ฮอร์เก้ "มาจิโก" กอนซาเลซ นักเตะโนเนม เอล ซัลวาดอร์ ที่ มาราโดน่า ยกให้เหนือกว่าตัวเอง

Rittichai Sermsuteeanuwat

April 12, 2024 · 1 min read

ฮอร์เก้
ฟุตบอล | April 12, 2024
ฮอร์เก้ "มาจิโก" กอนซาเลซ นักเตะโนเนม เอล ซัลวาดอร์ ที่ มาราโดน่า ยกให้เหนือกว่าตัวเอง

แฟนบอลยุค 80-90 พอจะมีใครคุ้นชื่อของ ฮอร์เก้ “มาจิโก” กอนซาเลซ กันบ้างไหมครับ ? เขาเป็นตำนานกองหน้าของ ทีมชาติ เอล ซัลวาดอร์ และเคยค้าแข้งอยู่กับ กาดิซ ในช่วงยุค 80-90

แน่นอนว่าชื่อของเขาอาจไม่ได้เป็นที่จดจำหรือมีความหมายมากนักสำหรับแฟนบอลโดยทั่วไป แต่คุณรู้ไหมว่า อดีตนักเตะโนเนมๆ คนนี้กลับได้รับการยกย่องจากตำนานอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า ว่ามีความสามารถและเป็นดาวยิงที่เก่งกว่าเหลือเหนือกว่าตัวเอง

จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดขึ้นในปี 1986 หลังจาก ดีเอโก้ มาราโดน่า พา ทีมชาติอาร์เจนติน่า เถลิงบัลลังก์แชมป์โลก ที่ เม็กซิโก ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ถูกจารึก “ตำนานหัตถ์พระเจ้า” ที่ลือลั่นไปทั่วโลก

มีผู้สื่อข่าวไปสอบถาม ดีเอโก้ มาราโดน่า ในช่วงที่กำลังเตรียมความพร้อมในช่วงปรีซีซั่นกับ นาโปลี เกี่ยวกับความรู้สึกที่เห็นแฟนๆ “อัซซูร่า” เป็นหมื่นๆ คนเข้ามาชมการฝึกซ้อมของเขา แต่สิ่งที่ “เสือเตี้ย” เลือกตอบกลับสร้างความประหลาดใจไม่น้อย

“คุณได้ยินเสียงเชียร์จากแฟนๆ นั่นไหม ? พวกเขายอดเยี่ยมมากจริงๆ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ มันมีนักเตะอยู่คนหนึ่งที่เก่งกว่า เปเล่ และเก่งกว่าผมเสียอีก เขาชื่อ ฮอร์เก้ กอนซาเลซ หรือ เอล มาจิโก และเขาก็ยังค้าแข้งอยู่กับ กาดิซ เขาคือนักเตะระดับปรากฏการณ์”

นั่นคือคำตอบที่ทำให้คนถามรู้สึกตะลึงไปเลยเพราะเขาไม่รู้ว่าใครคือ ฮอร์เก้ กอนซาเลซ

ถ้าจะถามว่าผู้ชายคนนี้เก่งขนาดไหน ? ลองย้อนกลับไปในปี 1982 กับศึก ฟุตบอลโลก ที่ สเปน ฮอร์เก้ กอนซาเลซ เป็นผู้นำทัพ ทีมชาติ เอล ซัลวาดอร์ มาผจญภัยในครั้งนี้ 

ถึงแม้จะต้องจอดป้ายที่รอบแบ่งกลุ่มโดยมี 0 แต้ม และมีเกมที่โดน ฮังการี่ จัดหนักยำใหญ่ไปถึง 10-1 แต่ผลงานส่วนตัวในทัวร์นาเมนต์นั้นกลับทำให้เหล่าบรรดาทีมชั้นนำในยุโรปต่างจับจ้องและให้ความสนใจในตัว ฮอร์เก้ กอนซาเลซ ไม่ว่าจะเป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก มาดริด, ฟิออเรนติน่า และ ซามพ์โดเรีย

หากเป็นนักฟุตบอลส่วนใหญ่ก็คงเลือกทีมใดทีมหนึ่งในกลุ่มเหล่านี้ แต่ที่น่าแปลกใจคือเขาตัดสินใจเลือกย้ายจาก FAS ทีมในบ้านเกิดมาอยู่กับทีมเล็กๆ ในลีกรองของ สเปน อย่าง กาดิซ

เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในปีแรกด้วยการหวดไป 15 ประตูพา กาดิซ ตีตั๋วเลื่อนชั้นสู่เวที ลา ลีกา สเปน บวกกับการมีสไตล์การเล่นที่เร้าใจจึงทำให้แฟนๆ ตั้งฉายาให้เขามา “Magico” หรือถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็คือ “Magic” หรือ เวทย์มนต์

แต่สุดท้าย กาดิซ ก็ไม่สามารถยืนหยัดอยู่บนเวทีลีกสูงสุดของแดนกระทิงได้เกินกว่า 1 ปี เพราะต้องตกชั้นไปในทันควัน แต่ถึงกระนั้นชื่อของ ฮอร์เก้ กอนซาเลซ ก็กลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะกับ บาร์เซโลน่า ถึงขั้นส่งจดมายเชิญมาร่วมทดสอบฝีเท้าและพาไปปรีซีซั่นด้วยกัน

“มาจิโก” ตอบรับข้อเสนอนั้นซึ่งก็เท่ากับว่าตอนนั้นที่ บาร์เซโลน่า จะมีทั้ง ฮอร์เก้ กอนซาเลซ และ ดีเอโก้ มาราโดน่า ถึงแม้จะมีผลงานที่น่าประทับใจแต่ว่ากันว่าเหตุผลที่ บาร์ซ่า ไม่เซ็นสัญญานั้นก็เพราะพฤติกรรมส่วนตัวที่ชอบเสเพลเที่ยวเมาปาร์ตี้ ไม่มีวินัยในตัวเอง และ ขี้เกียจซ้อม

แต่จริงๆ แล้วตัวของ ฮอร์เก้ กอนซาเลซ ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหรือมีความฝันว่าต้องได้โอกาสค้าแข้งกับทีมใหญ่ๆ หรือต้องคว้าความสำเร็จ เพราะครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยพูดว่า “ผมไม่ได้ปฏิบัติต่อฟุตบอลเหมือนเป็นงานหรือเป็นอาชีพ ผมแค่เล่นมันเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น”

คนที่เคยใช้เวลาร่วมกับ “มาจิโก” ต่างก็ยืนยันได้ถึงเรื่องนี้ โดยเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขาเคยบอกว่า “ผมมั่นใจว่า มาจิโก นั้นเก่งกว่า มาราโดน่า เขาเล่นฟุตบอลได้สองเท้า และทำได้ทุกอย่าง เขาเล่นกับใครก็ได้ เขาเป็นอัจฉริยะ แต่เขาเป็นที่ขี้เกียจซ้อมแค่นั้น”

เปเป้ เมฆิอาส อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ กาดิซ กล่าวว่า “เขาได้ลงเล่นทุกนัด และไม่เคยได้รับบาดเจ็บเลย แม้จะได้รับการปะทะจากคู่แข่งแค่ไหนก็ตาม เขาเป็นผู้เล่นอัจฉริยะ ผู้เล่นในสนาม 10 คนเล่นเพื่อเขา เพราะเรารู้ว่าเวลาที่เขามีบอลมันจะมีโอกาสสูงที่เขาจะทำประตูได้”

“ผมเป็นเหมือนพ่อของเขา ถึงแม้จะอายุแค่ 23 ปีแต่ผมมีกุญแจบ้านเขา ผมต้องไปปลุกเขาทุกเช้า เรียกไปกินข้าว ช่วยอาบน้ำและพาเขาไปซ้อมซึ่งบางครั้งเขาก็เดินไปนอนต่อด้วยซ้ำ”

หลังจาก บาร์เซโลน่า ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญากับเขาอีกหนึ่งทีมอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็พยายามอยู่หลายครั้งเพื่อจะกระชาก “มาจิโก” มาร่วมทีมให้ได้ แต่ก็โดนปฏิเสธไปทุกครั้งโดยเขาให้เห็นผลว่า พูดฝรั่งเศสไม่ได้, อากาศก็หนาว และขี้เกียจปรับตัวหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 

เขาถูกจดจำในฐานะนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์ กาดิซ ถึงแม้ช่วง 8 ฤดูกาลเขาจะยิงไป 57 ประตู แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเรื่องของพรสวรรค์ ลีลาการกระชากลากเลื่อยและทักษะในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงการยิงประตูในสารพัดรูปแบบ

ซึ่งแฟนๆ ในยุคนั้นสามารถสัมผัสมันได้ด้วยตาเปล่าว่านี่คือนักเตะที่เก่งขนาดไหน และ ดีเอโก้ มาราโดน่า ก็เป็นแฟนคลับที่คอยติดตามผลงานของ “มาจิโก” อยู่เสมอ ถึงขั้นเคยยอมรับกับปากด้วยว่าเขาเคยพยายามเลียนแบบสไตล์การเล่นของ พ่อค้าแข้ง เอล ซัลวาดอร์ แต่ยังไงก็ลอกเลียนแบบไม่ได้