บาสเก็ตบอลซูดานใต้: เพิ่งก่อตั้งประเทศ เผชิญสงครามกลางเมือง แต่ได้เข้ามาเล่นโอลิมปิก

สำหรับบางคน มันอาจจะเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ กับการที่ประเทศที่เพิ่งได้รับเอกราชไม่ถึง 15 ปี แต่ได้ผ่านเข้ามาเล่นในโอลิมปิกรอบสุดท้าย

แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับทีมบาสเก็ตบอลของ ซูดานใต้ คู่ต่อกรของ “เต็ง 1” สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 31 ก.ค นี้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาจากความมุ่งมั่นและความพยายาม ที่จะทำให้ทีมบาสฯ และประเทศของพวกเขาไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้

ติดตามเรื่องราวของพวกเขาไปพร้อมกัน

แน่นอนว่าสงคราม ย่อมไม่เคยส่งผลดีต่อใคร โดยเฉพาะกับประชาชน เช่นกันสำหรับชาวซูดาน เมื่อสงครามกลางเมืองที่ก่อตัวมาตั้งแต่ปี 1955 ได้ทำให้คนที่นี่ต้องสังเวยชีวิตไปกว่า 3 ล้านคน และอีกเกือบ 10 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย

แม้ว่าในปี 1972 สงครามจะถึงคราวยุติ แต่ก็แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อมันกลับมาปะทุอีกครั้งในปี 1983 ที่ลากยาวมาจนถึงปี 2005 จนกระทั่งในปี 2011 ประเทศก็แตกออกเป็นสอง หลัง ซูดานใต้ ประกาศเอกราช จาก ซูดาน ได้สำเร็จ

นั่นจึงทำให้ ซูดานใต้ กลายเป็นประเทศน้องใหม่ของแอฟริกา แต่ความเป็นอยู่ของผู้คนก็ยังยากลำบาก เมื่อสงครามผลาญทรัพยากรของพวกเขาไปจนหมดสิ้น ขณะที่ความรุนแรงยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วดินแดนแห่งนี้ จนกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดของสหประชาชาติ

ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องพูดถึงบาสเก็ตบอล เพราะพวกเขาไม่มีทั้งอุปกรณ์ หรือโรงยิมเพื่อฝึกซ้อมในร่ม แถมเด็กส่วนใหญ่ก็ชื่นชอบในการเตะฟุตบอล กีฬายอดนิยมของทวีปแห่งนี้มากกว่า

“หลายคนที่เล่นฟุตบอล มีส่วนสูงบางทีอาจจะถึง 6 ฟุต 8 นิ้ว (203 เซนติเมตร) เพราะว่าพวกเขามีสนามให้เตะบอลได้ และมันไม่มีสนามบาสฯในระยะทางหลายไมล์” เวนเยน กาเบรียล นักบาสเก็ตบอลซูดานใต้กล่าว

“ตอนที่ผมกลับไปที่ซูดานใต้ ที่หมู่บ้านของผม ผมเห็นคนสูง 7 ฟุต (213 เซนติเมตร) กำลังเลี้ยงวัวอยู่”

แต่โชคดีที่พวกเขามีนักบาสฯ ฝีมือดี มาตั้งแต่ยังไม่ได้เอกราช โดยพวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้ลี้ภัยที่เติบโตในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น มานูต โบล ที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สูงที่สุดใน NBA ด้วยส่วนสูง 7 ฟุต 7 นิ้ว (231 เซนติเมตร) และเป็นที่รู้จักในฐานะตัวบล็อคระดับท็อปของลีก

หรือ ลูโอล เด็ง นักบาสเจ้าของตำแหน่งออลสตาร์ NBA 2 สมัย ที่เคยเล่นให้กับทีมดังอย่าง ชิคาโก บูลส์, ไมอามี ฮีท หรือ แอลเอ เลเกอร์ส ก็ต้องหนีตายจากภัยสงคราม มาอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็กๆ

สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นทรัพยากรสำคัญที่ทำให้ บาสเก็ตบอล ของ ซูดานใต้ สามารถก่อร่างสร้างตัว เพราะหลังจากก่อตั้งสมาพันธ์บาสเก็ตบอลในปี 2011 อีกสองปีหลังจากนั้น พวกเขาก็ได้เข้าเป็นสมาชิกของ สหพันธ์บาสเก็ตบอลโลก หรือ FIBA ได้สำเร็จ

จากนั้น ซูดาน ก็เริ่มสร้างชื่อจากระดับทวีปไปสู่ระดับโลก ด้วยผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ลี้ภัย ไม่ว่าจะเป็นการได้มีโอกาสลงเล่นในรอบคัดเลือกบาสเก็ตบอลชิงแชมป์แอฟริกาในปี 2017 ก่อนจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายในปี 2021 และเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

แต่สิ่งที่พวกเขาภาคภูมิใจที่สุดคือการผ่านเข้าไปเล่นในบาสเก็ตบอลชิงแชมป์โลกในปี 2023 ที่แม้จะจบในอันดับ 17 ของทัวร์นาเมนต์ แต่ก็ดีพอที่จะได้สิทธิ์เข้ามาเล่นในโอลิมปิก 2024 ในฐานะทีมจากแอฟริกา ที่ผลงานดีที่สุด

และหนึ่งในคนที่มีส่วนกับความสำเร็จในครั้งนี้ก็คือ เด็ง ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสมาพันธ์บาสเก็ตบอลซูดานใต้มาตั้งแต่ปี 2020

“ลูโอล เป็นคนที่คอยขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ถ้าไม่มี ลูโอล เด็ง เราทั้งหมดคงไม่ได้มานั่งอยู่หน้าคุณตรงนี้” รอยัล ไอเวรี เฮดโค้ชชาวสหรัฐฯของทีมบาสฯซูดานใต้กล่าว

อย่างไรก็ดี สำหรับ เด็ง ผลการแข่งขันเป็นเพียงเรื่องรองเพราะเป้าหมายที่สำคัญกว่านั้น คือการพยายามทำให้ ซูดานใต้ เป็นที่รู้จักแก่ชาวโลกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“สำหรับเรามันเป็นการเดินทางที่ยิ่งใหญ่กว่าบาสเก็ตบอล เพราะกีฬาสามารถยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ประเทศได้” เด็งกล่าว

“พวกเขานี้รู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญกว่า ที่พวกเขาจะทิ้งไว้ข้างหลัง”

ทั้งนี้ ล่าสุด ซูดานใต้ เพิ่งจะโชว์ฟอร์มโหด ด้วยการเอาชนะ เปอร์โต ริโก ในนัดแรกของโอลิมปิกด้วยสกอร์ 90-79 ซึ่งถือเป็นการคว้าชัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขาในมหกรรมกีฬาแ่งมวลมนุษยชาติ

โดยเกมนัดต่อไป ทีมบาสฯ อันดับ 33 ของโลก มีคิวต้องลงดวลกับ “ดรีมทีม” สหรัฐอเมริกา เต็ง 1 ของการแข่งขัน และถึงแม้ว่าโอกาสชนะจะมีเพียงน้อยนิด แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก และหวังจะทำผลงานให้ดีที่สุดเท่านั้น

เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุกก้าวที่พวกเขาลงเล่น มันคือประวัติศาสตร์ที่ได้จารึก ที่จะกลายเป็นมรดกสำคัญให้แก่เด็กรุ่นหลังได้เดินตาม

“การที่ได้รู้ว่ามีเด็กๆ หรือเยาวชนจำนวนหนึ่ง จาก ซูดานใต้ มองมาที่เรา ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เราทำ และคิดว่าพวกเขาอาจจะก้าวขึ้นมาเป็นรุ่นต่อไป สำหรับผมการได้เป็นตัวแทนของประเทศกลุ่มแรกๆ จึงถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” กาเบรียลกล่าว