เห็นตัวอย่างแย่ๆ มาเยอะ ! สวีเดน ชาติแรก ปฏิเสธและต่อต้าน การใช้เทคโนโลยี “วีเออาร์”

เทคโนโลยี VAR หรือ Video Assistant Referee ถูกนำมาใช้ในเหล่าบรรดาลีกชั้นนำเพื่ออำนวยและช่วยให้ทีมเชิ้ตดำทำงานได้ง่ายและมีการตัดสินที่ถูกต้องมากขึ้น ลดจังหวะน่ากังขามากขึ้น

แต่ถึงกระนั้นตลอดช่วงที่ผ่านมากลายเป็นว่าเจ้าเทคโนโลยีตัวช่วยผู้ตัดสินนั้นกลับโดนกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าเราจะสามารถย้อนไปดูภาพช้าในจังหวะที่เกิดขึ้นไวหรือลับตาผู้คน แต่มันก็ถือการเป็นการทำลายเสน่ห์ของเกมฟุตบอล และไม่สามารถช่วยให้การเกิดการตัดสินที่ถูกต้อง เพราะว่าสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการอยู่ดี

ยิ่งใน อังกฤษ มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นแทบทุกสัปดาห์ไม่ว่าจะเป็นเกมเล็กหรือเกมใหญ่ ยกตัวอย่างเคสใหญ่ๆ ในรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ คู่ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี

จังหวะที่ โคล พาลเมอร์ รับหน้าที่ยิงลูกฟรีคิก บอลจากเท้าของเขาพุ่งไปโดนแขนของ แจ็ค กรีลิช ที่กางออกจากลำตัว VAR แสดงภาพให้เห็นชัดเจนว่าเป็น “แฮนด์บอล” แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ให้จุดโทษ และไม่ได้แม้กระทั่งลูกเตะมุมทั้งๆ ที่บอลมันโดนผู้เล่น “เรือใบสีฟ้า” ออกหลังไป

เทคโนโลยี VAR ไม่ได้ช่วยลดข้อกังขาในการตัดสินแถมยังเกิดข้อผิดพลาดมากกว่าเดิม และก็เกิดขึ้นจากหลายๆ ที่ในลีกชั้นนำ และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ สวีเดน เป็นชาติแรกที่ปฏิเสธการใช้ VAR

18 จาก 32 สโมสรในประเทศแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เอา VAR เช่นเดียวกับเหล่าสมาคมในระดับภูมิภาคด้วยเหมือนกัน เพราะผู้คนเริ่มกังวลกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยอ้างอิงตัวอย่างสำคัญจากลีกอื่นๆ 

เฟรดริค ไรน์เฟลด์ท ประธานสมาคมฟุตบอลสวีเดน บอกว่า “ถ้าผมนับไม่ผิด เรามี 18 สโมสรที่ไม่ต้องการนำ VAR มาใช้ เราให้ความเคารพในเรื่องนั้น นั่นคือเหตุผลที่เราไม่ยื่นเรื่อง VAR ในที่ประชุมกับคณะกรรมการ ตลอดจนในอนาคต ผมยืนหยัดในประชาธิปไตยของความเห็นส่วนใหญ่”

ก่อนหน้านี้หลายๆ ฝ่ายค่อนข้างเป็นกังวลว่า การใช้ VAR นั้นอาจเป็นข้อกำหนดของทาง “ยูฟ่า” แต่จริงๆ แล้วไม่มีการบังคับใช้ และจากนั้นก็มีแฟนบอลในโซเชี่ยลเข้ามาแสดงความชื่นชมกันยกใหญ่ “ทำดีมาก สวีเดน เจ๋งไปเลยว่ะ, สุดยอดมาก สวีเดน การต่อต้านได้เริ่มขึ้นแล้ว, หวังว่าผู้กำหนดกฏเกณฑ์ใน พรีเมียร์ลีก จะทำตาม, ขอให้มันหายไปจาก พรีเมียร์ลีก สักทีเถอะ”

เท่ากับว่าตอนนี้ สวีนเดน เป็นชาติแรกใน 30 อันดับทีมชั้นนำของยุโรปที่ไม่มีการนำเทคโนโลยี VAR มาใช้งาน