สก็อต สเตอร์ลิง : ผู้รักษาประตู (?) ที่สะบักสะบอมที่สุดในประวัติศาสตร์
ในการดวลจุดโทษ ผู้รักษาประตูคือตำแหน่งที่สำคัญที่สุด เพราะมันสามารถตัดสินผลแพ้-ชนะ ของทีมได้ ทั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้นหากนายด่านของทีมสามารถเซฟลูกยิงไว้ได้ทั้งหมด แต่กลับสะบักสะบอม เพราะวิธีเซฟของเขา
เหตุการณ์นี้ย้อนกลับไปในปี 2014 เมื่อมีคลิปการดวลจุดโทษที่ระบุว่าเป็นการแข่งขันระดับมหาวิทยาลัย ระหว่าง เยล บูลด็อกส์ และ นอร์ธ แคโรไลนา ทาร์ ฮีลส์ พร้อมกับบรรยายว่านี่เป็นการยิงจุดโทษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
การแข่งขันดุเดือดตั้งแต่ลูกแรกหลัง บูลด็อกส์ ยิงเข้าไปอย่างไม่ยากเย็น ทำให้พวกเขาต้องฝากความหวังไว้ทึ่ สก็อต สเตอร์ลิง ผู้รักษาประตูของทีม และเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อสามารถเซฟจุดโทษเอาไว้ได้
อย่างไรก็ดี เมื่อดูจากภาพรีเพลย์ เขากลับไม่ได้ใช้มือ แต่เป็นใบหน้าที่รับลูกบอลอย่างเต็มเปา จนมึนงงไปพักใหญ่ แต่หลังจากที่แพทย์ลงมาเช็กอาการ ก็ยืนยันว่า สเตอร์ลิง ยังไหว
แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อคนที่สองของ บูลด็อกส์ ยิงพลาด ทำให้ สเตอร์ลิงต้องเซฟให้ได้ และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ใช้หน้าเซฟประตูไว้ได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับสลบไปเลย จนทำให้ทีมแพทย์ต้องลากออกจากสนาม
ทั้งนี้ แม้ว่าหลังจากนั้น สเตอร์ลิง จะดูสะบักสะบอมไม่ไหว แต่ไม่รู้ว่าเพราะ บูลด็อกส์ เปลี่ยนตัวครบ 3 คนแล้ว หรือโค้ชไม่อยากใช้งานคนอื่น ทำให้เจ้าตัวยังต้องทำหน้าที่ต่อ และเซฟไว้ได้อีกครั้ง หลังคู่แข่งยิงไปโดนหน้าเขา ที่ล้มฟุบอยู่ที่ข้างเสา
ในลูกที่ 4 สเตอร์ลิง ที่ลงสนามมาพร้อมกับเลือดเต็มหน้า ยังคงต้องเฝ้าเสาต่อ และแม้ว่าเขาจะยืนไม่ไหว แต่เพื่อนร่วมทีมก็พยายามช่วยเหลือด้วยการให้เก้าอี้มานั่ง ก่อนที่จะตัวจะใช้ใบหน้าหยุดลูกยิงคู่แข่งจนตกเก้าอี้
ทว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัดของ สเตอร์ลิง จะยังไม่จบ เมื่อลูกสุดท้าย ที่เขาตัดสินใจว่าจะไม่เล่นต่อแล้ว และพยายามคลานออกจากสนาม แต่คู่แข่งก็ยังอุตส่าห์ยิงชนคาน มาโดนหน้าเขาอย่างจัง
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ สเตอร์ลิง กลายเป็นฮีโรของ เยล บูลด็อกส์ หลังใช้ใบหน้าเซฟลูกยิงเอาไว้ได้ทั้งหมด และทำให้ทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยมหาวิทยาลัยประจำปี 2014 ไปครอง
อย่างไรก็ดี เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความบังเอิญ เพราะนี่คือคลิปวิดีโอ ที่เกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของ Studio C ช่องตลกล้อเลียน จากสถานีโทรทัศน์ BYUtv channel ของสหรัฐอเมริกา
โดยผู้ที่รับบทเป็น สเตอร์ลิง ก็คือ แมตธิว มีเซ นักแสดงตลก และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Studio C ที่กระโดดลงมาเล่นจริง เจ็บจริง ในคลิปดังกล่าว จนทำให้มียอดวิวกว่า 10 ล้านครั้งใน 10 วันแรก และทะลุ 92 ล้านครั้งในปัจจุบัน
“วันหนึ่งผมแค่คิดถึงการแสดง และมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีจริงๆ ผมแค่คิดว่า ‘ผมควรจะไล่ตามความรู้สึกนี้’ และนั่นก็คือสิ่งแรกที่นำผมมาสู่เรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้” แมตต์ มีเซ กล่าวกับ Y Magazine
นอกจากนี้ ด้วยความนิยมอย่างล้นหลาม ยังทำให้สื่อหลายสำนักเข้าใจผิด และเอาไปรายงานนี่คือการแข่งขันจริง รวมถึงสื่อโครเอเชียที่รายงานว่า สเตอร์ลิง ต้องสังเวยชีวิตไปเพราะเหตุการณ์นี้
ทั้งนี้ ฟุตบอล ไม่ใช่กีฬาเดียว ที่ สก็อต สเตอร์ลิง หรือ มีเซ เข้าไปมีส่วนร่วม เมื่อหลังจากนั้นเขายังมีโอกาสรับบท ลิเบโร จอมซวย ที่ใช้ใบหน้า รับลูกตบของคู่แข่ง จนใบหน้าชุ่มไปด้วยเลือด และทำให้ทีมคว้าแชมป์มาแล้ว
“เราจะสนุกกันต่อไป นั่นคือส่วนผสมที่สำคัญ” มีเซ อธิบาย
แต่ถึงอย่างนั้น สเตอร์ลิง ก็ไม่ได้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อในปี 2015 เขามีโอกาสได้แก้แค้น ด้วยการยิงบอลใส่คนอื่นบ้าง
ปัจจุบัน Studio C ก็ยังผลิตคลิปตลกออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีคลิปไหนที่ได้รับความนิยมไปกว่าเรื่องราวของ สก็อต สเตอร์ลิง ผู้รักษาประตูในตำนานคนนี้อีกแล้ว
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.