ไฮสปีด พาราฮีโร กันดีน : ซูเปอร์ฮีโรบนวีลแชร์ที่ทำให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็เท่ได้

ญี่ปุ่น ถือเป็นชาติที่โดดเด่นในการสร้างหนังแปลงร่าง หรือที่เรียกกันว่า โทคุซัตสึ (Tokusatsu) ที่มีให้เลือกชมอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแนว ซูเปอร์ เซนไต (ขบวนการ 5 สี), ไรเดอร์ (ไอ้มดแดง) ไปจนถึง อุลตร้าแมน

ทั้งนี้ แม้ว่าจะถูกเรียกว่าหนังแปลงร่าง แต่ต้นกำเนิดของมันกลับมาจากหนังแนวสัตว์ประหลาดอย่าง “ก็อตซิลา” ที่ออกฉายในปี 1954 เนื่องจากที่จริงแล้วคำว่า โทคุซัตสึ (特殊撮影)มีความหมายว่าการถ่ายทำด้วยเทคนิคพิเศษ ซึ่งเป็นจุดเด่นของหนังแนวนี้

โทคุซัตสึ จึงเป็นซีรีส์ที่อยู่ในวงการบันเทิงญี่ปุ่นมาตลอด โดยแต่ละปีก็มีภาคใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับไอเดียสุดล้ำ และความแปลกใหม่ เพื่อดึงดูดผู้ชมให้ได้ติดตามกัน

ทว่าไม่มีครั้งไหนที่จะพิเศษไปกว่าปี 2021 กับ โจโซะคุ พาราฮีโร กันดีน หรือ High Speed Parahero Gandine เพราะนี่คือฮีโรคนแรกในประวัติศาสตร์ของซีรีย์โทคุซัตสึ ที่ตัวเอกอยูบนวีลแชร์

สำหรับ ไฮสปีด พาราฮีโร กันดีน คือมินิซีรีส์ ที่ฉายทางช่องสถานีโทรทัศน์แห่งชาติญี่ปุ่น หรือ NHK โดยเป็นเรื่องราวของ ไดชิ โมริมิยะ เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่เดินไม่ได้ จากอุบัติเหตุในวัยเด็ก แต่มีความฝันที่จะเป็นนักกรีฑาระดับท็อป ในประเภทวีลแชร์เรซซิ่ง 1,500 เมตร คลาส T54 จึงฝึกฝนตัวเองเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น

ทว่าวันหนึ่งระหว่างฝึกซ้อม เขาได้ไปเจอกับ กู มนุษย์ต่างดาวที่หนีจากการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ในดาวบ้านเกิด ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นาน สัตว์ประหลาด จะตามมาเจอที่โลก และเมืองที่ไดชิ อาศัยอยู่

ทำให้ กู ตัดสินใจมอบพลังพิเศษให้ ไดชิ และทำให้เขาสามารถใช้ “ความมุ่งมั่น” ของตัวเองแปลงร่างเป็น “กันดีน” ฮีโรบนวีลแชร์สุดเท่ ที่มาพร้อมกับพาหนะอย่าง Hyperwheel เพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจากต่างดาว

นี่จึงเป็น โทคุซัตสึ เรื่องแรก ที่นำเสนอในธีมของ พาราสปอร์ต หรือ กีฬาคนพิการ ด้วยเป้าหมายในการเป็นกำลังใจให้แก่นักกีฬาในพาราลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ตลอดจนผู้พิการทางสังคม

“ผมคิดว่ามันเป็นละครที่คนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่ สามารถสนุกไปกับมันได้” โซ โอคุโนะ ผู้รับบทไดชิกล่าวกับ NHK

“คนที่ชอบเทคนิคพิเศษก็จะสนุกกับส่วนเรื่องราว ส่วนคนที่ชอบความดราม่าก็จะโดนใจกับเรื่องกีฬาคนพิการ”

นอกจากนี้ กันดีน ยังมุ่งเน้นในการพยายามทำความเข้าใจในความแตกต่างทั้งเชื้อชาติ สีผิว หรือเผ่าพันธ์ ด้วยการนำเสนอตัวร้ายที่มีแนวคิดอยากกำจัดเผ่าพันธ์ทุกเผ่าที่ไม่ใช่เผ่าตัวเอง

ทำให้มันประสบความสำเร็จอย่างงดงามในวันที่ออกฉายตอนแรก ด้วยเสียงตอบรับในแง่บวกจากผู้ชมญี่ปุ่น จนทำให้แฮชแท็ก #ガンディーン (#Gandine) ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของโลก ในช่วงเวลานั้น

ขณะที่หลังฉายจบ กันดีน ยังถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก ถึงความยอดเยี่ยมในการผสมผสานระหว่างหนังแปลงร่างกับประเด็นผู้พิการในสังคมได้อย่างกลมกลืน และได้คะแนนเฉลี่ยจากเว็บไซต์ MyDramaList ที่ 7.6 คะแนน ซึ่งถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

นี่ถือเป็นจุดแข็งของผู้สร้างหนังญี่ปุ่น กับการสามารถนำประเด็นหนักๆ หรือหัวข้อที่ไม่แมส มาทำให้เป็นจุดสนใจในวงกว้าง และสามารถเข้าถึงได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย

และทำให้ “กันดีน” กลายเป็นฮีโร ที่ยืนเคียงข้างกับซีรีส์โทคุซัตสึเรื่องอื่นได้อย่างไม่เคอะเขิน ในฐานะภาพสะท้อนว่า “ไม่ว่าใครก็สามารถเท่ได้”