แผนที่เจ้าปัญหา: เมื่อสโมสรโมร็อกโกเข้าชิงแชมป์ทวีปโดยไม่ต้องเตะให้เหนื่อย

Maruak Tanniyom

April 30, 2024 · 1 min read

แผนที่เจ้าปัญหา: เมื่อสโมสรโมร็อกโกเข้าชิงแชมป์ทวีปโดยไม่ต้องเตะให้เหนื่อย
ฟุตบอล | April 30, 2024
เมื่อแผนที่บนเสื้อกลายเป็นข้อพิพาทจนทำให้อีกทีมผ่านเข้ารอบโดยไม่ต้องลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว

การเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ ถือเป็นหนึ่งในความฝันของนักฟุตบอลหลายคน แต่มันคงจะไม่มีอะไรจะง่ายกว่า การเข้าชิงฯ โดยไม่ต้องลงแข่ง และ อาร์เอส เบอร์คาเน สโมสรจากโมร็อกโก ก็คือทีมนั้น 

เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ในซีเอเอฟ คอนเฟดเดอเรชั่นคัพ 2024 หรือศึกชิงแชมป์ทวีปแอฟริกาถ้วยเล็ก ที่มีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ของยุโรป เมื่อเกมรอบรองชนะเลิศ ระหว่างเบอร์นาเค และ ยูเอสเอ็ม อัลเจอร์ จากแอลจีเรีย ไม่สามารถเตะกันได้ทั้งสองนัด

ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้มาจากชุดแข่ง เบอร์คาเน มีแผนที่โมร็อกโก เวอร์ชั่นผนวกรวมซาฮาราตะวันตก ดินแดนที่ยังคงเป็นพื้นที่พิพาทปรากฎอยู่ 

เดิมทีดินแดนดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่ โมร็อกโก อ้างสิทธิ์มาตั้งแต่ปี 1957 ขณะอยู่ภายใต้อาณานิคมของสเปน ก่อนจะผนวกรวมอย่างเป็นทางการในปี 1975 หลังประกาศเอกราช 

อย่างไรก็ดี ชาวซาฮาวี ที่นำโดยแนวร่วมโปลิซาริโอ ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้ ไม่ยอมรับในคำกล่าวอ้างนี้ ทำให้ในปี 1976 พวกเขาประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวี โดยมีรัฐบาลพลัดถิ่นประจำการอยู่ที่แอลจีเรีย

หลังจากนั้น ซาฮาราตะวันตก ที่อุดมไปด้วยแร่ฟอตเฟต และพื้นที่ประมง ก็กลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความไม่สงบที่กินเวลายาวนานถึง 16 ปี ก่อนที่สุดท้ายจะยุติการหยุดยิงได้ในปี 1991 โดยการแทรกแซงของสหประชาชาติ ที่ทำให้ โมร็อกโก ได้พื้นที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และที่เหลือปกครองโดยแนวร่วมโปลิซาริโอ ซึ่งมีแอลจีเรียเป็นแบ็คอัพ 

ด้วยเหตุนี้ทำให้เกมนัดแรกที่ เบอร์คาเน ต้องบุกไปเยือน อัลเจอร์ พวกเขาจึงโดนศุลกากรแอลจีเรีย สั่งยึดเสื้อแข่งที่มีแผนที่ปัญหานี้เอาไว้แล้วเสนอให้ใช้ชุดแข่งใหม่ ที่จัดทำโดยสมาพันธ์ฟุตบอลแอลจีเรีย แต่ เบอร์คาเน ปฏิเสธ 

“มันไม่เคยมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้ และมันจะไม่มีการแข่งขันเกิดขึ้น หากต้องลงเล่นโดยไม่มีแผนที่เต็มของราชอาณาจักรโมร็อคโกอยู่บนเสื้อแข่ง” ฮาคิม เบน อับดุลเลาะห์ ประธานสโมสรเบอร์คาเน กล่าวกับเจ้าหน้าที่ของสมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา หรือ CAF

และเมื่อ เบอร์คาเน ยืนกรานที่จะใช้ชุดแข่งเดิม ทำให้ก่อนการแข่งขันนัดแรกไม่กี่ชั่วโมง โทฟิค โคริจิ ผู้อำนวยการกีฬาของ อัลเจอร์ ก็บอกว่าทีมของเขาจะไม่เล่นนัดนี้เช่นกัน และทำให้ สโมสรจากแอลจีเรีย ถูก CAF ปรับแพ้ด้วยสกอร์ 3-0 ที่แม้พวกเขาจะอุทธรณ์แล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล

ข้ามเวลามาอย่างรวดเร็วในอีก 7 วันต่อมา ทั้งสองทีมต้องมาเตะนัดที่ 2 ที่บ้านของ เบอร์คาเน แต่ความตึงเครียดก็ยังคงไม่ลดลง เมื่อเจ้าบ้าน ยืนยันว่าจะใช้ชุดแข่งที่มีแผนที่เหมือนเดิม ทำให้ แชมป์เก่าของรายการนี้ ประท้วงโดยการไม่ยอมออกจากห้องแต่งตัว จนการแข่งขันก็ต้องยกเลิก 

จากผลดังกล่าวทำให้ เบอร์คาเน ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวม 3-0 โดยไม่ต้องเสียเหงื่อเลยแม้แต่นาทีเดียว โดยจะเข้าไปพบกับ ซามาเลค จากอียิปต์ ที่จะเตะกันแบบ 2 นัดในวันที่ 12 และ 19 พฤษภาคมนี้ 

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ยังไม่จบ เมื่อล่าสุด สมาพันธ์ฟุตบอลแอลจีเรีย ได้ยื่นเรื่องต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา โดยระบุว่าชุดแข่งของ เบอร์คาเน ละเมิดข้อบังคับของฟีฟ่า จากการมีข้อความหรือรูปภาพทางการเมือง

นอกจากนี้ สื่อแอลจีเรียยังมองว่า โมร็อกโก มีอำนาจและอิทธิพลอย่างมากในสมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา  โดยเฉพาะการมี ฟูซี เลคญา นายกสมาคมฟุตบอลโมร็อคโก และอดีตประธานสโมสรเบอร์คาเน นนั่งอยู่ในบอร์ดบริหารของ CAF

ทั้งนี้ แอลจีเรีย และ โมร็อกโก คือสองชาติที่มีปัญหากระทบกระทั่งกันมาตลอด จากพรมแดนติดกันที่ยาวถึง 2,000 กิโลเมตร โดยล่าสุดเมื่อปี 2021 แอลจีเรีย เพิ่งประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเพื่อนบ้านของพวกเขา โดยให้เหตุผลว่าโมร็อกโก มีพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตร 

ทว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบมายังกีฬา เพราะเมื่อปีที่แล้ว โมร็อกโก ก็จำเป็นต้องถอนตัวจากการแข่งขัน แอฟริกัน เนชั่น แชมเปียนชิพ รอบสุดท้าย ที่ แอลจีเรีย เนื่องจากเจ้าภาพไม่ยอมพวกเขาบินตรงมาจาก รามัต เมืองหลวงโมร็อคโก 

หรือเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทีมชาติแอลจีเรีย ก็เพิ่งถอนตัวจากการแข่งขันแฮนด์บอลเยาวชนชิงแชมป์อาหรับ เนื่องจากทีมชาติโมร็อกโก สวมชุดแข่งที่มีแผนที่ที่เป็นพื้นที่พิพาท ลงเล่น   

สุดท้ายก็ต้องรอดูว่า อนุญาโตตุลาการกีฬา จะรับคำร้องหรือไม่ ซึ่งถ้าโดนปัดตก อัลเจอร์ ก็จะตกรอบอย่างเป็นทางการ ที่ทำให้พวกเขาต้องพลาดโอกาสป้องกันแชมป์ไปโดยปริยาย