ซ่อนทีเด็ด : แบกน้ำหนักมาสู้แท้ ๆ ทำไมราคา ซุปเปอร์เล็ก ต่อ แฮ็กเกอร์ตี้ ?
ถ้าใครได้ดูไฮไลต์การชั่งน้ำหนักก่อนขึ้นชกคุณจะเห็นภาพของ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ตัวใหญ่และหนาขึ้นมาก เพื่อทำน้ำหนักจะชกกับ โจนาธาน แฮ็คเกอร์ตี้ ในศึก ONE 168: Denver ที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปกติแล้วการทำหน้ำหนักขึ้นไปชกข้ามรุ่นนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะ แต่ทำไมเมื่อราคาต่อรองเปิดมากลับพบว่า ซุปเปอร์เล็ก กลายเป็นต่อฝั่ง แฮ็กเกอร์ตี ได้ ? เรื่องนี้มีที่มา
เดิมที ซุปเปอร์เล็ก ถือเป็นโคตรมวยที่เก่งทั้งคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยมาตลอด นับตั้งแต่ปี 2018 ที่เปิดตัว “เล็ก” ขึ้นชกไป 15 ไฟต์ และแพ้แค่หนเดียวเท่านั้น ซึ่งที่เหลือเก็บทุกคน ชนะทุกไฟต์ ไม่เหลือใครให้ท้าชิงอีกแล้ว
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องทำน้ำหนักขยับจากรุ่นฟลายเวต มายังรุ่น แบนตัมเวต เพื่อท้าชิงแชมป์มวยไทยที่เป็นชาวต่างชาติอย่าง แฮ็กเกอร์ตี้ กลับคืนมา
ในวันที่ประกาศผลประกบคู่ชกหลายคนสงสัยว่า “เล็ก” ทำไมได้ลัดคิวชกกับแฮ็กเกอร์ตี้ไวจัง ? หรือไม่ก็มองว่าด้วยน้ำหนักตัวน่าจะสู้ยาก แต่อย่างที่บอกไป ณ ตอนนี้ ราคาของ เล็ก เป็นต่อแล้ว และนั่นต้องมีเหตุผลแน่ ๆ ซึ่งเหตุผลข้อแรกคือ
1. ตั้งใจอยู่นานแล้ว
ซุปเปอร์เล็กอาจจะไม่เคยชกรุ่นนี้ แต่เจ้าตัวเตรียมพร้อมมาสักพักแล้ว และมีการดูแลทะนุถนอมร่างกายอย่างดีนับตั้งแต่จบไฟต์ที่เอาชนะ ทาเครุ ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าตัวก็รู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเองเป็นอย่างดี จึงแอบลับคมมาเพื่อล้างแค้น แฮ็กเกอร์ตี้ หลังจากที่เคยแพ้มาแล้ว 1 ครั้งก่อนหน้านี้
“ผมอยากชกกับ แฮ็กเกอร์ตี แค่นั้นเอง ผมไม่ได้มีอะไรนอกจากอยากชกกับเขา เราเคยชกกันมาแล้ว ตอนนั้นการตัดสินมันไวเกินไป ผมเลยอยากชกกับเขาอีกครั้งในวันที่เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม และเป็นแชมป์โลก 2 เส้น มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผมครับ”
2. ทำหน้ำหนัก = อาวุธหนักขึ้น
ซุปเปอร์เล็กในตอนนี้เก่งกาจหลากหลายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่น้อย อาวุธของเขาครบเครื่อง เหลี่ยมเชิงมวยมาครบ ไม่ใช่แค่การเตะที่แรงหนักหน่วง แต่หมัด และความเร็วไม่แพ้ใคร ซึ่งตัวของเขาก็ได้รับการดูแลร่างกายอย่างดี เเม้จะเพิ่มน้ำหนัก แต่ความเร็วก็ไม่ลดลง มีแต่อาวุธที่จะแรกขึ้นด้วย
“การขยับเวตขึ้นไปประมาณ 10 ปอนด์ มีผลทำให้อาวุธหนักขึ้น เรื่องความเร็ว ผมคิดว่ายังเหมือนเดิม ส่วนในรูปแบบการซ้อมของผมแตกต่างไปจากเดิม มีการเล่นเวตมากขึ้น และหลังจากที่ไปเสริมเวตมา ก็เห็นผลว่าร่างกายดีขึ้นครับ”
3. ไม่ประมาท
เจ้าตัวยืนยันเองว่าช่วง 2-3 ปีทีผ่านมาเขาพัฒนาตัวเองขึ้นมาเยอะมาก โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า จากวันที่เคยแพ้ แฮ็กเกอร์ตี้ ในการเจอกันครั้งแรก ณ ตอนนี้เขาเป็นคนละคนกันแล้ว … เช่นเดียวกันกับที่เขาไม่ประมาทคู่ชกอย่าง แฮ็คเกอร์ตี้ แน่นอน
“จากครั้งนั้นจนถึงตอนนี้หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นด้านความแข็งแรง ด้านความไว และใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงที่มั่นใจ ตอนเจอกันครั้งก่อนเหมือนเขายังเด็ก เพิ่งเริ่มชกมวยได้ไม่กี่ไฟต์ แต่ตอนนี้ประสบการณ์เขาดีขึ้น เขาแข็งแกร่งขึ้นและมีความมั่นใจสูง”
“ตอนที่เขาขยับรุ่นขึ้นไปรุ่นแบนตัมเวต ผมยังไม่คิดว่าเขาจะได้เป็นแชมป์โลก เพราะหนึ่งเลยคือยังมี พี่โอ๋ (น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย) อยู่ ซึ่งตัวผมเองมองว่า พี่โอ๋ แกร่งที่สุดในรุ่นแบนตัมเวต แต่ว่าเขาเอาชนะ พี่โอ๋ ได้ เขาก็เก่งขึ้น พัฒนาเร็วขึ้น แต่เกมวันนั้นมันจบเร็วไป ยังไม่เห็นอะไรที่มากกว่านั้น”
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.