กิเลน กับ ฉลาม กลายเป็นว่า ปราสาทสายฟ้า ได้พุ่งพรวดขึ้นมาเป็นเหมือนอีกหนึ่งหอกข้างแคร่ในการลุ้นความสำเร็จ ด้วยเม็ดเงินสนับสนุนทีม ด้วยการดึงตัวผู้เล่นฝีเท้ายอดเยี่ยม ทั้งไทย และต่างประเทศ สามารถยกระดับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้อย่างแท้จริง
ถึงตรงนี้แฟนบอลสามารถรับรู้ได้แล้วว่าเมื่อใดที่ทั้งคู่โคจรมาดวลกันมันคือความมันส์ที่กำลังจะปรากฎในอีก 90 นาทีต่อจากนี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องของผลการแข่งขัน แต่มันคือศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถยอมกันได้
จากนั้นก็กลายเป็นเสือ 2 ตัวที่แย่งชิงความเป็น 1 ของฟุตบอลไทย ฝั่ง เมืองทองฯ ก็อุดมไปด้วยสตาร์ชื่อดังที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาเสริมทัพ เช่นเดียวกับ บุรีรัมย์ ที่ขึ่้นชื่อเรื่องของการซื้อ-ขาย มีนักเตะอิมพอร์ตดีๆ มากมายหลายคน
ในช่วงระหว่างปี 2009-2017 เรียกได้ว่าเป็นห้วงแห่งการชิงดีชิงเด่นของทั้งคู่ เมืองทองฯ คว้าแชมป์ไปครอง 4 สมัย ส่วน บุรีรัมย์ สอยไปครอง 5 ครั้ง
นอกจากฟุตบอลลีกแล้ว ในรายการบอลถ้วยต่างๆ ก็คือในอีกรูปแบบความสนุกที่แตกต่างกันออกไป แม้สุดท้ายบทสรุปในเกมน็อคเอาท์ต่างๆ ฝั่ง “ปราสาทสายฟ้า” ที่สมหวังมากกว่าก็ตาม
นอกจากอัตราความมันส์ในสนาม วลีเด็ดๆ นอกสนามก็ถือว่าเป็นการบิ้วท์อารมณ์ได้เป็นอย่างดี ย้อนกลับไปช่วงเริ่มแรกของ บุรีรัมย์ ที่ยังคงมีคำว่า พีอีเอ ต่อท้าย เรื่อยมาจนถึงเป็น ยูไนเต็ด พวกเขาไม่เคยพลาดท่าต่อ เมืองทองฯ ติดต่อกันมากถึง 20 เกม
จนมีวลีเด็ดที่กล่าวว่า “แพ้ใครได้ แต่ไม่แพ้เมืองทอง” เพราะสถิติในตอนนั้นมันคือเครื่องบ่งชี้ว่าทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ข่มมิดในทุกมุมยามที่ต้องลงสนามพบกับทีมคู่อริรายนี้
จนกระทั่งคำพูดดังกล่าวถึงวันย้อนเข้าตัว และเป็น เมืองทองฯ ที่ปลดล็อคทุกอย่างในใจได้ด้วยการเอาชนะ บุรีรัมย์ ได้เป็นครั้งแรกในเกมที่บุกไปเยือนถิ่นทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ซึ่งตอนนั้นคุมโดย “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน
นอกจากประโยคข้างต้นแล้วอีกหนึ่งคำสัมภาษณ์ที่ยังคงอยู่ในความทรงคำที่กล่าวโดยท่านประธาน เนวิน ก็คือ “งูเหลือม กับเชือกกล้วย” ที่บ่งบอกประมาณว่า เมืองทองฯ โคจรมาเจอกับ บุรีรัมย์ เมื่อใด ก็มีอันต้องพ่ายแพ้กลับไปทุกที
อย่างไรก็ตามด้วยเวลาที่ผ่านไปวลีเด็ดๆ นอกสนามก็เริ่มจางหาย เพราะการเจอกันของทั้งสองไม่สามารถคาดเดาอะไรก่อนเกมได้เลยว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
ที่ผ่านมามีไม่น้อยที่นักเตะจากทั้งฝั่ง บุรีรัมย์ หรือ เมืองทอง ยูไนเต็ด จะย้ายสลับขั้วกัน หรือเคยเล่นให้อีกทีม ก่อนที่อนาคตจะย้ายสวมยูนิฟอร์มของอีกฝั่ง
แต่กระนั้นถ้าจะหาดีลที่สร้างแรงสั่นสะเทือนได้มากที่สุดคือการย้ายทีมแบบโดยตรงของ ธีราทร บุญมาทัน เมื่อช่วงปี 2016 จนเกิดกระแสมากมายในโลกโซเชียล
ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของการแยกทางระหว่าง “เจ้าอุ้ม” กับ บุรีรัมย์ คือหลังจบเกม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พวกเขาพ่ายคาบ้านต่อ เอฟซี โซล 0-6 ก็ได้มีคอมเมนต์จากแฟนบอลแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ ซึ่ง ธีราทร เป็นหนึ่งในคนที่ถูกโจมตี
โดยโพสต์ดังกล่าวได้พูดถึงฟูลแบ็ครายนี้ไว้ว่า “ธีราทร เป็นคนที่เล่นเพื่อตัวเอง ไม่ใช่คนที่เล่นเพื่อทีม” จากนั้นแอ็คเคาน์ของ บุรีรัมย์ ก็ได้มาตอบเมนต์ดังกล่าวว่า “วิเคราะห์ถูกต้องค่ะ” ซึ่งจากนั้น บุรีรัมย์ ผลงานก็ออกแนวกระท่อนกระแท่นตกรอบแบ่งกลุ่มบอลถ้วยเอเชีย ส่วนในเกมลีกไม่สวยงามนัก
ซึ่งในช่วงดังกล่าวก็ได้มีกระแสข่าวเรื่องการย้ายทีมของ ธีราทร ที่หนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่เป็นที่น่าเชื่อถือนัก เพราะคู่ค้าในตอนนั้นที่มีข่าวเชื่อมโยงด้วยคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด คู่อริเบอร์ 1 ตลอดกาล
ทว่าสุดท้ายถูกไขกระจ่างเมื่อ บุรีรัมย์ ได้ออกแถลงการณ์ปล่อยตัว ธีราทร ไปให้กับ เมืองทอง ยูไนดเต็ด ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะเป็นความต้องการของนักเตะเอง
จากนั้นเรื่องราวก็เกิดกระแสดราม่าต่างๆ ทั้งเกมที่ทั้ง “เจ้าอุ้ม” โคจรมาเจอทีมเก่า พร้อมคำพูดที่กล่าวว่า “สะใจครับ สะใจ” หรือท่าดีใจไปเต้น ไก๊ ไก่ ที่รัง บุรีรัมย์
อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่ผิดใจกันทุกอย่างถูกเคลียร์เป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่ปัจจุบัน “เจ้าอุ้ม” ในฐานะแชมป์เจลีก กับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส จะกลับมาสู่ทีมเก่าย่านอีสานใต้อีกครั้ง
จากที่กล่าวไปทั้งหมดไม่ว่าทั้งคู่จะโคจรมาเจอกันในสถานการณ์ไหนอัตราความมันยังคงอบอวลให้แฟนบอลได้สัมผัสอยู่เสมอ
อย่างเมื่อฤดูกาลก่อนก็กลายเป็นหนึ่งในเกมสุดคลาสสิคของฟุตบอลไทย ในเกมที่ ธันเดอร์โดม สเตเดียม ที่จบ 90 นาทีด้วยผลเสมอ 4-4 ชนิดที่ บุรีรัมย์ เป็นฝ่ายตามหลังถึง 3 ประตู ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย
หรือขวบปีแรกที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ เข้ามาทำทีม ท่ามกลางปัญหาเรื่องของผลงาน เมืองทองฯ ในตอนนั้น ทว่าพวกเขาสามารถยุกไปยัดเยียดความปราชัยให้ บุรีรัมย์ ถึงถิ่น
นี่คือตัวอย่างของความสิก และความสนุกเมื่อทั้ง เมืองทอง ยูไนเต็ด โคจรมาดวล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะสถานการณ์แบบไหน ทีมไหนดี หรือทีมไหนแย่ 90 นาทีในสนาม ทั้ง 2 ฝั่งต่างงัดศักยภาพออกมากันอย่างเต็มที่
และไม่แปลกถ้าจะบอกว่านี่คือไม้เบื่อไม้เมาที่สู้กันได้อย่างสนุกของวงการลูกหนังเมืองไทยอย่างแท้จริง
ชื่อของ โจนาธาน โซเรียโน่ กองหน้าชาวสแปนิชอาจไม่ได้ถูกจดจำมากนักในฐานะนักเตะที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่สำหรับสโมสร เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก จากบุนเดสลีก้า ออสเตรีย นี่คือตำนานของสโมสรโดยแท้จริง ผลงานตลอด 6 ฤดูกาลของเขามหัศจรรย์เหลือเกิน โดยลงเล่นไปทั้งหมด 202…
ในวงการฟุตบอลผลแพ้ ชนะ เป็นเรื่องปกติธรรมชาติสุดๆไม่มีใครหรือทีมไหนที่ไม่เคยแพ้ แต่มันก็มีนักเตะอยู่ไม่น้อยที่เมื่อใดก็ตามพวกเขาสามารถทำประตูได้ทีมจะไม่แพ้ ซึ่งต้องขยายความเพิ่มว่านักเตะที่เลือกมาในวันนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยแพ้ แต่จะเป็นประตูได้และไม่แพ้นานที่สุด 1.กาเบรียล เชซุส กาเบรียล เชซุส เป็นนักเตะที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาเยอะมากถึง 226 นัด โดยแบ่งเป็น…
เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์สำหรับฟุตบอลอังกฤษ ที่จะต้องมีการแข่งขันในวันแกะกล่องของขวัญ หรือที่รู้จักกันใน “วันบ็อกซิ่งเดย์” เพื่อให้แฟนบอลได้ฉลองวันส่งท้ายปีไปพร้อมกับเชียร์ทีมรัก ทั้งนี้ ธรรมเนียมนี้ของชาวแดนผู้ดี แทบจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ลีกของยุโรป ที่มีโปรแกรมในวันที่ลีกอื่นพักเบรกหนีหนาว เพราะเหตุใด พวกเขาจึงต้องจัดโปรแกรมในวันนี้ ? และบางทีมันอาจจะเกี่ยวเนื่องในเชิงประวัติศาสตร์ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน บ็อกซิ่งเดย์คืออะไร?…
เรียกได้ว่าเป็นไวรัลอีกแล้ว เมื่อ ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานนักเตะของสโต๊ค ซิตี้ และลิเวอร์พูลหรือแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มักถูกแฟนบอลแซวเรื่องคำวิจารณ์และทายผลลัพธ์ต่างๆ อยู่เสมอว่าความแม่นยำไม่ค่อยมีนั้น ได้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป็ป…
แม้ว่าในเกมล่าสุดที่อาร์เซนอลสามารถบุกไปเอาชนะคริสตัล พาเชซ มาได้ด้วยสกอร์สุดสวย 5-1 แต่ถ้ามองในรายละเอียดเกมทั้งหมดก็จะเห็นว่าอาร์เซนอลยังมีความผิดพลาดอยู่บ้างเล็กน้อยโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก หนึ่งในจังหวะหวาดเสียวที่สุดคือในนาทีที่ 10 ที่อาร์เซนอลพยายามจะบิ้วอัพจากหลังแต่คริสตัล พาเลซก็สามารถเพลสซิ่งได้ดี ในขณะนั้นบอลอยู่กับ เดบิด ราย่า เขามองขึ้นหน้าและเลือกจ่ายบอลไปให้ โธมัส ปาเตย์…
ถ้าพูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย มีทั้งฝั่งที่เห็นใจ เข้าใจ และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแรชฟอร์ด ในส่วนของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับแรชฟอร์ดต่างบอกว่าต้องการให้แรชฟอร์ดย้ายออกจากทีมไปและไม่ว่าทีมไหนที่ได้ตัวไป นั้นจะเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนี่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่สุดโต่งไปหน่อยและไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้นเช่นกันกับ เอียน ไรท์ อดีตตำนานกองหน้าของอาร์เซนอล ที่ออกแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ผมย้ายไปอาร์เซนอลตอนอายุ…