อิมาน เคลิฟ : เมื่อคนทั้งโลกหาว่าเธอเป็นนักมวยแปลงเพศ?

Maruak Tanniyom

August 02, 2024 · 1 min read

อิมาน เคลิฟ : เมื่อคนทั้งโลกหาว่าเธอเป็นนักมวยแปลงเพศ?
กีฬาอื่น ๆ | August 02, 2024

กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั้งโลก สำหรับกรณีของ อิมาน เคลิฟ นักมวยทีมชาติแอลจีเรีย ที่เคยถูกแบนจากสหพันธ์มวยสมัครเล่นนานาชาติ หรือ “ไอบ้า” หลังตรวจเพศไม่ผ่าน แต่กลับได้เข้ามาเล่นในโอลิมปิก

และล่าสุด เคลิฟ ก็เพิ่งจะเอาชนะ แองเจลา คารินี นักชกจากอิตาลี ภายในเวลาเพียงแค่ 46 วินาที จนทำให้เกิดคำถามต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้นักมวยรูปร่างคล้ายชายคนนี้มาลงแข่งชิงเหรียญได้

ก่อนที่มันจะบานปลายไปจนถึงขั้นว่า ไอโอซี ถูกโจมตีว่าปล่อยให้นักกีฬาทรานส์ หรือนักกีฬาแปลงเพศ เข้ามาแข่งขันในโอลิมปิกได้แล้ว

อย่างไรก็ดี ความจริงมันอาจจะซับซ้อนกว่านั้น ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน

สำหรับ อิมาน เคลิฟ แม้ว่าเธอจะรูปร่างกำยำเหมือนชาย แต่ตามข้อเท็จจริงคือเธอถือกำเนิดขึ้นมาในฐานะ “ผู้หญิง” ตามที่ระบุไว้ในหนังสือเดินทาง และใช้ชีวิตในฐานะเพศหญิงมาตลอดชีวิต

อันที่จริงเธอเล่นฟุตบอลมาก่อน แล้วเปลี่ยนมาชกมวยตอนวัยรุ่น ท่ามกลางเสียงทัดทานของพ่อ แต่เธอก็พิสูจน์ตัวเอง จนติดทีมชาติแอลจีเรีย และได้ไปแข่งขันชิงแชมป์โลก ในปี 2018 ที่นิวเดลี ด้วยวัยเพียง 19 ปี

นอกจากนี้เมื่อ 3 ปีก่อน เคลิฟ ก็ได้เข้าร่วมในโอลิมปิก ที่โตเกียว ในรุ่นไลท์เวท ก่อนจะตกรอบ 8 คนสุดท้าย หลังพ่ายให้กับ เคลลี แฮร์ริงตัน นกชกสาวจากไอร์แลนด์

อย่างไรก็ดี ในปี 2023 เธอก็กลายเป็นประเด็น เมื่อ เคลิฟ ไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจเพศจาก สหพันธ์มวยสมัครเล่นนานาชาติ หรือ ไอบ้า ร่วมกับ หลิน ยู่ ถิง นักมวยจากไต้หวัน เนื่องจากเธอมีโครโมโซมแบบ XY และทำให้ถูกตัดสิทธิ์ ลงแข่งในการแข่งขันชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2023

ตามปกติแล้ว มนุษย์เราจะมีโครโมโซม 23 คู่ และจะมีคู่หนึ่งเอาไว้ระบุเพศ ซึ่งถ้าหากเป็น XX จะหมายความว่าเป็นเพศหญิง แต่ถ้า XY จะหมายความว่าเป็นเพศชาย แต่สำหรับผู้หญิงบางคน ก็อาจมีกรณีที่พวกเธอมีโครโมโซมแบบ XY อยู่ในตัว เหมือนกับ เคลิฟ และ ยู่ ถิง เป็นต้น

ทว่า เนื่องจากในโอลิมปิกที่ปารีส ไอโอซี ยึดสิทธิ์ผู้จัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นมาจากไอบ้า จากปัญหาเรื่องความโปร่งใส ทำให้ เคลิฟ และ ยู่ ถิง ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมชิงเหรียญที่ปารีสอีกครั้ง

“การทดสอบและการตัดสินใจของไอบ้า กระทันหันและไร้เหตุผล” แถลงการณ์จากไอโอซี

“การกระทำที่ก้าวร้าวต่อนักกีฬาทั้งสองคนนี้มีพื้นฐานมาจากการตัดสินที่ไม่สมเหตุสมผล ที่ไม่มีขั้นตอนที่เหมาะสม โดยเฉพาะการพิจารณาว่าทั้งคู่ลงแข่งขันในระดับสูงมาหลายปีแล้ว”

เคลิฟในวัยเด็ก

นอกจากนี้ หากอ้างอิงจากหลัก 10 ประการของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ยังยืนยันว่านักกีฬาที่ผ่านการแปลงเพศ สามารถเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกได้ เพียงแค่กระบวนการแปลงเพศ ต้องเกิดขึ้นก่อนอายุ 12 ปีเท่านั้น แต่ก็ยังเปิดช่องให้องค์กรของแต่ละกีฬาสามารถกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าแข่งขันเองได้

ทั้งนี้ ในอดีตก็เคยมีนักกีฬาข้ามเพศ เข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกมาแล้ว ซึ่งก็คือ ลอเรล ฮับบาร์ด นักยกน้ำหนักทีมชาตินิวซีแลนด์ ที่ลงแข่งในประเภทหญิง 87 กิโลกรัมขึ้นไป ในโตเกียว โอลิมปิก 2020 แต่ก็ไม่ได้ไปถึงขั้นคว้าเหรียญแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี สำหรับประเด็นของ เคลิฟ อาจจะต่างออกไป เพราะเธอไม่ใช่นักกีฬาแปลงเพศ แต่เป็นผู้หญิงโดยกำเนิด ที่มีโครโมโซม XY อยู่ในตัวเท่านั้น ทำให้ เคลิฟ มีสิทธิ์ลงชิงชัยในปารีสโอลิมปิก อย่างถูกต้องทุกประการ

“นักมวยทั้งสองมีสิทธิ์ลงแข่งอย่างแน่นอน ในหนังสือเดินทางระบุว่าพวกเธอเป็นผู้หญิง พวกเธอคือผู้หญิงที่เคยแข่งขันในโอลิมปิกที่โตเกียว และลงแข่งมาหลายปีแล้ว”มาร์ค อดัมส์ โฆษกของ ไอโอซี ระบุ

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้บางส่วนมองว่านี่เป็นการล่าแม่มด เพราะตอนที่ เคลิฟ ลงแข่งในโอลิมปิก แต่แพ้ก็ไม่ได้เป็นข่าวมากมายอะไร แต่ตอนนี้กลับเป็นประเด็นร้อน เพราะเธอเอาชนะคู่แข่งแบบขาดลอยมากกว่า

ขณะที่ เอมี บอร์ดเฮิร์สท์ ที่เคยต่อยกับ เคลิฟ และเอาชนะมาได้เมื่อปี 2022 ก็เป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่า นักมวยจากแอลจีเรีย ไม่ได้ทำอะไรผิดจากเหตุการณ์นี้

“โดยส่วนตัวแล้ว ฉันไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรที่เป็นการ ‘โกง’ ฉันคิดว่าการที่เธอเกิดมาแบบนั้นต่างหากคือสิ่งที่ควบคุมไม่ได้” บอร์ดเฮิร์สท์ให้ความเห็น

“ข้อเท็จจริงก็คือเธอเคยถูกผู้หญิงเอาชนะมาแล้ว 9 คน สามารถบ่งบอกได้ทุกอย่าง”

แน่นอนว่าการตั้งคำถามต่อความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องเกิดขึ้นอย่างไร้อคติ เพราะไม่อย่างนั้น บางทีมันอาจจะไปลดทอนคุณค่าของสิ่งนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจได้