เมโระ อิมาอิ : นักสโนว์บอร์ดโอลิมปิกกับชีวิตสุดโลดโผนจนเคยไปเล่น AV

นี่คือเรื่องราวอันแสนเศร้าของนักสโนว์บอร์ดความหวังเหรียญทองโอลิมปิกของญี่ปุ่น กับชีวิตที่โลดโผนจนครั้งหนึ่งต้องไปเล่นหนังผู้ใหญ่ หรือที่รู้จักกันว่า AV

เมโระ อิมาอิ คือเธอคนนั้น ติดตามไปพร้อมกัน

เมโระ อิมาอิ หรือ ชื่อเดิม เมโระ นาริตะ อายุเพียง 18 ปี ตอนเข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาว ที่ตูริน อิตาลี เมื่อปี 2006

ตอนนั้นเธอเป็นความหวังที่จะคว้าเหรียญทองของทีมชาติญี่ปุ่น หลังทำผลงานโดดเด่นมาตั้งแต่สมัยเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ระดับประเทศในรุ่น รุ่นฮาล์ฟไปป์ ตอนอายุเพียง 14 ปี และก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์เยาวชนโลกในปี 2002

ในปี 2003 เมโระ สร้างปรากฏการณ์ด้วยการคว้าแชมป์ของสมาพันธ์สกีโลก ก่อนจะทำได้อีก 2 ครั้งที่ทำให้เธอเป็นแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน แถมในปีเดียวกัน นักสโนว์บอร์ดคนนี้ ยังก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์โลกอีก 1 ครั้ง

อย่างไรก็ดี มันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะแค่เพียงการแข่งขันในรอบแรก เมโระ ก็มาเกิดอุบัติเหตุกระแทกเข้ากับขอบของฮาล์ฟไปป์อย่างแรงจนหมดสติ และทำให้เธอต้องออกจากการแข่งขัน และจบในอันดับสุดท้ายของตารางคะแนน

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่สำหรับแฟนกีฬาในญี่ปุ่นกลับไม่ปราณีเธอเลย พวกเขาโจมตี เมโระ และด่าทออย่างเสียหาย จนถึงขั้นบอกว่า นี่คือ “ความอับอายของญี่ปุ่น”

“สำหรับนักกีฬาทั่วไป โอลิมปิกคือจุดสูงสุดของอาชีพ แต่สำหรับฉันมันคือฝันร้าย” เมโระกล่าวกับ Tokyo Weekender

“ฉันไม่ได้หมายความแค่เพราะฉันได้รับบาดเจ็บ และล้มเหลว แต่ประสบการณ์ทั้งหมดช่างเลวร้าย มันนำไปสู่การกลัวความล้มเหลวในการแข่งขัน มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนหายใจไม่ออก และมันก็เป็นแบบนั้นซ้ำ ๆ ตลอดอาชีพของฉัน”

แต่นั่นก็ไม่เท่ากับการถูกกลั่นแกล้งในหมู่นักกีฬาสโนว์บอร์ดเอง ที่นอกจากจะไม่ให้กำลังใจแล้ว ยังซ้ำเติมด้วยการเอา “เมโระ” ชื่อของเธอ ไปใช้เรียกแทนกริยาการชนอย่าง “เมโระชิตะ”

มันทำให้จิตใจที่บอบช้ำอยู่แล้วของ เมโระ แทบแตกสลาย สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอตัดสินใจหันหลังแก่วงการนี้ แต่ที่ซ้ำร้ายคือมันทำให้ เธอไม่กล้าเจอหน้าผู้คนและกลายเป็นคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน (ฮิคิโคโมริ) และไม่ออกไปข้างนอกเลยกว่า 6 เดือน

อย่างไรก็ดี เมโระ ก็ไม่ได้ยอมแพ้ เธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง ด้วยการไปทำงานเป็นเด็กนั่งดริงค์ในบาร์ ซึ่งอันที่จริงสำหรับอาชีพถ้าทำดีๆ จนเป็นตัวท็อปอาจจะมีรายได้สูงถึง 4 ล้านเยนต่อเดือน (ราว 8.9 แสนบาท)

และที่แห่งนี้ก็กลายเป็นช่องทางที่ทำให้ เมโระ ก้าวข้ามไปยังเส้นทางสีเทา เพราะแม้ว่าเธอจะมีรายได้ที่สูง แต่การใช้เงินอย่างไม่ยั้งคิด ก็ทำให้สุดท้ายเงินก็ขาดมือ จนต้องหันเหเข้าสู่การขายบริการทางเพศ

เมโระ เริ่มจากเป็นนางโทรศัพท์ หรือ Call Girl โดยมีข้อมูลว่าเธอมีค่าตัวสูงถึง 150,000 เยน (ราว 33,000 บาท ต่อการเรียกหนึ่งครั้ง ก่อนจะขยับไปเป็นนางแบบกราเวียร์ (นางแบบเซ็กซี่) และออก DVD รวมภาพโป๊เปลือยในชื่อ Mellow (メロウ)

และหลังจากการเป็นนางแบบเซ็กซี่พักใหญ่ เมโระ ก็ก้าวข้ามไปเล่นหนังผู้ใหญ่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ AV ด้วยการเปิดตัวกับค่าย Muteki ค่ายที่ขึ้นชื่อในการเอาบุคคลที่มีชื่อเสียงมาแสดงหนังของพวกเขา รวมไปถึง ยูอะ มิคามิ อดีต SKE48 ที่เพิ่งประกาศรีไทร์ ไปเมื่อไม่นานนี้

 

เมโระ ยอมรับว่า การเติบโตขึ้นมาจากความเข้มงวดของพ่อคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอมาถึงจุดนี้ เนื่องจากอันที่จริงแล้ว ทาคาชิ นาริตะ พ่อของเธอ ก็เป็นนักวอลเลย์บอล ที่เคยผ่านเข้าไปเล่นในโอลิมปิก 1992 ที่บาร์เซโลนามาก่อน

“ฉันต้องตัดผมสั้น และสวมแต่กางเกงวอร์มอยู่เสมอ” เมโระ ที่เปลี่ยนนามสกุลจาก นาริตะ มาเป็น อิมาอิ ของแม่กล่าว Tokyo Weekender

“ฉันไม่ค่อยมีโอกาสเหมือนผู้หญิงคนอื่น ที่ได้แต่งหน้า ไปคาราโอเกะ หรือช็อปปิ้งกับเพื่อน ๆ ฉันอิจฉาคนในวัยเดียวกันกับฉันที่มีอิสระในการทำอะไรที่วัยรุ่นส่วนใหญ่เขาทำกัน มันไม่ใช่ทางเลือกสำหรับฉัน เพราะฉันรู้สึกว่าไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อได้”

แต่สิ่งที่ทำให้ เมโระ ดำดิ่งไปจนสุดทางก็คือมรสุมของชีวิตที่ต้องเผชิญหลังเลิกเล่นสโนว์บอร์ด ไม่ว่าจะเป็นการถูกข่มขืนตอนอายุ 17 และเคยทำแท้ง, ปัญหาชีวิตคู่จนต้องหย่ากับสามี ไปจนถึงเคยพยายามจะฆ่าตัวตาย

“ฉันเคยถูกข่มขืนและมีลูกตอนอายุ 17 มันจึงดูเหมือนชีวิตฉันจะยุ่งเหยิงหลังจากนั้น” เมโระ ย้อนความหลัง

อย่างไรก็ดี เมโระ ก็ไม่ยอมให้ชีวิตของเธอต้องพังไปอย่างนี้ ในปี 2018 เธอตัดสินใจหวนคืนสู่วงการสโนว์บอร์ดอีกครั้ง ด้วยการลงแข่งในสโนว์บอร์ดชิงแชมป์ญี่ปุ่น ก่อนจะทำผลงานได้อย่างเซอร์ไพร์ส ด้วยการคว้าแชมป์ในรุ่นฮาล์ฟไปป์ ทั้งที่ใช้เวลาซ้อมเพียงแค่ 4 วัน

หลังจากนั้น เธอตัดสินใจเลิกแสดง AV และรับงานถ่ายแบบโป๊เปลือย โดยมีเป้าหมายในการติดทีมชาติไปแข่งโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนในปี 2022 น่าเสียดายที่คณะโอลิมปิกญี่ปุ่น ไม่อนุญาติให้ เมโระ เข้าคัดตัวเนื่องจากเป็นห่วงภาพลักษณ์

แต่ เมโระ ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และพยายามหาช่องทางเลี้ยงชีพต่อไป โดยตอนนี้เธอกำลังทำธุรกิจเปิดร้านอาหารเล็กๆ ในโอซาก้า บ้านเกิด

เธอมักจะอัพเดทชีวิตส่วนตัวผ่านช่องโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ สำหรับใครที่สนใจสามารถไปติดตามเธอได้ตามช่องทางด้านล่างนี้

Instagram: @mero_imai

Twitter: @mero1026imai