“จาง เล” โค้ชฟิตเนสชื่อดังชาวเวียดนาม . . . ผู้ที่เป็นไอดอลของคนรักการออกกำลังกาย

 

“มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า ‘A life like a pathfinder’ โดยผู้เขียน ฟาน วัน เจือง ซึ่งเป็นการพูดถึงการก้าวหน้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดและพัฒนาการของผู้คนทุกวัย”

“มันเหมาะสำหรับคนหนุ่มสาวแบบฉัน ผู้ที่ปรารถนาจะก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ และไม่กลัวการล้มเหลว”

นี่คือสิ่ง “จาง เล” กล่าวไว้ในการให้สัมภาษณ์กับ Mansion Sports เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าในสังคมของผู้ชื่นชอบการออกกำลังกาย เขาเป็นโค้ชฟิตเนสชื่อดังของ เวียดนาม เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจที่ดีให้กับคนในโลกโซเชี่ยล

Q : อะไรที่ทำให้คุณมาสนใจเรื่องการออกกำลังกาย และเป็นเทรนเนอร์ที่ประสบความสำเร็จจนถึงทุุกวันนี้ ? ฟิตเนส เปลี่ยนชีวิตคุณอย่างไรบ้าง ?

A : เมื่อตอนฉันเริ่มออกกำลังกายครั้งแรก มันยังเป็นอุตสาหกรรมที่ใหม่มากๆ นั่นคือช่วง 10 ปีที่แล้ว โชคดีที่ตอนนั้นฉันได้เห็นยิมที่เปิดรับสมัครเทรนเนอร์ นั่นจึงทำให้ฉันได้มาอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้

ฉันไม่ใช่คนที่กระตือรือร้นอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเชื่อว่าตัวเองนั้นมีความสามารถและหลงใหลในการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก ฟิตเนส ทำให้ฉันเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น นิสัยที่ดีต่อสุขภาพ สุขภาพดีขึ้น มีวินัยและมีรูปร่างที่ดีขึ้น ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนที่มีคุณค่าในสายตาของผู้คนเสมอ

ฉันเป็นตัวอย่างให้ผู้คนจดจำ ผู้คนมักถามฉันมากมายเกี่ยวกับเรื่องการออกกำลังกายและเรื่องโภชนาการ

Q : สิ่งที่คุณเคยเผชิญและเอาชนะความท้าทายใดๆ ได้บ้างตลอดเส้นทางอาชีพ 10 ปีที่ผ่านมา

A : ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดน่าจะเป็นตอนที่ฉันสร้างเนื้อหาและคอนเทนต์บนโลกโซเชี่ยล ฉันอยู่ที่นี่มา 7 ปีและแน่นอนว่ามันมีความกดดันมากมาย

ฉันต้องสอนคลาสออกกำลังกาย 15 ถึง 20 คลาสในทุกๆ สัปดาห์ เรียนรู้และพัฒนาความรู้ทางวิชาชีพมากขึ้น สร้างแพลทฟอร์มที่หลากหลาย นอกจากร่างกายจะเหนื่อยล้าไม่พอ มันก็ยังมีความเครียดอยู่ในจิตใจด้วย

จำได้ว่าช่วงปี 2018-2020 มันเป็นช่วงเวลาที่กดดันมาก ฉันไม่ค่อยมีเวลาว่างเล่นเลย มันต้องเรียนและทำสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ แต่ฉันรู้สึกขอบคุณมันมากสำหรับช่วงเวลานั้นเพราะมันทำให้ฉันเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ

พอได้เริ่มสร้างเนื้อหาและคอนเทนต์บนโซเชี่ยล มีหลายคนชื่นชอบและสนับสนุน แต่ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์และปฏิกิริยาเชิงลบเช่นเดียวกัน ตอนนั้นฉันรู้สึกประทับใจกับคำพูดมากกว่า ในที่สุดฉันก็สามารถทำมันขึ้นมาและเดินต่อไปบนเส้นทางที่ฉันเลือกไว้

Q : เรื่องราวที่น่าจดจำล่ะ ?

A : สำหรับฉันแล้วมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องรางวัลหรือใบปริญญาเลย สิ่งที่ฉันประทับใจ มีความสุข และมีค่าที่สุดก็คือความเปลี่ยนแปลงของนักเรียนแต่ละคน พวกเขาเป็นเหมือนญาติและครอบครัวของฉัน

นักเรียนบางคนอายุมากกว่าฉันอีก ความสุขของฉันก็คือเมื่อพวกเขามีสุขภาพที่ดีขึ้น มีความแข็งแรงกว่าหนุ่มสาวคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน ต้องขอบคุณการหมั่นฝึกฝน สุขภาพของพวกเขาดีขึ้นอย่างมาก

Q : พอจะมีคำแนะนำสำหรับคนที่อยากเป็นโค้ชฟิตเนสไหม ?

A : อันดับแรกเลยก็คือเราต้องพัฒนาตัวเองอย่างมืออาชีพอยู่เสมอ นั่นคือสิ่งสำคัญ เราจะต้องเอาเชี่ยวชาญ ณ ตรงนั้นไปมอบเป็นคุณค่าให้กับลูกค้าของเรา

ส่วนอย่างที่สองฉันคิดว่าไม่ใช่แค่อาชีพโค้ช ทุกๆ อาชีพต่างก็ต้องใช้ “หัวใจ” ทุ่มมันลงไป เมื่อคุณมีหัวใจ คุณจะมีวิสัยทัศน์ และเมื่อคุณใส่ใจกับงานของคุณจริงๆ คุณจะคิดถึงลูกค้ามากกว่าตัวเงินหรือผลประโยชน์ส่วนตัว คุณจะไปได้ไกลมากในอาชีพการงานของคุณ

Q ชีวิตคุณเปลี่ยนไปแค่ไหนหลังได้กลายเป็นคุณแม่ ? คุณสร้างความสมดุลระหว่างงานและชีวิตได้อย่างไรบ้าง ?

A : มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากเลย เพราะปกติฉันก็ทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ถึงกระนั้นนิสัยของฉันไม่ใช่คนที่ชอบใช้เวลาดูแลลูก 100% ฉันมีปู่ย่าตายายและพี่เลี้ยงคอยเลี้ยงดูเพื่อให้สามารถกลับไปทำงานได้

ฉันจะไม่หุงข้าวหรือโจ๊กให้ลูกๆ ฉันไม่ใช่คนอาบน้ำหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกๆ ไม่งั้นฉันมีเวลาทำงานน้อยมาก ฉันจะเลี้ยงลูกแค่บางครั้งเท่านั้น

ถึงแม้ฉันจะไม่ค่อยได้ดูแลลูก แต่ฉันก็ยังสังเกตุและใส่ใจทุกสิ่งอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะได้ช่วยเหลือในทิศทางที่ฉันต้องการ

ตอนแรกฉันเองก็สงสัยว่านี่ฉันเป็นแม่ที่ดีรึเปล่า ? แต่แล้วฉันก็รู้ว่ามีคนแบบนี้อยู่มากมาย และด้วยสถานการณ์ของแต่ละคน บางทีมันก็ดีกว่าและเหมาะสมกว่า

แม้ว่าฉันจะไม่มีเวลามากพอที่จะทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ทุกวันเพื่อดูแลลูก แต่เมื่อมีเวลาเล่นกับลูก ฉันจะทุ่มเทความสนใจทั้งหมดให้กับเขา ความรักไม่ได้แปลว่าจะอยู่เคียงข้างและดูแลคุณตลอดเวลาเสมอไป  หากคุณละเลยงานเพราะดูแลลูก คุณจะสูญเสียคุณค่าและเศรษฐกิจของคุณด้วย

ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน ใครๆ ก็ชื่นชมลูกฉัน สุภาพ ฉลาด พูดจาดี แม้ว่าเขาจะอายุเพียง 20 เดือนเท่านั้นก็ตาม ฉันภูมิใจในตัวลูกของฉันมากๆ

Rittichai Sermsuteeanuwat

Share
Published by
Rittichai Sermsuteeanuwat
Tags: Fitspo

Recent Posts

“เพื่อนร่วมรุ่นฮาก” – “มือขวา อาร์เน่อ” บอก 2 คนนี้เหมือนกันแค่ทรงผม

ฟุตบอลของ เอริค เทน ฮาก และ อาร์เน่ สล๋อต ต่างมีแนวทางของตัวเองกันทั้งคู่ อาจจะไม่ได้เอาสไตล์ที่ถือเป็นศาสตร์เบื้องต้นของฟุตบอลดัตช์ทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าจะจาก โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ…

12 hours ago

ใครเตะเยอะไป? รู้จักลีกบราซิลสุดโหดหวดหลัก 60 นัดต่อฤดูกาล

ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รูปแบบใหม่ ประเดิมนัดแรกกันไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากเหล่าผู้เล่น ที่มองว่าพวกเขากำลังจะลงเตะ “มากเกินไป” ในหนึ่งฤดูกาล อย่างไรก็ดีในอีกซีกโลก มีลีกประเทศหนึ่งที่เตะกันอย่างดุเดือดในระดับ 50-60 นัดต่อฤดูกาลอยู่เสมอ และ บราซิล ก็คือประเทศนั้น…

16 hours ago

อาร์เตต้าชี้ปืนเตะ UCL วันพฤหัสไม่เสียเปรียบเรือ ยันจัดเต็มเจอ อตาลันต้า

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มของอาร์เซน่อล เผยว่าการที่ต้องลงเตะเกมแรกของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส ที่จะต้องบุกเยือนแชมป์ ยูโรปา ลีก อย่างอตาลันต้าในคืนวันพฤหัสบดี ไม่น่าจะทำให้ทีมปืนใหญ่เสียเปรียบ…

18 hours ago

แปลกกว่าที่เคย : เผยเหตุผล ทำไมปีนี้มีเกม UCL เตะวันพฤหัสบดี

ปกติแล้ว ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มักจะแข่งกันในคืนวันอังคารหรือไม่ก็คืนวันพุธ มีเพียงแค่เกมรอบชิงชนะเลิศที่จะเตะกันในคืนวันเสาร์เท่านั้นที่เตะในวันที่แตกต่างจากรอบปกติ แต่ในฤดูกาลนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกไปจากที่เคยพอสมควร เมื่อจะมีเกม UCL ในคืนวันพฤหัสบดีด้วย โปรแกรม แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพฤหัสบดีที่…

21 hours ago

ฮาลันด์พลาดโอกาสโค่นสถิติพี่โด้ หลังยิงงูใหญ่ไม่ได้

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ พลาดโอกาสโค่นสถิติที่ไม่เคยมีใครใกล้เคียงจะโค่นลงได้ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่ไม่สามารถมีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้สำเร็จ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส ที่…

21 hours ago

มือขวาอาร์เตต้า รับงานปุ๊ปนั่งดูวีดีโอย้อนหลัง 2 ปี เพื่อแก้เซ็ตพีซโดยเฉพาะ

มิเกล อาร์เตต้า รับงานกับ อาร์เซน่อล และไม่ได้ร้องขอแค่การเสริมทัพเพื่อได้นักเตะที่ถูกต้องตรงปรัชญาเท่านั้น แต่เขายังเรียกร้องการเสริมทีมงานสต๊าฟฟ์ที่แก้ไขจุด่อนทุกทีมที่เคยมี โดยเฉพาะเรื่องของลูกตั้งเตะที่เป็นจุดสลบของทีมมาตลอด กระบวนการสรรหาของ อาร์เซน่อล เริ่มขึ้นหลังจากนั้น คนที่ อาร์เตต้า ร้องขอคือ นิโคลาส โจเวอร์…

1 day ago