โรงงานผลิตปีศาจ : ทำไมเดนมาร์กจึงเป็นประเทสเดียวในยุโรปที่มีนักแบดฯระดับโลก ?

Chayuntorn Chaimool

August 05, 2024 · 1 min read

โรงงานผลิตปีศาจ : ทำไมเดนมาร์กจึงเป็นประเทสเดียวในยุโรปที่มีนักแบดฯระดับโลก ?
กีฬาอื่น ๆ | August 05, 2024

ทุกคนได้เห็นด้วยสายตาของตัวเองสำหรับความโหดปานปีศาจของ วิคเตอร์ แอ็คเซลเซน ในแมตช์ชิงทองที่นักแบดมินตันจากเดนมาร์กสอย วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ไป 2-0 เซ็ต

ปกติแล้วในกีฬาแบดมินตันมีแต่ชาติในเอเชียที่ปรากฎตัวและแย่งชิงเหรียญกัน แต่มีชาติจากยุโรปประเทศเดียวเท่านั้นที่มีนักแบดมินตันระดับโลก พวกเขาแตกต่างยังไง ทำไมเก่งอยู่ชาติเดียวในยุโรป ?

การเมืองดีอะไรก็ดี ? … เรื่องนี้มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ

เรื่องนีเกิดขึ้นในปี 1960 ที่เดนมาร์ก ปฎิรูปการปกครองท้องถิ่น พวกเขาตัดสินใจเทงบประมาณก้อนโตเพื่อพัฒนาการศึกษา สร้างโรงเรียน และบรรจุกีฬาชนิดต่าง ๆ ลงในแบบเรียนมากมาย และแบดมินตันก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

โดย แบดมินตัน นั้นได้อานิสงส์จากการที่เดนมาร์กเป็นประเทศหนาวจัด ซึ่ง แบด เป็นกีฬาที่ต้องในร่ม ในโรงยิม จึงทำให้ในวันที่อากาศไม่ดีหิมะตก แบดมินตัน เป็นกีฬาไม่กี่ชนิดที่ยังเล่นได้

นอกจากโรงยิมในระดับโรงเรียนแล้ว เดนมาร์กมีการสร้างสโมสรแบดมินตันขึ้นมาหล่ายแห่งเพื่อรองรับนักกีฬาที่ต่อยอดมาจากระดับโรงเรียน และถ้าใครเก่งจริงก็จะถูกส่งไปรวมตัวกันที่ศูนย์ฝึกแบดมินตันแห่งชาติในกรุงโคเปนเฮเก้น ซึ่งที่นี่เต็มไปด้วยอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และจ้างโค้ชฝีมือดีมาให้กับเด็ก ๆ ของพวกเขา

ความแตกต่างอีกข้อคืองบประมาณในการพัฒนานักแบดมินตันในประเทศสูงมากนับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมาเดนมาร์กมีนักแบดมินตันเพิ่มขึ้นถงึ 160,000 คนที่ลงชื่ออย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีสโมสรรองรับอีกถึง 600 สโมสร ดังนั้นพวกเขาจึงเติบโตกันอย่างมีสเต็ป มีที่มาที่ไป แตกต่างกับบางประเทศที่อาจจะต้องปล่อยให้เด็กขวยขวายกันเอาเอง

สิ่งนี้ทำให้ เดนมาร์ก มีตัวขึ้นมาติดอันดับโลกเสมอ โดยเฉพาะ มอร์เทน ฟอรสต์ ตำนานนักแบดมือ 1 ของโลกที่ครองอันดับนานถึง 12 ปีจนได้ฉายาว่า “นักแบดมินตันที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์”

ซึ่งจากที่เห็นก็คงไม่แปลกนัก นักแบดเหล่านี้มีร่างกายสูงใหญ่เกือบ 2 เมตร แขนขายาวได้เปรียบในการตีในคอร์ตเล็ก ๆ ยิ่งเมื่อพวกเขาถูกฝึกเฉพาะด้านและมีงบประมาณสนับสนุนคอยส่งแข่งในรายการต่าง ๆ เราจึงได้เห็นนักแบดเดนมาร์กเก่ง ๆ หลายคนในยุคที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนที่สุดก็ต้องนับรวม วิคเตอร์ เอ็กเซลเซ่น ด้วย