เมื่อ โตโก ลวงโลก ด้วยการส่ง “ทีมชาติปลอม” บินมาเตะข้ามทวีป
การโกหกเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลกใบนี้มาอย่างยาวนาน ทุกคนล้วนเคยผ่านเรื่องโกหกกันมาทั้งนั้น เช่นกันกับฟุตบอล ที่มีเรื่องโกหกมากมายเกิดขึ้นทุกวันในวงการนี้
อย่างไรก็ดี หนึ่งในการโกหกสุดลือลั่นที่สุด คือ “ทีมชาติโตโกปลอม” มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ติดตามไปพร้อมกัน
สำหรับ ทีมชาติโตโก ชาติเล็ก ๆ ในแอฟริกาตะวันตก ที่มี กานา เป็นเพื่อนบ้าน อันที่จริงพวกเขาก็เคยเป็นหนึ่งในทีมแกร่งในภูมิภาคแห่งนี้ หลังผ่านไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว 1 ครั้ง แถมยังเคยรั้งตำแหน่งรองแชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติแอฟริกาตะวันตกถึง 4 สมัย
อย่างไรก็ดี วงการฟุตบอลของพวกเขาก็เริ่มตกต่ำมานับตั้งแต่ปี 2010 หลังเหตุการณ์ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน เข้าโจมตีรถบัสของทีมชาติ ในระหว่างเดินทางไปแข่ง แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่น ที่แองโกลา เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2010
โศกนาฏกรรมดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ประกอบไปด้วย คนขับรสบัส, โค้ช และนักข่าว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็มีถึง 9 คน รวมไปถึง อูแบร์ เวลุด กุนซือของทีม, กอดโจวี่ โอบิลาเย ผู้รักษาประตู, แซร์จ อกักโป กองหลัง และทีมแพทย์อีก 2 คน
“ผมยังคงช็อค ผมเป็นหนึ่งในคนที่อุ้มผู้เล่นส่งโรงพยาบาล นั่นคือตอนที่ผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นจริงๆ” เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อยู่ในรถบัสคันดังกล่าว เล่ากับ BBC
“ผู้เล่นทุกคน ทุกคนต่างร้องไห้ เรียกหาแม่ ร้องไห้กับโทรศัพท์ พูดคำล่าครั้งสุดท้าย เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาต้องตายแน่นอน”
ส่วนเหตุผลที่ทีมชาติโตโก ที่เต็มไปด้วยสตาร์ดังจากยุโรปต้องเดินทางด้วยรถบัส เป็นระยะทางกว่า 3,800 กิโลเมตร ไปแข่งชิงแชมป์ระดับทวีป ก็เป็นเพราะการบริหารงานที่ย่ำแย่ของสมาคมฯ จนทำให้ไม่มีงบประมาณมากพอที่จะให้ผู้เล่นนั่งเครื่องบิน
เหตุการณ์นั้นจึงเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ที่นอกจาก โตโก จะตัดสินใจถอนทีมไม่ลงแข่งใน แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่น ในครั้งนั้น ผู้เล่นหลายคน รวมถึง อาเดบายอร์ ยังตัดสินใจที่จะหันหลังให้กับทีมชาติ เพื่อประท้วงการบริหารงานที่ไม่เป็นมืออาชีพของสมาคมฯ
อันที่จริง เหล่าผู้เล่นทีมชาติเริ่มไม่พอใจสมาคมฯ มาตั้งแต่ตอนที่ไปเล่นฟุตบอลโลก ครั้งแรกเมื่อปี 2006 เมื่อสมาคมฯ แบ่งสรรปันส่วนโบนัสในการไปเล่นในเวิลด์คัพรอบสุดท้ายครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งทีมแค่เพียง 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.5 ล้านบาท) เท่านั้น
แม้ว่าพวกเขาจะต่อรอง ขอโบนัสเป็น 100,000 ดอลลาร์ พร้อมขู่ว่าจะประท้วงไม่ลงเล่นในฟุตบอลโลก แต่สุดท้ายสมาคมฯ ก็ยืนยันคำเดิม และทำให้พวกเขาต้องลงเตะในทัวร์นาเมนต์ที่เยอรมัน ด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน จนพ่าย 3 นัดรวด
ก่อนที่เหตุการณ์โจมตีรถบัส จะทำให้พวกเขาเลือกจะไม่ทนอีกแล้ว และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมชาติโตโก ตกต่ำลง ทั้งอันดับโลก ที่หล่นจากอันดับ 71 เมื่อปีก่อน มาเป็น 103 ในปี 2010 หรือการมีคิวอุ่นเครื่องที่น้อยลงแบบฮวบฮาบ
อย่างไรก็ดี ในเดือนกันยายน 2010 ฟุตบอลของโตโกได้รับข่าวดี หลัง บาห์เรน ทีมจากตะวันออกกลาง ตัดสินใจเชิญพวกเขาไปอุ่นเครื่องที่เมืองริฟฟา เมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศ
หลังจากตกลงค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนหลายหมื่นเหรียญ นักเตะทีมชาติโตโกทั้ง 20 คน ซึ่งทั้งหมดก็ล้วนเป็นหน้าใหม่ ก็บินลัดฟ้าไปลงเตะกับ บาห์เรน ในวันที่ 7 กันยายน
แต่เกมในวันนั้นมันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ เมื่อกลายเป็นเจ้าบ้านที่พับสนามบุกใส่ โตโก ชนิดโงหัวไม่ขึ้น ก่อนจะเอาชนะไปได้ 3-0 ในท้ายที่สุด
มันน่าจะเป็นชัยชนะที่ บาห์เรน ภาคภูมิใจกับการเอาชนะทีมที่เคยผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นในเกมนั้นมีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง
“พวกเขาไม่ฟิตพอที่จะเล่นครบ 90 นาที และทำให้เกมน่าเบื่อมาก” โจเซฟ ฮิกเกอร์สเบอร์เกอร์ กุนซือชาวออสเตรียของ บาห์เรน กล่าวกับ Gulf Daily
“เบื้องต้นมันไม่ได้ดีพอสำหรับเรา เพราะเราอยากได้ข้อมูลในแง่ความแข็งแกร่งของเรา โดยเฉพาะการลงเล่นร่วมกับนักเตะอาชีพของเราหลายคน”
และเรื่องก็มาแดงขึ้น เมื่อสมาคมฟุตบอลโตโก ยืนยันว่าพวกเขาไม่เคยรู้เรื่องเกมอุ่นเครื่องนัดนี้ ก่อนจะพบว่าทีมชาติโตโกปลอมในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการจัดการโดยพลการของ ชานีล บานา อดีตโค้ชของทีม
ทั้งนี้ อันที่จริง บานา เพิ่งจะถูกสั่งแบน 2 ปี หลังพาทีมไปเตะนัดกระชับมิตรกับทีมชาติอียิปต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ในหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น
“ผู้เล่นที่ลงเล่นในเกมกระชับมิตรกับบาห์เรน เป็นผู้เล่นปลอมทั้งหมด” นายพลเซยี เมเมเน นายกสมาคมฟุตบอลโตโกอธิบาย
“เราไม่ได้ส่งทีมฟุตบอลทีมไหนไปแข่งที่บาห์เรน”
เพราะอันที่จริง บาห์เรน ไม่ได้ทำอะไรผิดขั้นตอน พวกเขาติดต่อเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้อง อีกทั้งรายชื่อผู้เล่นพร้อมหมายเลขพาสสปอร์ตทั้ง 20 คนที่ โตโก ส่งมา ก็ไม่ได้ผิด แถม ชีค อาลี บิน คาลิฟา อัล คาลิฟา รองประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบาห์เรนก็ยืนยันว่า เอกสารที่ได้รับตอบกลับ ก็มีตราประทับที่ถูกต้องของ ส.บอลโตโก
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพราะ บานา ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ ตอบรับคำเชิญกับ บาห์เรน โดยไม่แจ้งให้นายกสมาคมรู้ ก่อนจะจัดการเปลี่ยนรายชื่อผู้เล่นถึง 18 คนจาก 20 คนที่ส่งชื่อไป แล้วใช้บัญชีของตัวเอง รับเงิน 60,000 เหรียญ หรือราว 2.1 ล้านบาท จากฝั่งบาห์เรน
จากผลดังกล่าวทำให้ บานา ถูกสั่งแบนยาวเพิ่มอีก 3 ปี และเมื่อหลักฐานมัดตัว เขาก็ออกมาขอโทษต่อสาธารณะชน แต่ก็อ้างว่าที่ทำไป เพราะอยากให้แข้งเยาวชนของโตโก ได้มีเกมการแข่งขันในระดับนานาชาติเท่านั้น
“ผมตระหนักถึงความผิดพลาดที่ก่อ ผมขอแสดงความขอโทษอย่างจริงใจต่อประธานาธิบดีของประเทศ ชาวโตโกทุกคน และนายกสมาคมฟุตบอลบาห์เรน” บานา กล่าว
“ผมอยากจะช่วยเหลือเยาวชนใน โตโก ที่เลือกเล่นฟุตบอล แต่มีปัญหาเพราะขาดการแข่งขันในระดับชาติ”
ทว่า เมื่อสืบลึกลงไปกลับพบว่า ขบวนการนี้มีกลุ่มมาเฟียหนุนหลัง ที่ทำให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงหนังสือเดินทาง และเอานักเตะที่ไม่ได้ส่งชื่อไปแข่ง โดยไม่มีใครจับได้
นอกจากนี้ ทีมชาติโตโกปลอม ยังเชื่อมโยงไปถึง แดน ตัน มาเฟียแห่งวงการพนันชาวสิงคโปร์ ที่อยู่เบื้องหลังการล็อคผลหลายระดับทั่วโลก ทำให้เชื่อว่าเงินที่ บานา ได้รับ น่าจะไม่ใช่แค่ 60,000 เหรียญ จากสมาคมฟุตบอลบาห์เรน เพียงอย่างเดียว
ทำให้มันเคสนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการส่งทีมชาติปลอมมาลงแข่ง แต่ยังนำไปสู่การล็อคผลการแข่งขัน ปัญหาใหญ่ที่เป็นเหมือนมะเร็งร้ายกัดกินวงการลูกหนังมาอย่างยาวนาน
ส่วนโตโก พวกเขาก็ยังกู่ไม่กลับ หลังตกลงมาอยู่ในอันดับ 127 ในฟีฟ่าเวิลด์แรงกิ้ง ขณะที่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แทบไม่ต้องพูดถึง เพราะขนาด แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่น พวกเขาก็ไม่ได้ไปโชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้ายอีกเลยนับตั้งแต่ปี 2019
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.