เฌเรมี่ ฟริมปง : จากดาวรุ่งตกอับของ แมนฯ ซิตี้ สู่ฟูลแบ็กที่ Hot ที่สุดตอนนี้

Kim Junumporn

March 04, 2024 · 1 min read

เฌเรมี่ ฟริมปง : จากดาวรุ่งตกอับของ แมนฯ ซิตี้ สู่ฟูลแบ็กที่ Hot ที่สุดตอนนี้
ฟุตบอล | March 04, 2024
อดีตคือแรงผลักดันชั้นดี ! เฌเรมี่ ฟริมปง ดาวรุ่งที่เคยโดนมองข้ามสมัยอยู่ "เรือใบ" แต่ตอนนี้คือฟูลแบ็กที่ฟอร์มร้อนแรงสุดๆ

“ผมฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอยู่ตลอด ฟุตบอลมีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด ผมต้องเป็นนักฟุตบอลให้ได้เพราะผมคลั่งไคล้ในเกมการแข่งขันเอามากๆ”

“ผมจำได้ว่าผมทำแฮตทริกได้และคว้าผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์หนึ่งในตอนนั้น แมนฯ ซิตี้, โบลตัน และ ลิเวอร์พูล ก็เลยเข้ามาชวนผมไปทดสอบฝีเท้า ตอนแรกผมจะเลือก ลิเวอร์พูล แต่เราไม่มีรถและระยะทางมันก็ไกลเกินไป ส่วน แมนฯ ซิตี้ ผมเดินทางไปโดยรถบัสแค่เพียง 15 นาทีเท่านั้น”

“ผมจำได้ว่าตอนผมอยู่ในชุด ยู-23 ของ แมนฯ ซิตี้ ผมจำได้ว่ากำลังจะได้สัญญาฉบับใหม่ และนั่นคือตอนที่ผมรู้ว่าเส้นทางของผมกับ ซิตี้ มันสวนทางกัน”

“พวกเขาอธิบายให้ฟังถึงเหตุผลที่ผมไม่มีชื่ออยู่ในทีม และก็เปรียบเทียบผมกับนักเตะคนอื่นๆ ในอคาเดมี่ที่ทำผลงานได้ดีกว่าผม ผมก็คิดได้เลยว่า ‘ใช่แล้ว อนาคตของเรากับที่นี่ไม่แน่นอนจริงๆ’ ดังนั้นผมจึงต้องก้าวไปอีกขั้น”

“ผมจำได้เลยว่าตอนประชุมทีมครั้งนั้น มีคนบอกผมว่า ‘เอ็งตัวเล็กเกินไปนะ’ จากนั้นผมก็คิดว่า ‘อ้าว เวรแล้ว และทีนี่ผมจะไปอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย’ “

“แต่ผมไม่เสียใจนะ เพราะเรารู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนในอคาเดที่จะสามารถเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ชุดใหญ่ได้ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอกที่ได้ยินเรื่องแบบนั้นในฐานะเด็กคนหนึ่ง ผมจึงต้องเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป”

เฌเรมี่ ฟริมปง จากชีวิตดาวรุ่งที่ตกอับกับ แมนฯ ซิตี้ เพราะโดนเปรียบเทียบกับเด็กร่วมรุ่นคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โคล พัลเมอร์, ฟิล โฟเด้น, จาดอน ซานโช่ และ เอริค การ์เซีย โดยเฉพาะบอดี้สรีระที่ตัวเล็กเกินไปและศักยภาพฝีเท้าที่ยังด้อยกว่าคนอื่น กลายเป็นนักเตะคีย์แมนสำคัญที่พา กลาสโกว์ เซลติก คว้า 3 แชมป์ พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2020

แต่ก็ยังไม่หยุดแค่นั้นเพราะ ณ เวลานี้เขาคือฟูลแบ็กที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดบนเวที 5 ลีกดังยุโรปจากการมีส่วนร่วมถึง 20 ประตู (ยิง 10 ประตู ทำ 10 แอสซิสต์) จาก 99 ประตูที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทำได้ในฤดูกลานี้ 

ฟริมปง ในวัย 23 ปีซึ่งมีส่วนสูง 172 เซนติเมตร คือหนึ่งในเบื้องหลังสำคัญของเกมรุกที่จัดจ้านและเกมรับที่แข็งแกร่งที่ช่วยให้พลพรรค  “ห้างขายยา” ยังคงไร้เทียมทาน ยังไม่แพ้ใครจนถึงตอนนี้ที่ 34 นัดติดต่อกัน และกำลังจะพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ บุนเดสลีกา สมัยแรกในรอบ 13 ปีภายใต้การคุมทีมของ ชาบี อลอนโซ่