อดีตของ "น้ายุซุฟ" : "เหรียญนี้ให้ชาวตุรกี 85 ล้านคน ... ยกเว้นพวกที่มันขโมยปืนผมไป"

Chayuntorn Chaimool

August 03, 2024 · 1 min read

อดีตของ
กีฬาอื่น ๆ | August 03, 2024

ยูซุฟ ดิเคช ในวัย 51 ปี นักแม่นปืนจากตุรกี กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืนจากการแข่งขันยิงปืนด้วยท่าทางสุดชิลในรายการ โอลิมปิก 2024

เรารู้ว่าคุณพอจะรู้เรื่องเขาคร่าว ๆ แต่เรื่องในอดีตของเขาก็ใช่เล่น ที่ใครเคยแซวว่าเขาเคยเป็นสายลับมาก่อน … เราของบอกว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ?

ยูซุฟ ดิเคช เกิดปี 1973 สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่เขต Goksun โดยเป็นหนึ่งในนักเรียนนายสิบของโรคเรียนทหารที่ทางรัฐบาลตุรกีจัดไว้ให้ ซึ่งที่ใครบอกว่าเขาเคยมียศมีตำแหน่งในกองทัพ “นั่นคือเรื่องจริง”

ตัวของ ยูซิฟ เรียนจนจบหลักสูตร และมียศสิบโท ก่อนจะเรียนต่อด้านทหารและได้ยศสิบเอกในปี 1999 หลังจากนั้นก็ประจำการอยู่ที่กองทัพบกอิสตันบูล ซึ่งจากการยิงมือแม่นยำระดับตัวท็อปของรุ่น ของทัพจึงส่ง ยูซุฟ เข้าเป็นนักกีฬาประจำกองทัพ และลงแข่งขันในนามทีมชาติตุรกี เป็นครั้งแรกในปี 2000

โอลิมปิกครั้งนี้ถือเป็นโอลิมปิกครั้งที่ 5 ของ น้ายูซุฟ แล้ว ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเรื่องของพรสวรรค์มีจริงหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่เรื่องของความทุ่มเทนี่แหละที่เขาคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้

“ผมเพิ่งมาหัดยิงปืนเพื่อแข่งขันแบบกีฬาเมื่อตอนอายุ 28 ปีนี่เอง หลังจากนั้นผมฝึกทุกวัน วันละ 6 ชั่วโมง ทำแบบนี้ 6 วันต่อสัปดาห์ เพราะผมอยากจะเป็นตัวแทนของประเทศชาติ และทำให้เด็กรุ่นหลังเห็นว่าความมานะสามารถทำให้คุณกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ และเป็นตัวแทนของประเทศได้”

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าของการแข่งขันคัดตัวมาแข่งโอลิมปิกครั้งนี้เมื่อปีก่อน ผ่านรายการชิงแชมป์โลก ที่เจ้าตัวเกือบพลาด และไม่ได้มาปรากฎตัวจนเป็นไวรัลในเวลานี้ด้วย

ครั้งนั้น ยูซุฟ มีปัญหากับสโมสรที่เขาสังกัด และการแตกหักทำให้เขาโดนขโมยปืนก่อนการแข่งขันคัดตัวจะเริ่มขึ้น 4 วัน … ซึ่งเขาไม่มีเงินซื้อปืนใหม่ จนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนแข่งสหพันธ์ยิงปืนแห่งตุรกี ก็เบิกงบประมาณและซื้ออาวุธใหม่ให้กับเขา ซึ่งภายหลังเขาใช้ปืนกระบอกนี้สร้างชื่อเสียงด้วยการทำแต้มจนผ่านรอบคัดตัว และกลายเป็นนักแข่งเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 นี้

“ผมมอบความสำเร็จครั้งนี้ให้กับชาวตุรกีทั้ง 85 คน ยกเว้ยพวกที่มันขโมยปืนของไป และพวกที่ไม่เคยคิดจะช่วยอะไรผมเลย อย่างไรก็ตามความสำเร็จนี้มันทำให้เราดีใจและภูมิใจมาก”