กุญแจความสำเร็จ เอเลียด คิปโชเก้ : ตอนเด็กต้องวิ่งโดยไม่รู้ว่านั่นคือการวิ่ง

เอเลียด คิปโชเก ยอดนักวิ่งชาวเคนยา เดินทางถึงไทยเป็นที่เรียบร้อย เพื่อร่วมการแข่งขัน Amazing Thailand Marathon Bangkok ในฐานะทูตด้านการท่องเที่ยว กีฬา และวัฒนธรรม

แน่นอนว่าด้วยดีกรีที่ไม่ธรรมดา ทั้งการคว้าแชมป์มาราธอนระดับเมเจอร์หลายรายการ รวมถึงเหรียญทองโอลิมปิกอีก 2 สมัย น่าจะช่วยดึงดูดให้ผู้คนมาร่วมงานนี้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี เบื้องหลังการเป็นนักวิ่งที่ประสบความสำเร็จของ คิปโชเก้ อันที่จริงส่วนหนึ่งก็มาจากชีวิตในวัยเด็กของเขา ที่เขาต้องวิ่ง โดยไม่รู้ว่านั่นคือการซ้อมเป็นนักวิ่งอยู่

ติดตามเรื่องราวของเขาไปพร้อมกัน

เอเลียด คิปโชเก้ ถือเป็นยอดนักวิ่งแห่งยุค เขาสร้างชื่อจากรายการวิ่ง 5,000 เมตร ชิงแชมป์โลก ในปี 2003 ด้วยการเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 แถมยังเอาชนะ ฮิชาม เอล เกอรูจ เจ้าของเหรียญเงินวิ่ง 1,500 เมตร โอลิมปิก 2000

หลังจากนั้น เขาก็เริ่มแผ้วถางเส้นทางของตัวเองในการวิ่งระยะไกล ไล่ตั้งแต่เหรียญทองแดง วิ่ง 5,000 เมตรในโอลิมปิก 2004 ที่กรีซ, อันดับ 2 วิ่ง 5,000 เมตรชิงแชมป์โลกที่โอซากา ญี่ปุ่น ไปจนถึงเหรียญเงินวิ่ง 5,000 เมตร ในโอลิมปิกที่จีนในปี 2008

ในปี 2012 คิปโชเก้ ก็เพิ่มระยะของตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนมาวิ่งมาราธอน และเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่รายการแรกที่ลงแข่ง ด้วยการคว้าแชมป์ ฮัมบูร์ก มาราธอน ในปี 2013 พร้อมทำลายสถิติของรายการ

คิปโชเก้ ใช้เวลาไม่นาน ก็กลายเป็นขาประจำบนโพเดียมของการแข่งขันวิ่งมาราธอน ระดับเมเจอร์ โดยเริ่มจากการคว้าแชมป์ ชิคาโก มาราธอน ในปี 2014 ตามมาด้วยการคว้าแชมป์เบอร์ลิน มาราธอน ในปี 2015 และเข้าป้ายเป็นที่ 1 ในรายการนี้อีก 4 สมัย (2017, 2018, 2022, 2023)

เขายังเป็นเจ้าของแชมป์ ลอนดอน มาราธอน อีก 4 สมัย (2015, 2016, 2018, 2019) และโตเกียว มาราธอน อีก 1 ครั้งในปี 2023

แต่สิ่งที่ทำให้ คิปโชเก้ ก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดคือการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก วิ่งมาราธอนในปี 2016 ที่บราซิล แถมยังสามารถป้องกันแชมป์ได้ใน โตเกียว โอลิมปิก 2020 ในปี 2021 (ที่เลื่อนจัดออกมาเพราะโควิด)

นอกจากนี้ ย้อนกลับไปในปี 2019 คิปโชเก้ ยังสร้างสถิติเป็นนักวิ่งคนแรกของโลก ที่วิ่งมาราธอนได้ในระยะเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง หลังเข้าเส้นชัยในรายการ Ineos 1:59 Challenge ที่เวียนนา ด้วยเวลา 1:59:40.2 แม้ว่าสถิติดังกล่าวจะไม่ถูกนับเป็นสถิติโลก เนื่องจากไม่ได้เป็นการแข่งขันทั่วไปก็ตาม

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้ คิปโชเก้ กลายเป็นนักวิ่งที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะชีวิตในวัยเด็กของเขา ที่ต้องวิ่งโดยไม่รู้ว่ากำลังซ้อมวิ่งอยู่

เนื่องจาก คิปโชเก้ เกิดมาในครอบครัวชาวนาที่ยากจนในเมืองแคปซิซิวา ประเทศเคนยา ทำให้การวิ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องทำมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะนั่นคือการเดินทางวิธีเดียวที่เขามี

คิปโชเก้ ในวัยเด็ก ต้องตื่นแต่เช้าตรู่ และวิ่งไปโรงเรียนในระยะทางมากถึง 3.2 กิโลเมตร ทุกวัน ก่อนที่มันจะเป็นความเคยชิน รู้ตัวอีกทีเขาก็ได้ความสามารถนี้ติดตัวมาแล้ว

“คุณไม่รู้หรอกว่าคุณกำลังวิ่งอยู่ เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องทำ” คิปโชเก้ กล่าวกับ BBC

และเขาก็ใช้ความสามารถนี้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการซ้อม ซ้อม และซ้อม จนเปลี่ยนตัวเองจากเด็กหนุ่มผู้ยากจน มาเป็นนักวิ่งระดับโลกเหมือนในปัจจุบัน

สำหรับใครที่อยากกระทบไหล่ คิปโชเก้ หรืออยากเห็นตัวนักวิ่งรายนี้แบบตัวเป็นๆ สามารถร่วมชมการแข่งขัน Amazing Thailand Marathon Bangkok ที่จะมีขึ้นในอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

รายละเอียดเพิ่มเติม : www.amazingthailandmarathon2024.com