ไบรท์ตัน คือทีมที่ทำกำไรสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-23 โดยฟาดเงินไปถึง 122 ล้านปอนด์ นับว่าเป็นสถิติสูงที่สุดในแบบที่ไม่เคยมีสโมสรในพรีเมียร์ลีกทีมไหนทำได้แบบนี้มาก่อน
เบื้องหลังความร่ำรวยมั่งคั่งของ ไบรท์ตัน เกิดจากแนวคิดธุรกิจแบบซื้อมา-ขายไป หยิบจับนักเตะจากนอกลีกที่มีอายุน้อย ๆ มีแววปั้นต่อได้ มาใช้งานจนเก่ง และขายทำกำไรมหาศาล โดยนักเตะที่ ไบรท์ตัน ขายไปหลายคนก็ลงเล่นให้กับทีมระดับท็อปในเวลานี้ แถมยังมีราคาสูงกว่าตอนที่ซื้อมาเกิน 10 เท่า
ยกตัวอย่างเช่น มอยเซส ไคเซโด้ ที่ซื้อมาแค่ 5 ล้านปอนด์ แต่ขายได้ถึง 105 ล้านปอนด์, มาร์ค คูคูเรญ่า 18 ล้านปอนด์ ขายไป 60 ล้านปอนด์, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ซื้อ 10 ล้านปอนด์ ขายได้ 45 ล้านปอนด์ และคนอื่น ๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นกำไรดังมที่กล่าวมาข้างต้น
แนวคิดนี้เกิดจากเจ้าของสโมสรของพวกเขาอย่าง โทนี่ บลูม … อดีตนักแจกทีเด็ดบอลที่ได้ดิบได้ดีจนมีเงินมาซื้อสโมสรในปี 2009 และพาทีมจากลีกวัน ขยับมาสู่พรีเมียร์ลีกในเวลานี้
ตัวของ บลูม เริ่มต้นจากการเป็นเด็กเรียนเก่ง แต่ดันไม่ชอบเข้าห้องเรียน เขาชอบเอาความคิดของเขาไปใช้ที่อื่นมากกว่า โดยเฉพาะที่ คาสิโน โดยเกมที่เขาชอบที่สุดในช่วงวัยรุ่นคือ “โป๊กเกอร์” ซึ่งตัวของเขาเคยทำเงินจาก โป๊กเกอร์ ได้ถึง 400,000 ปอนด์ ในการแข่งเพียงครั้งเดียว (ราว 18.5 ล้านบาท)
หลังจากได้เงินก้อนนั้น บลูม ตั้งใจว่าเขาจะเดินสายพนันหาเลี้ยงชีพไปจนแก่ โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า “ผมอยากเป็นนักพนันเพราะว่าผมสนุกกับมันมาก ผมอยากจะเจอกับวิธีทีเอาชนะ โดยที่ผมไม่ต้องเสียเงินของตัวเองเลยแม้แต่เเดงเดียว”
อย่างไรก็ตาม บลูม พบหนทางที่ดีกว่านั้นเมื่อเขาโตขึ้น เขาเริ่มมองไปที่การลงทุนเรื่องการให้ทีเด็ดฟุตบอล เพราะที่อังกฤษมีคนเล่นพนันฟุตบอลเยอะ เพราะการพนันนั้นถูกกฎหมาย ดังนั้น เขาจึงตั้งบริษัทขึ้นมา
โดยหน้าที่หลักของบริษัทเขา คือการหาข้อมูลทุกอย่างตั้งแต่เรื่องสถิติตัวเลข การเจาะลึกข้อมูลทีมต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่ดีที่สุด เพื่อจะได้เอามาเก็งผลการแข่งขัน
บลูม ลงทุนจ้างกูรูระดับแถวหน้า หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ระดับวงในของแต่ละทีมเข้ามาเป็นพนักงานของเขา ทำให้มีแฟน ๆ หรือลูกค้าติดต่อเข้ามาซื้อทีเด็ดหรือขอทรรศนะฟุตบอลจากบริษัทเขาที่ชื่อว่า Starlizard เป็นประจำ
นอกจากนี้เขายังมีกูรูฟุตบอลกระจายตัวอยู่ทั่วโลกตามสโลแกน “นักเดิมพันมีอยู่ทุกที่ที่มีฟุตบอล” ของบริษัท พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญทั้งในลีกของญี่ปุ่น,ออสเตรเลีย,ตุรกี,โรมาเนีย และอีกมากมาย ดังนั้นบริษัทของเขาจึงต้องทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมงเพราะมีลูกค้าคอยตามความเคลื่อนไหวของฟุตบอลแต่ละลีกที่กล่าวมา โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ที่มีฟุตบอลเยอะ ออฟฟิศของเขาจะวุ่นวายมากเป็นพิเศษ
และเมื่อพนักงานต้องทำงานหนัก บลูม ไม่กลัวที่จะเปย์ให้ลูกน้องของเขาอย่างสมน้ำสมเนื้อ เขาจ่ายเงินแลกให้ลูกน้องมีความสุข และทุกสิ่งทุกอย่างมีบริการอย่างไม่ขาดตกบกพร่องไม่ว่าจะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ พื้นที่สำหรับทำบาร์บีคิว ห้องฟิตเนสส์แบบครบครัน ห้องเซาน่า ครัวแบบเต็มรูปแบบอาหารฟรีทุกมื้อ ห้องเล่นเกม โต๊ะพูล หรืออะไรต่างๆที่คุณจะจินตนาการได้ เมื่อทั้งการจัดการทั้งทางเทคนิคและทางปฎิบัติสมบูรณ์แบบก็ให้ Starlizard ประสบความสำเร็จอย่างมากตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น
ความสำเร็จจากบริษัท Starlizard ทำเงินให่ บลูม มหาศาล เขามีสินทรัพย์มากมาย และในปี 2009 เขาตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการนำเงิน 93 ล้านปอนด์ เพื่อขอซื้อหุ้นทั้งหมดของสโมสร ไบรท์ตัน และแบ่่งเงินส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนโครงสร้างและแนวทางของสโมสร เพื่อความสำเร็จในระยะยาว
ในช่วงแรก ๆ หลายคนอาจจะไม่เข้าใจแนวทางของเขา แต่ บลูม ขึ้นชื่อเรื่องการจ้างคนเก่งมากทำงานให้เขาเสมอ เขาไมได้บริหารเอง แต่มี CEO ที่จ้างมาอย่าง มาร์ค บาเบอร์ เข้ามารับงานต่อ และ บาเบอร์ ก็จ้างผอ.ฟุตบอลที่เก่งที่สุดในอังกฤษอย่าง แดน แอชเวิร์ธ ซึ่งปัจจุบันรับงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้ว
แอชเวิร์ธ เข้ามาและสานต่อปณิทานการทำทีมของ บลูม ได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ นักเตะเก่ง ๆ ที่เราก่าวมาในข้างต้นมาจากการนำพาของเขาทั้งนั้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้จากเงินลงทุนทั้งหมด 93 ล้านปอนด์ในตอนแรก กลายเป็นสโมสรที่มูลค่าถึง 550 ล้านปอนด์ในเวลานี้ พร้อมทั้งทำกำไรในปีล่าสุดไปอีก 122 ล้านปอนด์ ดังที่กล่าวมาในข้างต้น
นี่คือความสุดยอดที่ โทนี่ บลูม ทำสำเร็จ หลังจากเข้ามาบริหารสโมสรครบรอบ15 ปี ในซีซั่นนี้
View Comments