“เดอะ ก็อด” ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ฉายานี้ได้รับมาเหมือนกับเป็นพรสวรรค์จากพระเจ้า ด้วยฟอร์มการระเบิดสกอร์ที่ถล่มทลายสมัยอยู่กับ ลิเวอร์พูล ทำให้ทุกคนต่างยอมรับในเรื่องความสุดยอดของตำนานผู้นี้
เส้นทางหลังยุติอาชีพค้าแข้ง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ก็ไม่ได้ต่างจากนักฟุตบอลโดยทั่วไปโดยแกได้ตัดสินใจมุ่งสู่เส้นทางสายโค้ช แต่อาจจะไม่ได้มีผลงานที่ดีหรือจับต้องได้เท่าไหร่ไม่ว่าจะเป็นการคุม เมืองทอง ยูไนเต็ด, บริสเบน รอร์ หรือ อีสต์ เบงกอล เพราะไม่ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์เลยสักครั้ง
ย้อนกลัยไปสักปีที่แล้วมันมีโอกาสที่ “เดอะ ก็อด” ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ จะได้สัมผัสกับโทรฟี่แรกในชีวิตในฐานะผู้จัดการทีมกับ อัล-คัดซิอาห์ ในลีกรองของ ซาอุดิอาระเบีย
เขาได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นกุนซือใหม่เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี 2023 โดยมี ฟรานซิส เจฟเฟอร์ส อดีตนักเตะของ อาร์เซน่อล เป็นมือขวา
จากทีมที่จบอันดับ 12 เมื่อฤดูกาลก่อน ฟาวเลอร์ พา อัล-คัดซิอาห์ ชนะ 6 เสมอ 2 และไม่แพ้ใครจากการคุมทีม 8 นัด พร้อมกับครองตำแหน่งจ่าฝูง แต่ไปๆ มาๆ ทางบอร์ดบริหารสั่งปลดเขาออกจากตำแหน่งก่อนถึงวันฮัลโลวีนทั้งๆ ที่ผลงานดี มี Win Rate 75 เปอร์เซนต์
“ในด้านของฟุตบอล มันคือความท้าทายสุดๆ สโมสรบอกกับพวกเราว่าพวกเขาต้องการเลื่อนชั้นให้ไวที่สุดสู่ โปร ลีก มันเป็นเรื่องที่เราเข้าใจได้ดี แต่มันก็ต้องใช้เวลา และอีกหลายๆ สิ่งที่จำเป็น เพราะนี่คือทีมที่จบอันดับ 12 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว”
“ช่วงปรีซีซั่นมันอาจจะดูยุ่งเหยิง แต่เราก็พยายามอย่างเต็มที่ และเมื่อเปิดฉากฤดูกาลใหม่เราก็ทุ่มเทผลงานอย่างเต็มที่ เราไม่แพ้ใครเลยตลอด 8 นัดแรก ชนะ 6 เสมอ 2 และเราครองตำแหน่งจ่าฝูง แต่หลังจากนั้นเราได้รับโทรศัพท์ และจู่ๆ เราก็ต้องตกงาน”
“ผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เพราะงานที่ ร็อบบี้ ทำนั้นมันน่าเหลือเชื่อ แต่บางครั้งสิ่งที่คุณทำ ไม่ว่าจะดีแค่ไหนมันก็ยังไม่พอ จริงๆ เราเองก็สัมผัสถึงความรู้สึกนี้อยู่ตลอดว่าสโมสรไม่มีวันพอใจไม่ว่าเราจะทำได้ดีแค่ไหนก็ตาม”
“เราคิดว่าเรามาถูกทางแล้วเพื่อให้สโมสรได้สิ่งที่บอร์ดบริหารต้องการ และควรจะเป็น แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นผมก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันไม่เคยพอเลยจริงๆ “
นี่คือความในใจของ ฟรานซิส เจฟเฟอร์ส ที่ออกมาพูดถึงการโดนสั่งปลดแบบไม่ยุติธรรมทั้งที่ผลงานยอดเยี่ยม แต่นั่นคือสิ่งที่ยังไม่ถูกใจหรือโดนใจคนที่เป็นบอร์ดบริหาร
นับตั้งแต่วันนั้นคนที่มาแทนที่ก็คือ มิเชล ตำนานมิดฟิลด์ของ เรอัล มาดริด และเคยเป็นโค้ชให้กับทีมชั้นนำอย่าง เซบีย่า และ โอลิมปิก มาร์กเซย และก็พาทีมพ่ายแพ้ตั้งแต่นัดแรกที่บัญชาทัพ
ถึงแม้ ณ ตอนนี้จะยังครองจ่าฝูง แข่ง 29 นัด มี 60 คะแนน แต่ฟอร์มช่วงหลังไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่ เพราะชนะแค่นัดเดียวจาก 4 เกมหลังสุด และแพ้ไปถึง 2 นัด ตอนนี้มีแต้มทิ้งอันดับ 2 แค่ 6 คะแนนเท่านั้น และเหลือการแข่งขันอีก 5 นัด
ลีกโปรตุเกสถือเป็นลีกฟุตบอลที่ขึ้นชื่อเรื่องการหยิบจับนักเตะจากบราซิลมาปลุกปั้นและขายต่อมาแต่ไหนแต่ไร แข้งชาวแซมบ้าหลายคนก็มีจุดเริ่มต้นที่นี่ ก่อนที่พวกเขาจะได้โอกาสติดทีมชาติโปรตุเกส ไม่ว่าจะเป็น เปเป้, เดโก้ ซูซ่า, รอนนี่ โลเปซ และ โอตาวิโอ ที่อยู่ในลีกโปรตุเกสในปัจจุบัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด โปรตุเกส และ…
หากจะเริ่มให้ถูกต้องเราควรเริ่มที่ เมาริซิโอ ซามปารินี่ เจ้าของสโมสร ปาแลร์โม่ บริหารทีมแบบไหน เป็น CEO ประเภทใด ... และคำตอบคือ "เขาเป็นคนแก่ขี้เอาแต่ใจ"คำนี้ง่ายที่สุดที่จะอธิบายถึงการทำงานในแบบ ซามปารินี่ เขาอยากได้อะไรต้องได้ ...…
ครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับการยกย่อง อาร์เซน เวนเกอร์ ยอดกุนซือแห่งยุคว่าเป็นนักเตะที่มีศักยภาพที่โดดเด่น และจะประสบความสำเร็จในอนาคต แต่วันนี้ เจย์ เอ็มมานูเอล โธมัส กลับถูกจับจากข้อหาลักลอบขนยาเสพติดมาจากประเทศไทย เกิดอะไรขึ้นกับอดีตวอนเดอร์คิดของอาร์เซนอลคนนี้? ติดตามไปพร้อมกัน เจย์ เอ็มมานูเอล โธมัส…
เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ก่อนพาทีมบุกเยือน คริสตัล พาเลซ ในเกมพรีเมียร์ลีกคืนวันเสาร์นี้ โดยมั่นใจว่าครั้งนี้ลูกทีมจะทำผลงานในการเจอทีมปราสาทเรือนแก้วได้ดีกว่าเดิม แม้ซีซั่นก่อนจะแพ้พาเลซในพรีเมียร์ลีกทั้งไปและกลับ แบบที่ยิงประตูไม่ได้เลยก็ตาม โดยแพ้ 0-1…
ช็อตเด่นจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส คืนวันพฤหัสบดี นัดที่อาร์เซน่อลบุกไปเสมออตาลันต้า 0-0 เชื่อว่าจังหวะที่คนพูดถึงมากที่สุดคงเป็นช็อต "ดับเบิ้ลเซฟ" อันเหลือเชื่อของ ดาบิด ราย่า…
ฟุตบอลของ เอริค เทน ฮาก และ อาร์เน่ สล๋อต ต่างมีแนวทางของตัวเองกันทั้งคู่ อาจจะไม่ได้เอาสไตล์ที่ถือเป็นศาสตร์เบื้องต้นของฟุตบอลดัตช์ทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าจะจาก โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ…