แซ็ค บราวน์ : ซีอีโอ แม็คลาเรน เรซซิ่ง ที่ได้เกมโชว์เปลี่ยนชีวิต

Maruak Tanniyom

July 19, 2024 · 1 min read

แซ็ค บราวน์ : ซีอีโอ แม็คลาเรน เรซซิ่ง ที่ได้เกมโชว์เปลี่ยนชีวิต
กีฬาอื่น ๆ | July 19, 2024

แซ็ค บราวน์ อาจจะเป็นที่รู้จักอาจจะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้บริหารมือของ แม็คลาเรน เรซซิ่ง ทีมแข่งรถ F1 ชื่อดังระดับโลก ที่ทำรายได้ไปกว่า 100 ล้านปอนด์ ตลอดเส้นทางอาชีพของเขา

อย่างไรก็ดี เขาอาจจะมาไม่ถึงจุดนี้ หากตอนอายุ 13 ปี เขาไม่ได้ไปออกเกมโชว์รายการหนึ่ง ที่มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน

สำหรับ บราวน์ เขาอาจจะต่างจากคนในวงการมอเตอร์สปอร์ตคนอื่น เมื่อแต่เดิมเขาไม่ได้หลงใหลในกีฬาชนิดนี้ แต่เป็นเบสบอล กีฬายอดนิยมของสหรัฐอเมริกา ที่เขาใฝ่ฝัน ที่จะเป็นนักกีฬาอาชีพให้ได้ในสักวันหนึ่ง

แต่จุดเริ่มต้นเข้าสู่วงการรถแข่งก็เกิดขึ้นในปี 1984 ตอนที่ แซ็ค อายุเพียง 13 ปี เมื่อเขาได้มีโอกาสเข้าร่วมเกมโชว์ Wheel of Fortune เกมโชว์ยอดนิยมของสหรัฐฯ ในช่วง Teen Week ที่เอาเด็กมาแข่งกัน

มันเป็นเกมที่ต้องใช้ความสามารถและโชคผสมกัน โดยรูปแบบคือรายการจะมีประโยคปริศนามาให้ แล้วให้ผู้เล่นหมุนวงล้อ หากหมุนได้ช่องที่มีเงินอยู่ จะต้องเลือกตัวอักษร ที่ไม่ใช่สระมาหนึ่งตัว แล้วเอาไปใส่ในโจทย์ ถ้าใส่ได้ จะได้เงินสะสม จากเงินที่หมุนมา คูณกับจำนวนตัวอักษรดังกล่าว (มูลค่าเริ่มต้น 100 ดอลลาร์สหรัฐ)

แต่หากตัวอักษรที่เลือกไม่มีในโจทย์ ผู้เล่นคนถัดไปจะได้เล่นแทน และหากหมุนได้ช่อง BUY VOWEL ผู้เข้าแข่งขันจะได้สิทธิ์ในการซื้อสระ (A E I O U) โดยจะถูกหักครั้งละ 250 ดอลลาร์

ผู้เล่นสามารถตอบทั้งประโยค เพื่อเก็บเงินสะสมมาเป็นของตน โดยเงินจำนวนนี้เอาไว้จับจ่ายใช้สอยของที่ตัวเองอยากได้ ที่รายการเป็นผู้กำหนด ที่มีตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่นไปจนถึงบัตรกำนัล

แต่ในวงล้อไม่มีมีแต่ด้านบวก แต่มีด้านลบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น พักการเล่น ( Lose a Turn) ให้หยุดเล่น 1 ครั้ง หรือ ล้มละลาย (Bankrupt) ที่ของรางวัลที่เพิ่งซื้อมา และเงินสะสมในรอบดังกล่าว (เล่นทั้งหมด 4 รอบ) ก็จะหายไป

สำหรับ บราวน์ เขาโชคดีมากที่หมุนไปลงช่อง 900 เหรียญ แถมยังสามารถตอบได้ทั้งประโยคในโจทย์บุคคล ที่คำตอบคือ ไวล์ บิลล์ ฮิคค็อค อดีตนายอำเภอในรัฐแคนซัส ผู้เป็นต้นแบบการดวลปืนแบบคาวบอย ที่เห็นกันในภาพยนตร์ตะวันตก

จากผลดังกล่าว ทำให้ บราวน์ ได้เงินสะสม 3,050 เหรียญ ก่อนจะนำไปซื้อของรางวัลในรายการ ทั้ง โทรทัศน์ จักรยาน บัตรของขวัญวันคริสมาสต์ กลับบ้านไป

แต่แทนที่ บราวน์ จะใช้นำของรางวัลทั้งหมดไปใช้ เขากลับเอาไปต่อทุน ด้วยการนำมันไปขายจนได้เงินมากกว่า 2,000 เหรียญ แล้วนำไปซื้อรถโกคาร์ท เพื่อเข้าสู่วงการนักแข่ง

“มันเป็นปี 1984 รู้สึกเหมือนกับเพิ่งจะผ่านมาเมื่อวาน ผมชนะรางวัลที่ทำให้มีเงินพอที่จะเอาไปซื้อรถโกคาร์ท” บราวน์กล่าวกับ Red Flags Podcast

หลังจากนั้น บราวน์ ในช่วงวัยรุ่น ก็เริ่มสร้างชื่อให้แก่ตัวเอง ในฐานะนักขับโกคาร์ทดาวรุ่ง ด้วยการคว้าแชมป์ของ International Kart Federation มาได้ถึง 22 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1986-1990 รวมถึงแชมป์โกคาร์ท อีก 3 รายการ

ไม่นานเขาก็ขยับระดับของตัวเอง หลังย้ายไปอยู่ยุโรป เพื่อขับรถให้ Formula Ford, Formula Opel-Lotus, Toyota Atlantics, และ British Formula Three หวังปูทางไปขับรถสูตรหนึ่ง หรือ F1

บราวน์ เป็นคนที่มีวาทศิลป์ดี และเก่งในเรื่องการตลาด ทำให้เขาสามารถโน้มน้าวสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนเขาในชีวิตนักแข่งรถได้ตลอด

และในปี 1995 บราวน์ ก็ใช้ความสามารถในการขายของเขา เข้าสู่ธุรกิจกีฬาด้วยการเปิดบริษัท Just Marketing International หรือ JMI ที่ต่อมาได้มีโอกาสได้ดูแลดีลใหญ่ๆ ทั้งใน Formula One, NASCAR, IndyCar, MotoGP, WRC หรือ Formula E

ในปี 2009 เขายังได้ก่อตั้งทีมรถแข่งของตัวเองในชื่อ United Autosport ที่ มีผลงานมากมายในหลายสนาม ทั้ง FIA World Endurance Championship, European Le Mans, Le Mans Cup, Extreme E, IMSA, Asian Le Mans Series, Australian Supercars, และ Super 2

ความโดดเด่นของ บราวน์ จากการบริหาร JMI และ United Autosport ก็ไปเข้าตา แม็คลาเรน เรซซิง ทีมรถแข่งระดับโลก ก่อนจะจ้างเขามาเป็นกรรมการบริหารในปี 2016 และเลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นซีอีโอ ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ ภายใต้การบริหารของ บราวน์ นอกจากผลงานที่โดดเด่นในระดับโลกในสนามแข่งแล้ว เขายังทำให้ แม็คลาเรน กลายเป็นบริษัทที่ยั่งยืน ด้วยผลกำไร 27.7 ล้านปอนด์ ในปี 2023

ดูเหมือนว่าวงล้อแห่งโชคชะตา ได้ทำหน้าที่ตามชื่อของมันจริง ๆ