Slap Fighting ที่มาของการแข่งขันตบหน้า จากสันทนาการ สู่ การกีฬา

Pakorn Jomjindarat

December 17, 2024 · 1 min read

Slap Fighting ที่มาของการแข่งขันตบหน้า จากสันทนาการ สู่ การกีฬา
กีฬาอื่น ๆ | December 17, 2024

การแข่งขันตบหน้า หรือ Slap Fighting จุดเริ่มต้นมาจาก งาน ‘Siberian Power Show’ ที่เมือง ครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นงานที่มีชื่อเสียงพอสมควร โดยภายในงานจะจัดประกวดร่างกาย และมีการประลองพละกำลัง เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แข่งกินจุ เพาะกาย หรือจะเป็นการแข่งยกน้ำหนัก

 

แต่ในปี 2019 ได้มีการแข่งขันที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่มาร่วมงาน นั่นคือ การประลองกำลังกัน โดยการตบหน้า ‘Male Slapping Championship’ ซึ่งเป็นการชิงแชมป์ตบหน้าชาย ถือเป็นไฮไลท์ของงานนี้เลยก็ว่าได้

 

การแข่งขันตบหน้า กติกาก็ง่าย ๆ เลย คือ คู่ต่อสู้ทั้ง 2 ฝ่าย ยืนประจันหน้ากัน ไร้ซึ่งอุปกรณ์การป้องกัน และผลัดกันตบไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย โดยฝ่ายที่ถูกตบทำได้เพียงยืนให้อีกฝ่ายตบ และต้องทรงตัวให้อยู่ ส่วนการตัดสินแพ้ชนะ ก็วัดกันที่ใครไม่ไหวก่อน ก็แพ้ไป

 

โดยผู้ชนะในการแข่งขันเมื่อปี 2019 ก็คือ ‘วาสิลี คามอตสกี’ ชาวนาจากไซบีเรีย ซึ่งเขาก็ไม่เคยรู้จักการแข่งขันชนิดนี้มาก่อน แต่ด้วยร่างกายที่กำยำแข็งแรง พรรคพวกของเขาก็ยุยง โน้มน้าวให้ลงแข่งขันในครั้งนี้ จนกลายเป็นสุดยอดนักตบชายแห่งปี พร้อมรับเงินรางวัล 30,000 รูเบิลรัสเซีย หรือราว 9,878 บาทไทย

 

หลังจากที่การแข่งขันนี้ได้กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์และได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย ในที่สุดปี 2022 คณะกรรมการกำกับการกีฬาของรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ลงมติเอกฉันท์อนุมัติให้จัดการแข่งขันตบหน้าชิงแชมป์ในลาสเวกัส แต่การแข่งขันในรัสเซีย ไม่ถูกจัดเป็นการแข่งขันแบบกีฬาแต่อย่างใด แค่ถูกจัดมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

 

แต่ในเมื่อมันถูกจัดขึ้นในรูปแบบกีฬาแล้ว จึงจำเป็นต้องยกระดับมาตราฐานของการแข่งขันขึ้น โดยให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมการแข่งขัน เช่นการใส่ฟันยาง ที่อุดหู และมีทีมแพทย์ อยู่ในสถานที่แข่งขันด้วย

 

แม้ในรัฐเนวาดา จะได้รับการอนุมัติให้จัดแข่งขัน และได้รับการยอมรับให้เป็นกีฬาที่อยู่ในระดับเดียวกันกับกีฬาต่อสู้ชนิดอื่น ๆ แต่ก็มีเสียงต่อต้านจากคนในแวดวงกีฬาต่อสู้มากมาย ว่า นี่ไม่ใช่การแข่งขันในรูปแบบของกีฬา และไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้ที่สวยงาม

 

และได้มีความเห็นของทาง แพทย์เวชศาสตร์การกีฬา อย่าง ดร. มิเชล เฮนน์ ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับ กีฬาตบหน้า ว่า “การถูกกระแทกที่บริเวณศีรษะอย่างรุนแรง อาจทำให้เลือดออกในสมองได้ และการตีเข้าไปที่ศีรษะซ้ำ ๆ จะทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของสมองเรื้อรัง และเกิดภาวะสมองเสื่อมได้”

 

แม้จะมีกระแสต่อต้านอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนในแวดวงกีฬา หรือทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่ออกความเห็นเกี่ยวกับกีฬาตบหน้านี้ แต่การแข่งขันตบหน้า ก็ยังมีอยู่ ที่น่าสนใจคือทิศทางของการแข่งขัน จะไปทางไหนต่อ จะสามารถบรรจุให้เป็นกีฬาได้หรือไม่ หรือจะเป็นเพียงการแข่งขันเพื่อความบันเทิง เท่านั้น