คริสตี้ มาร์ติน อดีตนักมวยสากลหญิง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในอเมริกายุค 90 ด้วยความกล้าหาญ ไม่ยอมแพ้ใคร รักการชกมวยเป็นชีวิตจิตใจ แต่ในอดีต การขึ้นสังเวียนของผู้หญิงยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แย่ไปกว่านั้นยังตามด้วย การเหยียดหยาม ในรูปแบบต่างๆ นาๆ
มาร์ติน คริสตี้ เปิดตัวครั้งแรกในฐานะ นักชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกในปี 1989 และสร้างความประทับใจให้กับโปรโมเตอร์อย่างมาก จนเชิญเธอกลับมาชกอีกครั้งทันที และเธอเริ่มสร้างสถิติชนะรวดเมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ จิม มาร์ติน (อดีตสามี) ในปี 1991 โดยเริ่มต้นที่การชนะ 19 ไฟต์ ติดต่อกัน
แม้แต่ ไมค์ ไทสัน สตาร์สังเวียนในยุคเดียวกันยังประทับใจในลีลาการชกของ คริสตี้ มาก ถึงขนาดที่ครั้งหนึ่งเขาเคยซื้อรถ BMW ให้เลยทีเดียว และเส้นทางอาชีพมวยสากลหญิงของ คริสตี้ มาร์ติน นั้นยาวนานถึง 23 ปี นับตั้งแต่ปี 1989-2012
อย่างไรก็ตามแม้อาชีพนักมวยสากลจะโดดเด่น แต่แผลในใจของ คริสตี้ นั้นมากมายเหลือเกิน เริ่มตั้งแต่สถานะการเงินทางครอบครัวที่พ่อของคริสตี้ เป็นเพียงคนงานในเหมืองถ่านหิน ที่ มัลเลนส์ เมืองที่มีเส้นความยาวถนนเพียง 1 ไมล์ และให้คำจัดความกับชีวิตในวัยเด็กนั้นมา “คุณเคยเป็นจนนะ แต่แค่ไม่รู้ตัวว่าจนแค่นั้นเอง”
ต่อมาในวัยเพียง 6 ปี คริสตี้ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยเพื่อนบ้าน แต่ไม่เคยบอกกับครอบครัวเลย เพราะแม่ของ คริสตี้ เป็นเพื่อนสนิทกับคุณยายของคนเหล่านั้น และยอมรับว่า บาดแผลในใจนั้นผลักดันให้ลุกขึ้นสู้กลับจนทุกวันนี้
“ฉันยังเด็กมาก ฉันปิดปากเงียบมาตลอด และพยายามไม่พูดถึงมันอีก ฉันไม่เคยเข้ารับการปรึกษา(จากแพทย์)แบบเป็นทางการ หรือพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ แต่ความโกรธนั้นยังคงอยู่ในตัวฉัน ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ ฉันแน่ใจว่ามันมีส่วน ฉันไม่แน่ใจหรอกว่ามันมีส่วนขนาดไหน(สำหรับการเป็นนักมวย”
ปกติแล้ว หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคมากมายและประสบความสำเร็จแล้ว ชีวิตคนเราจะมี “ฟ้าหลังฝัน” เสมอ แต่ไม่ใช่กับชีวิตของ คริสตี้ มาร์ติน เพราะเหตุการณ์ต่อมา คือเหตุการณ์ที่เป็นแผลที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของ คริสตี้ ก็ว่าได้
และนี่คือชีวิตของ คริสตี้ มาร์ติน เพราะในความเป็นจริงแล้ว คริสตี้ มาร์ติน เป็น LGBTQ+ (คริสตี้ เป็นผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวแบบผู้ชายและชอบผู้หญิง) และโดนกดดันจาก จิม มาร์ติน ผู้เป็นสามีมาเสมอ จากการขู่ว่า คริสตี้ จะไม่ถูกยอมรับในเพศสภาพจากสังคม และครอบครัวตัวเอง และเส้นทางอาชีพจะจบลง และยังต้องถูกหลอกลวง แบล็คเมล์ และใช้ความรุนแรงมาตลอดเป็นเวลากว่า 20 ปี
“จิมบอกกับฉันว่า ครอบครัวของฉันไม่ต้องการเห็นฉันผิดจากเพศตัวเอง ดังนั้นฉันควรแต่งงานกับเขา(จิม) และฉันเลือกครอบครัวของฉันเอง แต่ฉันพูดเสมอว่าฉันไม่ได้แต่งงานกับเขาแบบจริงๆ ฉันแต่งงานกับการชกมวย เพราะนั่นคือสิ่งที่ฉันรัก”
“ฉันทุ่มเทพลังทั้งหมดให้กับการสร้างอาชีพและพยายามเป็นนักมวยที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เขากลับควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ฉันพูด สถานที่ที่ฉันไป และคนที่ฉันคุยด้วย ฉันถูกกักขังไว้ แม้กระทั่งก่อนที่เราจะแต่งงานกัน เขาบอกกับฉันว่าเขาจะฆ่าฉันถ้าฉันทิ้งเขาไป ฉันอายุ 23 ปี และตอนแรกฉันหัวเราะเยาะเขา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฉันก็เริ่มเชื่อว่าเขาพูดจริง”
เมื่ออาชีพของ คริสตี้ กำลังจบลงอย่างช้าๆ ด้วยหลายๆ อย่าง จิมเริ่มต้นแบล็คเมล์ว่า จะเปิดเผยรสนิยมของ คริสตี้ และ จิม เริ่มทำให้ คริสตี้ เข้าสู่การเสพยาเสพติด โดยการกดดันทำให้ คริสตี้ เครียดอย่างหนัก ค่อยๆ ทำให้เธอติดยาเสพติด จนทำให้เธอติดโคเคนจนได้ โดย ถึงขนาดนี้ครั้งหนึ่ง จิม เคยขู่ให้ คริสตี้ ถ่ายคลิปวีดีโอ ในขณะที่กำลังมีกิจกรรมทางเพศ หากไม่ทำในสิ่งที่ต้องการเขาจะไม่ให้ คริสตี้ เสพโคเคนอีก
“ฉันตื่นอยู่ได้แค่ครั้งละสองสามวันเป็นเวลานานประมาณสามปี แล้วคืนหนึ่ง ฉันก็มองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกและคิดว่า ‘ฉันดูเหมือนคนติดยาเลย แต่ไม่ใช่สิ ฉันเป็นคนติดยาอยู่ต่างหาก’ นั่นคือจุดเปลี่ยนของฉัน ฉันเลิกยาและไม่ได้ใช้โคเคนอีกเลย”
และเมื่อวันที่เธอดีขึ้น และคิดว่าจะขอหย่ากับ จิม สุดท้าย คริสตี้ ก็รู้ว่า สุดท้ายคำขู่ทุกอย่างเป็นจริง จิม เปิดเผยกับเพื่อนๆ และครอบครัวของ คริสตี้ ว่า คริสตี้ เป็นเลสเบี้ยน และติดยาเสพติด รวมถึงส่งคลิปวีดีโอตอนมีเซ็กส์ให้ดูอีกด้วย
และที่หนักที่สุดคือ การทำร้ายร่างกายเกือบถึงชีวิต ใน 2010 จิม ทำร้าย คริสตี้ ด้วยการแทงด้วยมีดอย่างรุนแรง โดยหนึ่งในรอยแทงนั้นทะลุปอดของ คริสตี้ จากนั้นก็เอาปืนขนาด 9 มม. ยิงซ้ำ และคิดว่าเธอเสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเรียกว่าโชคดีได้หรือไม่ คริสตี้ ยังคงมีลมหายใจ คริสตี้ ดิ้นรนหนีออกจากบ้านไปขณะที่ จิม เข้าไปล้างมือที่เปื้อนเลือดของตัวเอง สุดท้าย คริสตี้ได้รับการช่วยเหลือ และเป็นอิสระในที่สุด ด้าน จิม โดนโทษจำคุก 25 ปี และไม่สามารถเข้าใกล้ คริสตี้ ได้อีกเลย
ปัจจุบันเรื่องราวสุดเลวร้ายของ คริสตี้ มาร์ติน จบลงไปแล้ว ซึ่ง คริสตี้ ได้มีการแต่งงานกับ ลิซ่า โฮลวีน อดีตนักชกหญิง นับตั้งแต่ปี 2017 และ คริสตี้ เองได้รับการเข้าสู่หอเกียรติยศของวงการมวยหญิงในปี 2020 ซึ่งเป็นปีแรกที่นักมวยหญิงได้รับการเสนอชื่อ และตอนนี้ภาพยนตร์ที่เป็นอัตชีวประวัติของ คริสตี้ มาร์ติน กำลังถ่ายทำอยู่ โดยคนที่แสดงเป็น คริสตี้ คือ ซิดนีย์ สวีนีย์ ดาราสาวสุดเซ็กซี่ จากหนังและซีรีย์ชื่อดังอย่าง White Lotus ,Euphoria ,Anyone But You และ Madam Web
ด้าน ซิดนีย์ สวีนีย์ เปิดเผยถึงการแสดงเป็น คริสตี้ มาร์ติน ว่า
“นี่คือหนึ่งในประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตฉันมากที่สุดเลยค่ะ มีช่วงเวลาหนึ่งฉันเหลือบมองไปที่เธอที่อยู่ที่มอร์นิเตอร์และเชียร์เราอยู่ ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก การที่รู้ว่าเธอต้องอดทนกับอะไรมาบ้าง เธอต้องฝ่าฟันอะไรมาบ้างเพื่อมาอยู่ตรงนี้ มันทำให้ฉันอยากร้องไห้เลยหละ”
โดยตอนนี้ ภาพยนตร์ ยังไม่มีชื่อเรื่อง แต่ถ่ายทำเสร็จแล้วตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และกำลังอยู่ในขั้นตอนตัดต่อ และจะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้งว่า จะขึ้นจอภาพยนตร์ เมื่อไหร่นั่นเอง
ถ้าพูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย มีทั้งฝั่งที่เห็นใจ เข้าใจ และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแรชฟอร์ด ในส่วนของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับแรชฟอร์ดต่างบอกว่าต้องการให้แรชฟอร์ดย้ายออกจากทีมไปและไม่ว่าทีมไหนที่ได้ตัวไป นั้นจะเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนี่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่สุดโต่งไปหน่อยและไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้นเช่นกันกับ เอียน ไรท์ อดีตตำนานกองหน้าของอาร์เซนอล ที่ออกแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ผมย้ายไปอาร์เซนอลตอนอายุ…
วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (20 ธันวาคม 2562) มิเกล อาเตต้า ถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ หลังปลด อูไนเอเมรี่ การทำงานตลอด 5 ปี ภายใต้…
“ความคิดของผมเกี่ยวกับ กิว คือ บาร์เซโลนา ปล่อยเขามาได้อย่างไร?” โจ โคล อดีตมิดฟิลด์ของเชลซีกล่าว เชลซี ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมฟุตบอลสโมสรยุโรป หลังไล่ถล่ม แชมร็อค โรเวอร์ส 5-1 ในศึกยูฟ่า…
ควันหลงจากเกมคาราบาว คัพที่สเปอร์สเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้สุดมันส์ 4-3 โดยในเกมนี้มาเรื่องดราม่ามากมายหลายประเด็น ในทุกคนรู้หรือไม่ว่าในระหว่างเกมที่เดือดไฟลุกแบบนี้มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆสนามและนั้นก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญนั้นคือก็ลูกโป่งสีเหลืองที่แฟนๆสเปอร์สร่วมกันชูขึ้น ว่าแต่ว่าลูกโป่งสีเหลืองคืออะไร พวกเขาส่งสัญญาณถึงใคร มาค่อยๆไล่เลียงกันไปครับ เกิดอะไรขึ้น? ย้อนกลับไปในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาเกิดการลักพาตัวประชาชนชาวอังกฤษขึ้นหลายคนไปฉนวนกาซา และหนึ่งในนั้นคือ Emily…
นับเป็นวันดีๆอีกหนึ่งวันสำหรับแฟนบอลอาร์เซนอล หลังพวกเขาสามารถเอาชนะคริสตัล พาเลซมาได้ 3-2 ในศึกคาราบาว คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา แม้ว่านี่จะเป็นการที่เจอกับทีมที่ชื่อชั้นเป็นรองกว่าและบอลถ้วย แต่นั้นก็ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีหลังโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และจากเกมนี้ผมไม่มีดีใจไปกว่า กาเบรียล เชซุส กาเบรียล เชซุส ตกเป็นเป้าในการวิจารณ์มาตลอดในช่วงหลังเนื่องจากเขาไม่สามารถทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง…