ซ้ำรอยเคลิฟ? : เมื่อพรรคการเมืองตุรกีตั้งคำถามเรื่องเพศ “จันทร์แจ่ม”

Kim Junumporn

August 05, 2024 · 2 min read

ซ้ำรอยเคลิฟ? : เมื่อพรรคการเมืองตุรกีตั้งคำถามเรื่องเพศ “จันทร์แจ่ม”
กีฬาอื่น ๆ | August 05, 2024

การันตีไปอีกหนึ่งเหรียญสำหรับทัพนักกีฬาไทย หลัง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ทะลุเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้าย ด้วยการเอาชนะ บูเซนาซ ซูร์เมเนลี่ นักชกจากตุรกี เจ้าของเหรียญทอง โตเกียว โอลิมปิก 2020 

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความชื่นมื่นของชาวไทย กลับมีดราม่ามาจาก ตุรกี ฝั่งผู้แพ้ เมื่อ อูมิซ ออซแดก หัวหน้าพรรค Victory Party แห่งแดนไก่งวง มาโจมตีว่า จันทร์แจ่ม เป็นนักกีฬาข้ามเพศ ตามมาด้วยคำล้อเลียนมากมาย ไม่ต่างจากตอนที่ อิมาน เคลิฟ นักชกจากแอลจีเรียโดน 

สำหรับ ตุรกี พวกเขาเป็นชาติที่โดดเด่นเรื่องศิลปะป้องกันตัว โดยเฉพาะมวยปล้ำ และมวยสากลสมัครเล่น ที่คว้าเหรียญในโอลิมปิกมาตลอด 

แต่สำหรับ มวยหญิง พวกเขาเพิ่งมาคว้าเหรียญทองแรกได้ในโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว ในรุ่นเวลเตอร์เวท จาก บูเซนาซ ซูร์เมเนลี นักชกวัย 23 ปีในขณะนั้น 

ทำให้ โอลิมปิก 2024 ตุรกี หมายมั่นปั้นมือในกีฬาชนิดนี้เป็นพิเศษ เช่นกันสำหรับ ซูร์เมเนลี แชมป์เก่า ที่ถูกคาดหวังว่าจะต้องคว้าเหรียญทองเหรียญที่ 2 มาคล้องคอให้ได้ เพราะนอกจากจะเป็นแชมป์โอลิมปิกแล้ว เธอยังเป็นเจ้าของแชมป์โลก 2 สมัย และแชมป์ยุโรปคนล่าสุด 

แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อในรอบ 8 คนสุดท้าย เธอต้องพ่ายให้กับ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกจากไทย ด้วยคะแนน 1-4 หยุดเส้นทางลุ้นเหรียญไว้เพียงเท่านี้ 

อันที่จริงมันคงจะไม่มีอะไร หากหลังไฟต์นั้น อูมิซ ออซแดก หัวหน้าพรรค Victory Party ไม่ออกมาทวีตว่า ที่นักชกของพวกเขาต้องพ่ายแพ้ เป็นเพราะโอลิมปิก ยอมให้นักกีฬาข้ามเพศมาแข่งในโอลิมปิก 

“บูเซนาซ แพ้ให้กับนักมวยแปลงเพศของไทย นักกีฬาไทยอาจจะดูเหมือนผู้หญิง แต่ร่างกายของเธอคือผู้ชาย” ออซแดก กล่าว

“ด้วยวิธีนี้ ทำให้ไม่ใช่กีฬา แต่เป็นความรุนแรงต่อผู้หญิง คณะกรรมการโอลิมปิก กำลังเริ่มทรยศต่อกีฬา” 

หลังจากนั้น มันก็กลายเป็นไฟลามทุ่ม ที่ผู้คนต่างโจมตี จันทร์แจ่ม และ โอลิมปิก อย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถามว่า ไอโอซี ยอมให้นักกีฬาแปลงเพศมาแข่งได้อย่างไร หรือบางโพสต์ ก็เอารูป จันทร์แจ่ม มาแขวน แล้วบอกว่านี่คือผู้หญิงแน่หรือ? ไปจนถึงโพสต์รูปไมค์ ไทสัน ใส่วิก แล้วบอกว่านี่คือนักกีฬาโอลิมปิกหญิงครั้งหน้า 

อันที่จริง นี่ไม่ใช่ครัั้งแรก ที่ ออซแดก โพสต์ในลักษณะนี้ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ อิมาน เคลิฟ กลายเป็นประเด็น เขาก็ออกมาโจมตีโดยกล่าวหาว่า นักชกชาวแอลจีเรีย และ หลิน ยู่ ถิง นักชกจากไต้หวัน คือผู้ชาย 

“หลิน ยู่ ถิง จากไต้หวัน และ อิมาน เคลิฟ จาก แอลจีเรีย เกิดมาในฐานะผู้ชาย แต่ลงแข่งมวยหญิงในปารีส 2024” ออซแดก ระบุ 

“จากการตัดสินใจของ ไอโอซี ในครั้งนี้ ทำให้ความรุนแรงของผู้ชายที่มีต่อผุ้หญิงได้รับรองอย่างเป็นทางการในฐานะความบันเทิง ความรุนแรงที่มีต่อผู้หญิง ภายใต้กีฬาไม่ควรทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย” 

อย่างที่รู้กันว่านี่เป็นข้อมูลที่ผิด เนื่องจาก ยู่ถิง และ เคลิฟ ไม่ได้เป็นผู้ชายที่แปลงเพศมาอย่างใด แต่เป็นผู้หญิงโดยกำเนิด เพียงแค่เธออาจจะมีโครโมโซม XY อยู่ในตัวเท่านั้น และมีสิทธิ์ลงแข่งขันในประเภทหญิงอย่างถูกต้อง 

หลายฝ่ายเชื่อว่านี่อาจจะเป็นการหวังผลทางการเมือง เนื่องจาก Victory Party ที่ ออซแดก เป็นหัวหน้าพรรค มีนโยบายแบบขวาจัด แถมตัวเขาเองก็มีแนวคิดแบบสุดโต่ง โดยเฉพาะการเหยียดเพศ และเชื้อชาติ 

การออกมาโพสต์เรื่องนี้ถึง 2 ครั้งซ้อน แถมยังเป็นการให้ข้อมูลแบบผิดๆ ของ ออซแดก จึงเป็นเหมือนการจงใจสร้างความเกลียดชังต่อคู่แข่ง และเป็นการกระทำที่ไม่มีน้ำใจนักกีฬาอย่างชัดเจน 

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ชาวโซเชียลทั้งหลาย ควรเสพสื่ออย่างมีสติ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้มีอคติทางเพศเช่นนี้ และไม่ว่า จันทร์แจ่มจะเข้าชิงชนะเลิศหรือไม่ ชาวเน็ตชาวไทย ก็ต้องยอมรับในคำตัดสิน 

เพราะไม่อย่างนั้น เราเองก็จะไม่ต่างจากนักการเมืองชาวตุรกีคนนี้