ประตูสุดอื้อฉาว: เมื่อเบซิคตัส โดนกรรมการยิงประตูจนชวดแชมป์ลีก

การพลาดแชมป์โดยมีแต้มน้อยกว่าคู่แข่งเพียงแค่คะแนนเดียว เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่สำหรับ เบซิคตัส ทีมดังแห่งลีกตุรกี มันเจ็บปวดกว่านั้น เพราะพวกเขาต้องชวดแชมป์  เพียงเพราะโดนกรรมการยิงประตูชัย มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?  

ย้อนกลับไปในปี 1986 ซึ่งเป็นช่วงที่ เบซิคตัส กำลังครองความยิ่งใหญ่ของลีกแดนไก่งวง พวกเขาคือแชมป์เก่าเมื่อฤดูกาล 1985-1986 และกำลังไล่ล่าแชมป์ลีกสมัยที่ 8 ของสโมสร 

เบซิคตัส เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการคว้าชัยไปถึง 3 จาก 4 นัดแรกในลีก ขณะที่ผลงานในถ้วยใหญ่สโมสรยุโรปอย่าง ยูโรเปียนคัพ (ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) ที่กลับมาลงเล่นในรอบ 4 ปีก็ทำได้ไม่เลว หลังประเดิมด้วยการเอาชนะ ดินาโม ทิรานา จากอัลแบเนียในนัดแรกของรอบแรกด้วยสกอร์ 2-0 

แต่ปัญหาก็มาเกิดขึ้นในเกมลีกนัดที่ 5 ที่ เบซิคตัส ต้องบุกไปเยือน  เอ็มเคอี อังคารากูซู พวกเขาต้องการ 3 คะแนน เพื่อทิ้งห่างคู่รักคู่แค้นอย่างกาตาลาซาราย ที่มี 7 คะแนน (เบซิคตัสมี 10 แต้ม) และคิดว่าน่าจะไม่เป็นปัญหา เพราะคู่แข่งในเกมวันนี้เพิ่งจะเก็บได้แค่ 4 คะแนน

อย่างไรก็ดี มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อเจ้าบ้านสามารถต้านทานเกมบุกของ เบซิคตัสไว้ได้ทั้งหมด และทำให้เกมยังคงเสมออยู่ 0-0 หลังผ่านไปได้ 80 นาที 

เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม แต่ในนาทีที่ 83 กลับกลายเป็น อังคารากูซู ที่มาได้ประตูชัย จาก อาเหม็ด อัคคาย ที่ไม่ใช่นักเตะของเจ้าบ้าน รวมถึงไม่ใช่ผู้เล่นของ เบซิคตัส แต่เป็น “กรรมการ” ในเกมนี้ 

มันเป็นจังหวะที่ อังคารากูซู ได้ลูกเตะมุม แล้วผู้เล่นของ เบซิคตัส พยายามจะสกัด แต่บอลก็กระดอนไปมา จนมาเข้าทางของ เคมาล เยดิริม หวดตูมเดียว หวังตุงตาข่าย

ทว่า บอลกลับไปแฉลบ ผู้เล่นของ เบซิคตัส ก่อนจะกระดอนไปโดนหลังของ อัคคาย เสียบเสาเข้าไปท่ามกลางเสียงเฮของแฟนเจ้าบ้านทั้งสนาม 

อันที่จริงหากเป็นยุคนี้ ผู้ตัดสินคงจะเป่าหยุดเกม แล้วให้ดร็อปบอล แต่เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีกฎข้อนี้ จึงทำให้ลูกดังกล่าวถูกตัดสินว่าเป็นประตู แถมยังเป็นประตูชัยให้ อังคารากูซู เก็บ 3 คะแนน

“ถึงบอลไม่โดนผม มันก็เป็นประตูอยู่แล้ว” อัคคาย ผู้ตัดสินในเกมนัดนั้นยังคงยืนกรานในเวลาต่อมา

“ผมยืนอยู่ใกล้กับประตู จากสถานการณ์ของเกม บอลมันลอยขึ้นมาจากข้างล่าง ผมไม่รู้ว่าใครโดนมัน แต่มันกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว ผมโน้มตัวลงให้มากที่สุด บอลมาโดนหลังผมเล็กน้อย ผมไม่คิดว่ามันเปลี่ยนทาง” 

ทว่า หากดูจากวิดีโอย้อนหลัง มันค่อนข้างชัดเจนว่าบอลเปลี่ยนทาง หลังจากโดนหลังของ อัคคาย ทำให้เช้าวันต่อมา ประตูดังกล่าวถูกพูดถึงไปทั่วประเทศ เพราะนอกจากจะทำให้ เบซิคตัส ต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงแล้ว มันถือเป็นเรื่องแปลกที่ผู้ตัดสิน กลายมาเป็นคนทำประตูชัย 

“อัคคาย ผู้ตัดสินผู้ทำประตู” พาดหัวข่าวระบุ

“เมื่อผู้ตัดสินในการแข่งขันระหว่าง อัลคารากูซู และ เบซิคตัส พลาดโดนบอลของ เคมาล ยิลดิริม ที่กำลังพุ่งไปหาผู้รักษาประตู ลูกบอลก็เข้าไปอยู่ที่ก้นตาข่ายของเบซิคตัส”

“ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Black and Whites (ฉายาของเบซิคตัส) ต้องเสียหนึ่งคะแนน และทำให้ชะตากรรมในลีกต้องเปลี่ยนแปลง” 

นอกจากนี้ มันยังกลายเป็นหัวข้อที่ทำให้เกิดการถกเถียงว่าประตูดังกล่าว สมควรเป็นประตูหรือไม่ แน่นอนว่า สมาคมฟุตบอลตุรกี ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในกับเหตุการณ์นี้ แต่เนื่องจากเปลี่ยนคำตัดสินไม่ได้ พวกเขาจึงตัดสินใจลงโทษพักงาน อัคคาย เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์แทน 

มันคงจะไม่มีปัญหา หากการตัดสินแชมป์ลีกตุรกีในปีนั้น เบซิคตัส ต้องพลาดแชมป์ หลังมีแต้มน้อยกว่า กาลาตาซาราย เพียงแค่คะแนนเดียว แต่มีประตูได้เสียที่มากกว่า ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่เสียประตูจากลูกอื้อฉาวจังหวะนั้น พวกเขาก็จะคว้าแชมป์ทันที 

ทำให้ประตูดังกล่าว กลายเป็นประตูที่ลืมไม่ลงของแฟนบอล เบซิคตัส และยังคงถูกพูดถึงในแง่การได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากผู้ตัดสิน 

อย่างไรก็ดี สำหรับ อัคคาย ผู้ตัดสินในเกมวันนั้น ยอมรับว่าประตูดังกล่าว ยังเป็นฝันร้ายที่หลอกหลอนเขาไปอีกหลายปี แถมมันยังถูกนำไปเป็นกรณีศึกษา และตัวอย่างในการอบรมผู้ตัดสินมาตลอด

“ประตูโชคร้ายนั้นกลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลก มันถูกโชว์ในการสัมนาผู้ตัดสินทุกปี” อัคคาย กล่าวเมื่อปี 2017

“หลังเกมนั้นพอบอลเข้ามาหาผมในกรอบเขตโทษ ผมรู้สึกว่าต้องถอยหลัง แต่เชื่อผมเถอะ ประตูนั้นทำให้ผมเสียเวลาในชีวิตไปเป็น 10 ปี” 

“ในบางครั้งชีวิตของคนๆหนึ่ง มักจะมีเรื่องโชคร้ายที่ช่วยไม่ได้ สำหรับผมมันคือช่วงเวลานั้น เชื่อผมเถอะ ผมร้องไห้หลังจากประตูนั้น” 

และทำให้มันกลายเป็นที่รู้จักในฐานะประตูสุดแปลก เท่าที่โลกเคยมีมา