โนอาห์ ไลล์ส จากเด็กหอบหืดสู่เหรียญทองวิ่ง 100 เมตรชายโอลิมปิก

Pipat Sathirawut

August 05, 2024 · 2 min read

โนอาห์ ไลล์ส จากเด็กหอบหืดสู่เหรียญทองวิ่ง 100 เมตรชายโอลิมปิก
กีฬาอื่น ๆ | August 05, 2024

หลังจากที่ โนอาห์ ไลล์ส ลมกรดหนุ่มจากสหรัฐอเมริกาสามารถประกาศศักดาว่าเป็นชายที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ด้วยการคว้าเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรชายโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้ที่สนาม สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยทำเวลาได้ 9.784 วินาที เฉือนชนะลมกรดจากจาเมกาอย่าง คิเชน ธอมป์สัน ที่ทำเวลาได้ 9.789 วินาที ทำให้ชื่อของ ไลล์ส กลายเป็นนักกีฬาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา

 

ไลล์สซึ่งคว้าเหรียญทองได้ถึง 3 เหรียญในศึกกรีฑาชิงแชมป์โลกที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ได้ในปี 2023 สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในอาชีพนักวิ่งของตัวเอง หลังจากที่ในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว เขาเคยคว้าเหรียญทองแดงวิ่ง 200 เมตรชายมาก่อน และการเฉือนชนะ คิเชน ธอมป์สัน จากจาเมกาได้หวุดหวิดเมื่อคืนวันอาทิตย์ ชนิดที่ต้องมาตัดสินกันด้วยภาพถ่าย ทำให้เขาคือนักวิ่งชาวอเมริกันคนแรกในรอบ 20 ปีที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาครองได้สำเร็จ ต่อจาก จัสติน แก็ตลิน ที่เคยได้เหรียญทองวิ่ง 100 เมตรชายในศึกเอเธนส์เกมส์ เมื่อปี 2004 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะกลายเป็นนักวิ่งที่เก่งที่สุดของโลกแห่งยุคนี้ ชีวิตของไลล์สไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเขาต้องต่อสู้กับโรคต่างๆ มากมายมาตั้งแต่เด็ก

โดยหลังจากที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ที่กรุงปารีส โนอาห์ ไลล์ส ได้ทวีตข้อความลงบน X หรือทวิตเตอร์ของตัวเองว่า “ผมเป็นโรคหอบหืด, ภูมิแพ้, อ่านเขียนไม่ออก, สมาธิสั้น, วิตกกังวล และซึมเศร้า แต่ผมจะบอกคุณไว้นะว่าสิ่งที่คุณมีไม่ได้เป็นตัวกำหนดในสิ่งที่คุณสามารถเป็นได้ ทำไมคุณจะทำไม่ได้ล่ะ!”

 

ชีวิตวัยเด็กที่แค่หายใจยังยาก

ก่อนจะกลายเป็นนักวิ่งแข่งที่เร็วที่สุดในโลก ณ ปี 2024 ย้อนไปในตอนที่ โนอาห์ ไลล์ส อายุแค่ 3 ขวบ เขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเลยด้วยซ้ำ

ในวัยเด็ก ไลลส์เป็นโรคทางเดินหายใจอักเสบ ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลต่อทางเดินหายใจในปอด ทำให้หายใจลำบาก เขาแพ้สารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย และเขาเข้าร่วมศึกปารีสเกมส์ครั้งนี้ โดยที่สมาคมปอดแห่งสหรัฐอเมริกาได้ระบุไว้ว่าเขาคือนักกีฬาที่มีประวัติเป็นโรคทางเดินหายใจ

ด้วยสุขภาพวัยเด็กที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ โนอาห์ ไลล์ส ไม่สามารถไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้ด้วยซ้ำ ซึ่งในปี 2020 เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อดังอย่างซีเอ็นเอ็นเอาไว้ถึงความลำบากในวัยเด็ก

“แน่นอนว่าโรคหอบหืดส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งที่ผมทำ ทั้งในแง่ของสุขภาพ, การออกกำลังกาย หรือบางครั้งก็ส่งผลแม้กระทั่งด้านอารมณ์ เพราะหากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าในทางอารมณ์ ระบบภูมิคุ้มกันของคุณก็จะทำงานแย่ลงด้วย”

 

เกิดมาในครอบครัวนักกีฬา

แม้ว่า โนอาห์ ไลล์ส จะมีปัญหาสุขภาพเรื่องทางเดินหายใจตั้งแต่เด็ก แต่เขามีดีเอ็นเอสุดยอดนักกรีฑาอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม คุณพ่อของเขาคือ เควิน ไลล์ส ซึ่งเป็นอดีตนักวิ่งผลัด 4×400 เมตรทีมชาติสหรัฐอเมริกา ดีกรีแชมป์โลกในปี 1995 ขณะที่คุณแม่อย่าง เคอิชา เคน บิช็อป ก็เป็นอดีตนักกรีฑาด้วยเช่นกัน

 

เคอิชา เคน บิช็อป (ซ้าย) คุณแม่ผู้สร้าง โนอาห์ ไลล์ส จากเด็กที่เป็นโรคทางเดินหายใจ ให้โตมาเป็นสุดยอดนักวิ่งระดับโลก

 

สุดยอดคุณแม่ที่ทำทุกอย่างให้ลูกแข็งแรง

เคอิชา เคน บิช็อป คุณแม่บังเกิดเกล้าของ โนอาห์ ไลล์ส เคยบอกเล่าผ่านสื่อกีฬาระดับโลกอย่างอีเอสพีเอ็นด้วยเช่นกัน เธอพูดถึงชีวิตวัยเด็กของลูกชายที่โตมาเป็นนักวิ่งระดับโลกว่า “เขาไม่สามารถกินอะไรได้โดยไม่ไอ เขาเล่นอะไรไม่ได้เลย แล้วคุณภาพชีวิตเขาก็ย่ำแย่”

แพทย์บอกเธอว่าลูกชายของเธอเป็นโรคทางเดินหายใจอักเสบ โดยสารที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง เช่นฝุ่น หรือละอองเกสรดอกไม้ อาจทำให้เกิดอาการไอได้ง่าย และแม้กระทั่งการหายใจ ก็อาจมีเสียงหวีดรุนแรงมาก จนเคอิชาต้องรีบพาลูกชายไปห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล ซึ่งอาการไออย่างรุนแรงนี้เอง ที่นำไปสู่การติดเชื้อที่หู และส่งผลต่อการเป็นเด็กที่มีความสามารถในการเรียนรู้ไม่สมบูรณ์ และสมาธิสั้น

แต่เคอิชาไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เธอพยายามพาโนอาห์ไปพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโนอาห์ต้องพึ่งยาพ่นเพื่อช่วยในเรื่องงการหายใจ นอกจากนั้นแล้วยังพยายามกำจัดสาเหตุของการเกิดฝุ่นที่บ้านทั้งหมดออก เธอโยนตุ๊กตาทั้งหมดที่มีทิ้งไป ถอดผ้าม่านและพรมในบ้านทิ้งทั้งหมด และยังซื้อเครื่องฟอกอากาศและให้ช่างมาทำความสะอาดระบบปรับอากาศในบ้านอยู่เรื่อยๆ

ส่วนในด้านอาหารการกินของลูกชาย เคอิชาได้เปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์จากนมเป็นเน้นพวกพืชผักใบเขียว เธอคั้นน้ำแครอท บีทรูท และผักชีฝรั่งให้โนอาห์ดื่มเป็นประจำ จนเมื่อลูกชายของเธอเติบโตมาอย่างแข็งแรงขึ้น ก็เข้ารับการผ่าตัดในตอนอายุ 7 ขวบ โดยแพทย์ได้ผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลซึ่งอยู่ในคอ และต่อมอะดีนอยด์ ซึ่งเป็นต่อมน้ำเหลืองที่อยู่หลังโพรงจมูกออก ทำให้คุณภาพการหายใจดีขึ้น จน โนอาห์ ไลล์ส สามารถวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ได้ และเริ่มสนุกกับการเล่นกีฬา

 

โด๊ปอย่างถูกต้อง ตัวช่วยสร้างความแข็งแรง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาการโรคหอบหืดของไลล์สจะดีขึ้นเมื่อเขาอายุมากขึ้น แต่โรคประจำตัวนี้ก็ยังสร้างความลำบากให้เขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการแข่งขัน

ในช่วงที่ โนอาห์ ไลล์ส ยังเรียนไฮสคูลปี 1 เขามักจะกลับบ้านด้วยความอ่อนล้าอย่างมากหลังจากการแข่งขันซ้อมวิ่ง ซึ่งทำให้เขามักขาดเรียนในวันจันทร์เพื่อฟื้นตัวจากการแข่งขันในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ไลลส์ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหานี้ เขาพยายามรับประทานวิตามินและอาหารเสริมเพื่อสร้างปอดให้แข็งแรงขึ้นอีก โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่บอกต่อผ่านคุณแม่ของเขามาอย่างต่อเนื่อง

อีเอสพีเอ็นรายงานว่า ในปี 2016 อาการหอบหืดของไลลส์นั้นลดลงไปเยอะมาก เนื่องมาจากอาหารเสริมและยาที่ได้รับการอนุมัติจากสมาคมกรีฑาของสหรัฐอเมริกา (USATF) และหลังจากนั้นมา เส้นทางการเป็นสุดยอดนักวิ่งของ โนอาห์ ไลล์ส ก็ยิ่งพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกในที่สุด

 

โดยในศึกโอลิมปิก 2024 โนอาห์ ไลล์ส ยังมีลุ้นคว้าเหรียญทองเพิ่มเติมในประเภทวิ่ง 200 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4X100 เมตรชายต่อด้วย