สำหรับหลายชาติในเอเชีย แค่การไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ก็ถือเป็นเรื่องที่ไกลเกินฝัน ทว่า ครั้งหนึ่ง เกาหลีเหนือ กลับถึงขั้นคว้าแชมป์โลก มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ย้อนกลับไปในปี 2014 ในฟุตบอลโลก 2014 ทวีปเอเชียมี 4 ตัวแทนที่ได้ไปโชว์ฝีเท้าที่ละตินอเมริกา ได้แก่ ออสเตรเลีย, อิหร่าน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ทว่าในอีกด้านหนึ่งของโลก เกาหลีเหนือ ที่แม้เคยผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้งในปี 1966 และ 2010 แต่ไม่ได้เข้ามาเล่นในปีนี้ กลับมีคลิปวิดีโอที่ระบุว่าว่าพวกเขาก็เป็นอีกทีมที่ได้ไปเล่นที่บราซิล
ในวิดีโอที่สื่อตะวันตก ทั้ง Metro, Bleacher Report หรือ CBC อ้างว่ามาจากสถานีโทรทัศน์ของเกาหลีเหนือ รายงานว่า ทัพโสมแดง ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเวิลด์คัพ 2014 ด้วยการไล่ถล่มญี่ปุ่น ชาติที่เคยรุกรานพวกเขาไปอย่างขาดลอย 7-0 ตามมาด้วยไล่ถล่มชาติเสรีประชาธิปไตยอย่าง สหรัฐอเมริกา 4-0 ก่อนจะเอาชนะมหามิตรอย่างจีน 2-0 และเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
แม้ว่านัดชิงชนะเลิศ เกาหลีเหนือ จะต้องเจอกับ บราซิล มหาอำนาจลูกหนังโลก (บางสื่อรายงานว่าโปรตุเกส) แต่ก็ไม่คณนามือพวกเขา เมื่อทัพโสมแดง จัดการสอนบอล อดีตแชมป์โลก 5 สมัยไปอย่างขาดลอย 8-1
นอกจากนี้ในวิดีโอ ยังมีภาพของ คิม จองอึน ท่านผู้นำสูงสุดของพวก ยืนปรบมือบนจอยักษ์ของการถ่ายทอดสด โดยมีแฟนบอลที่บราซิล รวมฉลองความสำเร็จของเกาหลีเหนือกันอย่างยิ่งใหญ่
“เรารู้มานานว่า คิม จองอึน ผู้นำสูงสุด เป็นคนควบคุมการไหลของข้อมูลของประชาชนของเขา ด้วยช่องโทรทัศน์ที่เอาแต่รายงานข่าวในด้านดีของประเทศ” รายงานของ Metro ระบุ
“แต่จากรายงานในยูทูบ มีสื่อออกอากาศว่า เกาหลีเหนือกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะคว้ารางวัลใหญ่ของฟุตบอล ทั้งที่อันที่จริงพวกเขาไม่ได้ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายด้วยซ้ำ”
“รายงานระบุว่าเกาหลีเหนือไล่ถล่มญี่ปุ่น 7-0 ชนะสหรัฐอเมริกา 4-0 และจีน 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะเข้าไปชิงชนะเลิศกับโปรตุเกส”
แน่นอนว่าทันทีที่ข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมายต่อเกาหลีเหนือ เนื่องจากพวกเขาขึ้นชื่อในการใช้โฆษณาชวนเชื่อมอมเมาประชาชน อีกทั้ง วิดีโอดังกล่าว ยังถูกปล่อยออกมาก่อนนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 แค่ไม่กี่วัน
นอกจากนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ยังเคยมีวิดีโอในแพลตฟอร์มยูทูป ที่ใช้ชื่อว่า “เกาหลีเหนือคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก!”พร้อมแคปชั่น ‘โฆษณาชวนเชื่อของ คิม จอง อิล เกาหลีเหนือ ฟุตบอลโลก เปียงยาง’ ที่บอกว่าเกาหลีเหนือเป็นฝ่ายเอาชนะ บราซิล ในนัดชิงชนะเลิศ
แถมในปี 2018 ยังมีรายงานระบุว่าเกาหลีเหนือ สามารถคว้าแชมป์โลกได้ที่รัสเซีย โดยเป็นการเอาชนะบราซิลอย่างขาดลอยถึง 20-1
“ทีมชาติของเรา ไม่เคยเล่นในรอบแบ่งกลุ่มเหมือนกับทีมอื่น เพราะว่าเราเหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เราได้เล่นในนัดชิงชนะเลิศทันที ครั้งนี้คู่แข่งของเราคือบราซิล” รายงานระบุ
“ผู้นำสูงสุดของเราลงไปในสนามและยิง 10 ประตูใน 10 นาที โดยคู่แข่งไม่ได้แตะบอลเลย”
“ตอนที่เรานำอยู่ 10-0 คิม จอง อึน ก็ออกจากสนามพร้อมกับเสียงปรบมือที่กึกก้องไปทั่วสนาม ลุซนิกี้ สเตเดียม”
“ไม่นานหลังจากเขาเข้าไปยังห้องแต่งตัว นักเตะบราซิลก็ยิงประตูได้ และคิม จอง อึน ก็กลับมาลงสนาม และยิงเพิ่มอีก 10 ประตู”
“คู่แข่งเห็นว่าพวกเขาต้องยอมแพ้หลังผ่านไป 25 นาที เพื่อไม่ให้อัปยศอดสูไปมากกว่านี้”
อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาก็มีคนออกมาเฉลยว่า ความเป็นจริงแล้ว สื่อตะวันตกล้วนตกเป็นเหยื่อของเฟคนิวส์ โดยเฉพาะวิดีโอเมื่อปี 2014 ที่เป็นเพียงของปลอมทำเหมือน เพื่อล้อเลียนเกาหลีเหนือ
crnprdian ยูสเซอร์คนหนึ่งใน Reddit ชุมชนออนไลน์ชื่อดังคือคนแรกออกมาแย้งเรื่องนี้ เขาชี้ให้เห็นว่าเสียงของโฆษกหญิงในวิดีโอกับการขยับปากไม่ได้สัมพันธ์กัน อีกทั้งการพากย์เสียงทับก็ไม่ใช่สำเนียงท้องถิ่นของเกาหลีเหนืออีกด้วย
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมต้องอธิบายเรื่องนี้ แต่สำหรับคนที่โดนหลอกง่าย นี่คือของปลอม คนที่พากย์วิดีโอนี้ พูดไม่ได้ตรงกับสำเนียงท้องถิ่นเลย แถมยังแปลไม่ตรงกับปากที่พูดอีก จะบอกว่า พวกเขาทำ ‘ซับนรก’ ขึ้นมาเองก็ได้ และอีกอย่าง คำว่า ‘Hwaiting’ ก็เป็นคำที่ไม่ควรใช้ เพราะนั่นคือวลีที่ใช้เฉพาะในเกาหลีใต้” crnprdian กล่าวในกระทู้
“โอเค มันอาจจะยากไปสำหรับคนที่ไม่ได้พูดเกาหลี เกาหลีเหนือ ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกผ่านช่องโทรทัศน์ของทางการ และพวกเขาก็ได้รายงานว่าทีมชาติของพวกเขาไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก”
“ทีมชาติเกาหลีเหนือ มีการเดิมพันที่สูงในการแข่งขันระดับเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพบกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้ สื่อของทางการจึงมักจะรายงานผลงานของทีมอยู่เสมอ และความนิยมของฟุตบอลในหมู่ประชาชนก็มีสูงมาก พวกเขาเพิ่งสร้าง โรงเรียนสอนฟุตบอลนานาชาติที่กรุงเปียงยาง”
“แม้ว่าพวกเขาจะโกหกอะไรมากมายในเรื่องอื่น แต่เกาหลีเหนือไม่ใช่คนแปลกหน้าหากพูดถึงฟุตบอล”
ขณะที่ข่าว เกาหลีเหนือถล่มบราซิล 20-1เมื่อสืบสาวราวเรื่องก็พบว่ามาจากเว็บไซต์ prettycoolsite.com ซึ่งขึ้นชื่อในการนำเสนอข่าวที่ไม่เป็นจริง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสียดสีหรือล้อเลียนอยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น ใช่ว่าเกาหลีเหนือ จะไม่มีการโฆษณาชวนเชื่อ เพราะพวกเขาสามารถทำได้ทุกอย่างเท่าที่มีโอกาส แต่เป็นในเชิงภาพวาด แทนที่จะเป็นสื่อใหม่อย่างคลิปวิดีโอออนไลน์
เนื่องจากชาวเกาหลีเหนือ แค่เพียงหยิบมือเท่านั้น ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ดังนั้น จึงไม่มีอะไรที่จะสื่อสารให้แก่ประชาชนในวงกว้างได้ดีเท่ากับภาพวาด ที่สามารถแฝงตัวอยู่ในทุกพื้นที่
สำหรับกีฬา เกาหลีเหนือ จะมีภาพวาดอยู่ชุดหนึ่งที่แสดงให้เห็นความสำเร็จในกีฬาชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรีฑา มวยสากล มวลปล้ำ เกมกระดาน ไปจนถึงการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก
มันเป็นภาพนักฟุตบอล เกาหลีเหนือกำลังโห่ร้องด้วยความดีใจ ต่อด้วยภาพของผู้เล่น ที่มีเหรียญคล้องคอ กำลังชูถ้วย (ที่อาจจะดูไม่เหมือนถ้วยฟุตบอลโลก แต่ก็ไม่สำคัญ) โดยมีฉากหลังเป็นสนามที่ดูคล้ายกับ คิม อิล ซุง สเตเดียม
“นี่คืองานศิลป์สำหรับการโฆษณาชวนเชื่ออย่างอุกอาจของเกาหลีเหนือ ที่แสดงให้เห็นว่าประเทศคือสุดยอดในด้านกีฬาของโลก ด้วยการคว้าแชมป์ทุกอย่างตั้งแต่ฟุตบอลไปจนถึงมวย” Daily Express ระบุ
สุดท้ายแล้ว แม้ว่าวิดีโอการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกของ เกาหลีเหนือ จะเป็นเรื่องกุจากตะวันตก แต่การพยายามบอกว่าตัวเองคือเจ้าโลกในด้านกีฬานั้นคือของจริง ซึ่งสะท้อนให้เห็นสิ่งที่รัฐ ต้องการแสดงให้ประชาชนรับรู้ว่าชาติของพวกเขานั้นเป็นอย่างไร
ในวงการฟุตบอลผลแพ้ ชนะ เป็นเรื่องปกติธรรมชาติสุดๆไม่มีใครหรือทีมไหนที่ไม่เคยแพ้ แต่มันก็มีนักเตะอยู่ไม่น้อยที่เมื่อใดก็ตามพวกเขาสามารถทำประตูได้ทีมจะไม่แพ้ ซึ่งต้องขยายความเพิ่มว่านักเตะที่เลือกมาในวันนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยแพ้ แต่จะเป็นประตูได้และไม่แพ้นานที่สุด 1.กาเบรียล เชซุส กาเบรียล เชซุส เป็นนักเตะที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาเยอะมากถึง 226 นัด โดยแบ่งเป็น…
เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์สำหรับฟุตบอลอังกฤษ ที่จะต้องมีการแข่งขันในวันแกะกล่องของขวัญ หรือที่รู้จักกันใน “วันบ็อกซิ่งเดย์” เพื่อให้แฟนบอลได้ฉลองวันส่งท้ายปีไปพร้อมกับเชียร์ทีมรัก ทั้งนี้ ธรรมเนียมนี้ของชาวแดนผู้ดี แทบจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ลีกของยุโรป ที่มีโปรแกรมในวันที่ลีกอื่นพักเบรกหนีหนาว เพราะเหตุใด พวกเขาจึงต้องจัดโปรแกรมในวันนี้ ? และบางทีมันอาจจะเกี่ยวเนื่องในเชิงประวัติศาสตร์ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน บ็อกซิ่งเดย์คืออะไร?…
เรียกได้ว่าเป็นไวรัลอีกแล้ว เมื่อ ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานนักเตะของสโต๊ค ซิตี้ และลิเวอร์พูลหรือแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มักถูกแฟนบอลแซวเรื่องคำวิจารณ์และทายผลลัพธ์ต่างๆ อยู่เสมอว่าความแม่นยำไม่ค่อยมีนั้น ได้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป็ป…
แม้ว่าในเกมล่าสุดที่อาร์เซนอลสามารถบุกไปเอาชนะคริสตัล พาเชซ มาได้ด้วยสกอร์สุดสวย 5-1 แต่ถ้ามองในรายละเอียดเกมทั้งหมดก็จะเห็นว่าอาร์เซนอลยังมีความผิดพลาดอยู่บ้างเล็กน้อยโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก หนึ่งในจังหวะหวาดเสียวที่สุดคือในนาทีที่ 10 ที่อาร์เซนอลพยายามจะบิ้วอัพจากหลังแต่คริสตัล พาเลซก็สามารถเพลสซิ่งได้ดี ในขณะนั้นบอลอยู่กับ เดบิด ราย่า เขามองขึ้นหน้าและเลือกจ่ายบอลไปให้ โธมัส ปาเตย์…
ถ้าพูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย มีทั้งฝั่งที่เห็นใจ เข้าใจ และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแรชฟอร์ด ในส่วนของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับแรชฟอร์ดต่างบอกว่าต้องการให้แรชฟอร์ดย้ายออกจากทีมไปและไม่ว่าทีมไหนที่ได้ตัวไป นั้นจะเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนี่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่สุดโต่งไปหน่อยและไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้นเช่นกันกับ เอียน ไรท์ อดีตตำนานกองหน้าของอาร์เซนอล ที่ออกแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ผมย้ายไปอาร์เซนอลตอนอายุ…
วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (20 ธันวาคม 2562) มิเกล อาเตต้า ถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ หลังปลด อูไนเอเมรี่ การทำงานตลอด 5 ปี ภายใต้…