กีฬาอื่น ๆ

แอบขึ้นรถ หมาไล่ฟัด ใช้ยาโด๊ป : แข่งวิ่งมาราธอนในโอลิมปิกที่วายป่วงที่สุดในประวัติศาสตร์

วิ่งมาราธอน ถือเป็นกีฬาที่อยู่คู่กับการแข่งขันโอลิมปิกมาอย่างยาวนาน แถมช่วงหลังยังถูกได้รับการยกให้เป็นการแข่งขันไฮไลต์ จากการเป็นเหรียญทองสุดท้ายให้ร่วมชิงชัย

ทว่า ตลอด 100 ปีที่ผ่านมา คงจะไม่มีมาราธอนไหน ที่ถูกพูดถึงมากเท่ากับในโอลิมปิก 1904 ที่สหรัฐอเมริกา เพราะมันเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ทั้งนักวิ่งแอบขึ้นรถ โดนหมาไล่ฟัด ไปจนถึงใช้ยาโด๊ปจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

และนี่คือมาราธอน ที่ได้รับการขนานนามว่าวุ่นวายที่สุดในประวัติศาสตร์ ติดตามไปพร้อมกัน

แม้ว่าโอลิมปิก 1904 จะเป็นโอลิมปิกครั้งแรกของสหรัฐอเมริกา แต่ดูเหมือนเจ้าภาพก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก เนื่องจากมองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของ เวิลด์แฟร์ หรือมหกรรมโชว์สินค้า ที่จัดขึ้นที่ เซนต์หลุยส์ ในปีดังกล่าว

ทำให้การแข่งขันถูกจัดแบบขอไปที ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่เข้าขั้นเลวร้าย ด้วยถนนในเขตชนบทที่เต็มไปด้วยฝุ่น เนินเขาที่มีมากถึง 7 ลูก ด้วยระดับความสูงตั้งแต่ 30 – 90 เมตร ไปจนถึงนักวิ่งต้องหลบเลี่ยงการจราจรในเมืองเอง ที่มีทั้งเกวียนส่งของ รถราง ไปจนถึงรถไฟ

แต่ที่โหดร้ายกว่านั้นคือทั้งที่ต้องออกสตาร์ทตอน 3.03 ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว ด้วยอุณภูมิ 32 องศาเซลเซียส แต่กลับมีจุดให้บริการน้ำเพียงแค่ 2 จุด คือ 6 ไมล์ และ 12 ไมล์ จา่กระยะทางทั้งหมด 24.85 ไมล์)

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เจมส์ ซัลลิแวน หัวหน้าฝ่ายจัดการแข่งขันต้องการทดสอบขีดจำกัดนักวิ่งด้วยการลดการให้น้ำ เพื่อจะเอาไปใช้ในงานวิจัย

นอกจากนี้ แม้ว่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะมีมากถึง 32 คนจาก 4 ชาติ ได้แก่ สหรัฐ, กรีซ, คิวบา และแอฟริกาใต้ แต่หลายคนก็ไม่เคยมีประสบการณฺ์วิ่งระยะไกลมาก่อน แถมบางคนเพิ่งจะฝึกซ้อมเพียงแค่ 1 วันก่อนแข่งขันอีกด้วย

แต่การแข่งขันเกิดขึ้นจนได้ในวันที่ 30 สิงหาคม ก่อนที่มันจะเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เฟเดริกซ์ ลอร์ซ ตัวแทนจากสหรัฐฯ ที่มีอาชีพที่แท้จริงเป็นช่างอิฐ แต่กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 13 นาที

อันที่จริงเขาเกือบจะได้เหรียญทองมาคล้องคออยู่แล้ว แต่ดันมาโดนจับได้ว่าโกงการแข่งขัน ด้วยการแอบขึ้นรถของผู้จัดการตอนช่วงไมล์ที่ 9 หลังจากเป็นตะคริว ก่อนจะลงมาวิ่งต่อในช่วง 4.85 ไมล์สุดท้าย เนื่องจากรถเสีย

เมื่อถูกจับได้ ลอร์ซ อ้างว่ามันเป็นแค่มุกตลก แต่ก็ไม่รอด และถูกโอลิมปิกลงโทษแบนตลอดชีวิต

หรือ เลน เทายันเด นักวิ่งจากแอฟริกาใต้ ที่ถูกหมาป่าไล่ จนวิ่งออกนอกเส้นทางเป็นระยะทางถึง 1 ไมล์ ไปจนถึง วิลเลียม การ์เซีย ตัวแทนจากเจ้าภาพ ที่เกือบเอาตัวไม่รอด เพราะหายใจเอาฝุ่น ที่เกิดจากนักวิ่งและรถของโค้ชในระหว่างการแข่งขัน จนล้มตึงก่อนถึงเส้นชัย

แต่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงจะเป็น เฟลิกซ์ คาบาฮัล เด โซโต บุรุษไปรษณีย์แห่งคิวบา ที่สร้างเรื่องตั้งแต่ก่อนแข่ง หลังนำเงินที่ได้รับบริจาคจากผู้คนในบ้านเกิดเพื่อมาแข่งโอลิมปิก ไปใช้เล่นพนันที่ นิวออร์ลีน จนหมดตัว และต้องติดรถชาวบ้านมาแข่งที่เซนต์หลุยส์

แถมในระหว่างการแข่งขัน เขายังหิวมาก จึงไปฉวยลูกพีชจากมือคนที่อยู่ข้างทางมากิน รวมถึงไปขโมยแอปเปิ้ลในสวนชาวบ้านที่อยู่นอกเส้นทาง แต่โชคร้ายมันเป็นแอปเปิ้ลเน่า ทำให้เขาปวดท้องอย่างรุนแรง จนต้องนอนพักแล้วค่อยวิ่งต่อ แต่ก็ยังเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4

สุดท้ายจากผู้เข้าร่วมแข่งขัน 32 คน มีนักวิ่งที่วิ่งจนจบแค่เพียง 14 คน หรือไม่ถึงครึ่ง โดยผู้ชนะคือ โทมัส ฮิคส์ จากสหรัฐฯ ด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 28 นาที 53 วินาที ตามมาด้วย อัลเบิร์ต คอร์เรย์ นักวิ่งจากฝรั่งเศส และเหรีญทองแดงเป็นของ อาเธอร์ นิวตัน ของเจ้าภาพ

แต่อันที่จริง ฮิคส์ เอง ก็เกือบจะไม่ได้เข้าเส้นชัย เมื่อเขาเกือบสิ้นสติไปแล้ว หลังโด๊ปตัวเองด้วย สารหนูผสมไข่ขาวและบรั่นดี เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีกฎห้าม

“ในช่วง 2 ไมล์สุดท้าย ฮิคส์ วิ่งราวกับเครื่องจักร มันเหมือนเครื่องจักรที่ทาน้ำมันอย่างดี ดวงตาของเขามัวหมองไร้แววตา สีหน้าและผิวเข้มขึ้น แขนทิ้งดิ่งลงด้านล่าง เขาแทบจะยกขาไม่ขึ้น เข่าดูแข็งทื่อไปแล้ว” ชาร์ล ลูคัส เจ้าหน้าที่ของการแข่งขันบรรยาย

ในช่วงสุดท้ายเขาเริ่มมีอาการประสาทหลอน คิดว่าเส้นชัยอยู่ห่างออกไปอีก 20 ไมล์ ตอนนั้นเขาเริ่มขออะไรกิน ก่อนจะได้บรั่นดีและไข่ขาวอีกสองฟองเข้าไป และระหว่างที่กำลังโงนเงน ก็ได้โค้ชประคองเข้าเส้นชัย

ทั้งนี้ เวลาของฮิคส์ ถือเป็นเวลาของผู้ชนะที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันวิ่งมาราธอนในโอลิมปิก แต่ถึงอย่างนั้นเขาคงไม่คิดอะไร เพราะรอดตายมาได้ ก็โชคดีมากแล้ว

“ผมไม่เคยวิ่งในเส้นทางที่ยากแบบนี้มาก่อนในชีวิต เนินเขาที่ใหญ่โตนั้นสามารถฉีกมนุษย์ออกเป็นชิ้นๆอย่างง่ายได้” ฮิคส์ กล่าว

Maruak Tanniyom

Share
Published by
Maruak Tanniyom

Recent Posts

รอบนี้ไม่เหมือนเดิมแน่! เทน ฮาก ชี้ผีตอนนี้ ต่างจากชุดที่แพ้พาเลซ 4-0

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ก่อนพาทีมบุกเยือน คริสตัล พาเลซ ในเกมพรีเมียร์ลีกคืนวันเสาร์นี้ โดยมั่นใจว่าครั้งนี้ลูกทีมจะทำผลงานในการเจอทีมปราสาทเรือนแก้วได้ดีกว่าเดิม แม้ซีซั่นก่อนจะแพ้พาเลซในพรีเมียร์ลีกทั้งไปและกลับ แบบที่ยิงประตูไม่ได้เลยก็ตาม โดยแพ้ 0-1…

3 hours ago

จังหวะดับเบิ้ลเซฟ ราย่า เกมเจออตาลันต้า โอกาสเซฟได้แค่ 3% แต่เซฟได้

ช็อตเด่นจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส คืนวันพฤหัสบดี นัดที่อาร์เซน่อลบุกไปเสมออตาลันต้า 0-0 เชื่อว่าจังหวะที่คนพูดถึงมากที่สุดคงเป็นช็อต "ดับเบิ้ลเซฟ" อันเหลือเชื่อของ ดาบิด ราย่า…

3 hours ago

“เพื่อนร่วมรุ่นฮาก” – “มือขวา อาร์เน่อ” บอก 2 คนนี้เหมือนกันแค่ทรงผม

ฟุตบอลของ เอริค เทน ฮาก และ อาร์เน่ สล๋อต ต่างมีแนวทางของตัวเองกันทั้งคู่ อาจจะไม่ได้เอาสไตล์ที่ถือเป็นศาสตร์เบื้องต้นของฟุตบอลดัตช์ทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าจะจาก โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ…

18 hours ago

ใครเตะเยอะไป? รู้จักลีกบราซิลสุดโหดหวดหลัก 60 นัดต่อฤดูกาล

ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รูปแบบใหม่ ประเดิมนัดแรกกันไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากเหล่าผู้เล่น ที่มองว่าพวกเขากำลังจะลงเตะ “มากเกินไป” ในหนึ่งฤดูกาล อย่างไรก็ดีในอีกซีกโลก มีลีกประเทศหนึ่งที่เตะกันอย่างดุเดือดในระดับ 50-60 นัดต่อฤดูกาลอยู่เสมอ และ บราซิล ก็คือประเทศนั้น…

22 hours ago

อาร์เตต้าชี้ปืนเตะ UCL วันพฤหัสไม่เสียเปรียบเรือ ยันจัดเต็มเจอ อตาลันต้า

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มของอาร์เซน่อล เผยว่าการที่ต้องลงเตะเกมแรกของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส ที่จะต้องบุกเยือนแชมป์ ยูโรปา ลีก อย่างอตาลันต้าในคืนวันพฤหัสบดี ไม่น่าจะทำให้ทีมปืนใหญ่เสียเปรียบ…

1 day ago

แปลกกว่าที่เคย : เผยเหตุผล ทำไมปีนี้มีเกม UCL เตะวันพฤหัสบดี

ปกติแล้ว ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มักจะแข่งกันในคืนวันอังคารหรือไม่ก็คืนวันพุธ มีเพียงแค่เกมรอบชิงชนะเลิศที่จะเตะกันในคืนวันเสาร์เท่านั้นที่เตะในวันที่แตกต่างจากรอบปกติ แต่ในฤดูกาลนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกไปจากที่เคยพอสมควร เมื่อจะมีเกม UCL ในคืนวันพฤหัสบดีด้วย โปรแกรม แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพฤหัสบดีที่…

1 day ago