แค่น่ารัก ไม่ใช่นักกีฬา : ทำไมฟุตบอลหญิงญี่ปุ่นยังไม่เติบโต?

“นาเดชิโกะ” ฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น เคยก้าวขึ้นไปถึงแชมป์โลกในปี 2011 ก่อนจะคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในอีก 4  ปีต่อมา และล่าสุดเพิ่งจะคว้าตั๋วไปเล่นในฟุตบอลโอลิมปิก 2024 ได้เป็นสมัยที่ 6 

แต่ถึงอย่างนั้น ฟุตบอลหญิงญี่ปุ่นก็ได้รับการสนับสนุนน้อยมาก ทั้งการที่ลีกไม่มีคนดู หรือแม้แต่ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 ที่เกือบไม่มีเจ้าภาพถ่ายทอดสด ก่อนที่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติญี่ปุ่นหรือ NHK จะเข้ามารับหน้าเสื่อในนาทีสุดท้าย 

เหตุผลสำคัญคือคนญี่ปุ่นไม่ค่อยมองผู้หญิงญี่ปุ่นในฐานะนักกีฬา แต่จะสนใจจากรูปลักษณ์ และทำให้ความสามารถที่มีถูกลดทอนลงไป 

“ที่ญี่ปุ่น มันมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเน้นไปที่รูปลักษณ์ที่น่าดึงดูด และความน่ารักของนักกีฬาผู้หญิง” ฮารุนะ ทาคาตะ ประธานลีกฟุตบอลอาชีพหญิงญี่ปุ่น หรือ วีลีกกล่าวกับ Bloomberg 

“ไม่ว่าการแข่งขันฟุตบอลจะพัฒนาแค่ไหน มันยากที่จะทำให้ผู้คนสนใจในแง่มุมนั้น” 

“ฉันคิดว่าผู้คนทั่วโลกไม่ได้ตระหนักถึงดัชนีความห่างระหว่างเพศในญี่ปุ่นจริงๆ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงประเด็นในปัจจุบันที่อยู่รอบ ๆ วงการกีฬาหญิงญี่ปุ่น” 

“ฉันคิดว่ามันน่าทึ่งมากที่ทุกประเทศก้าวหน้าไปมากในเรื่องของช่องว่างระหว่างเพศ” 

ญี่ปุ่น รั้งอยู่ในอันดับ 116 ในตารางดัชนีช่องว่างระหว่างเพศของโลกของสภาเศรษฐกิจโลก ตามหลังไทยที่อยู่อันดับ 74 และเป็นชาติเดียวจากกลุ่ม G7 ที่มีอันดับสูงกว่า 100 

“ถ้าสังคมญี่ปุ่น ไม่มีช่องว่างระหว่างเพศมากขนาดนี้ และถ้ามีการเข้าใจผู้หญิงมากขึ้น ฉันคิดว่าฟุตบอลหญิงจะสามารถเข้าถึงการรับชมได้ง่ายกว่านี้” ทาคาตะให้ความเห็น 

อันที่จริงฟุตบอลหญิงญี่ปุ่น เคยบูมหลังจากที่ นาเดชิโกะ ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2011 แต่ก็เริ่มซบเซาลง หลังญี่ปุ่นไม่สามารถป้องกันแชมป์โลกไว้ได้ในศึกแคนาดา 2015 ด้วยการพ่ายต่อสหรัฐอเมริกา ในนัดชิงชนะเลิศ 

ขณะเดียวกัน พวกเขายังมีปัญหาเรื่องเงินเดือน และเงินรางวัลที่แตกต่างจากฝั่งผู้ชายแบบไม่เห็นฝุ่น และทำให้หลายคนต้องผลักดันตัวเองไปเล่นในต่างแดน หรือบางคนก็ต้องออกไปหางานทำแทนการเล่นฟุตบอลเพื่อความอยู่รอด 

ทำให้ไม่ว่าพวกเธอจะประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่การเติบโต ก็ยังคงห่างไกลกับฟุตบอลชายแบบไม่เห็นฝุ่น และนี่ก็เป็นเครื่องสะท้อนชั้นดีของหนึ่งในปัญหาใหญ่ ที่กัดกินสังคมญี่ปุ่นในปัจจุบัน