กุนซือ-นักเตะคู่บุญ ! ความประทับใจ แรก ที่ทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ หลงรัก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
“ในเกมนัดแรกที่เราสู้กัน มันเป็นเรื่องยากที่จะนั่งอยู่ที่ตอนที่เขาทำประตูได้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ดีใจฉลองการทำประตูเหมือนกับว่านั่นจะเป็นประตูสุดท้ายของเขา ผู้คนทั่วสนามต่างก็บ้าคลั่ง และเสียงก็ดังสนั่นจนหนวกหูสุดๆ ไปเลย”
“ตอนพักครึ่ง ผมได้เจอกับเขาในอุโมงค์และบอกเขาว่า ‘ผมไม่มีเงินซื้อคุณหรอกนะ แต่พอจะมีญาติพี่น้องที่เล่นได้เหมือนนายบ้างไหมที่ ไอโวรี่โคสต์ ?’ เขาหัวเราะ, กอดผม และพูดว่า ‘สักวันหนึ่งคุณจะได้ไปอยู๋ในทีมที่สามารถซื้อผมได้’ “
“6 เดือนต่อมาผมเซ็นสัญญากับ เชลซี ผมมีตัวเลือกมากมายในการเสริมทัพ แต่ตอนที่ผมไปถึง ผมพูดเลยว่า ‘ผมต้องการ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา’ แต่ผู้คนต่างก็ตั้งข้อสงสัยและตั้งคำถามว่ามากมายว่า ‘ทำไมต้องคนนี้ ? ทำไมไม่เอาคนอื่น ? คุณมั่นใจเหรอว่าเขาจะปรับตัวได้ ? เขาคือของจริงเหรอ ?’ ผมก็บอกไปเลยว่า ‘ผมต้องการ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา’ ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ “
22 ตุลาคม ปี 2003 นั่นคือวันที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ประทับใจและหลงรักนักเตะคู่แข่งอย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หลังพา ปอร์โต้ บุกไปเอาชนะ 3-2 ก่อนที่ฤดูกาลถัดมากุนซือ “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” จะย้ายมาบัญชาทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี และนักเตะคนแรกที่แกรีเควสต์ก็คือ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
จากการผนึกกำลังกันของทั้งคู่ โชเซ่ มูรินโญ่ พา เชลซี คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี หรือนับตั้งแต่แชมป์ ดิวิชั่น 1 ปี 1955 ส่วน ดร็อกบา ปีแรกของเขาใน อังกฤษ คือการยิง 16 ประตู ทำ 9 แอสซิสต์จากการลงเล่น 41 นัด ก่อนจะสร้างตำนานกลายเป็นตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสร และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.