Uncategorized

ดาวิด เรจิส : แข้งที่เคยติดทีมชาติสหรัฐ แม้สปีคอิงลิชไม่ได้

ถ้าหากใครสักคนโชว์ประวัติการศึกษาว่าเรียนจบปริญญามาจากสหรัฐอเมริกา แต่กลับพูดภาษาอังกฤษแบบติดๆ ขัดๆ แม้แต่การแนะนำตัวให้เป็นธรรมชาติก็ยังดูสื่อสารลำบาก แน่นอนว่าไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องรู้สึกว่ามันแปลกๆ และไม่น่าเชื่อเลยว่าคนคนนั้นจะเรียนจบมาจากดินแดนมะกันจริงๆ

แต่เชื่อหรือไม่ว่าครั้งหนึ่ง ทีมชาติสหรัฐอเมริกาเคยมีนักเตะที่ติดทีมชาติไปลุยศึกใหญ่อย่างฟุตบอลโลก ทั้งที่แทบจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับใครไม่ได้ด้วยซ้ำ!!

นักเตะคนที่เรากำลังจะพูดถึงนี้คือ ดาวิด เรจิส อดีตกองหลังที่เคยลงเล่นให้ทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดใหญ่มาแล้ว 27 นัด และเคยผ่านเวทีใหญ่อย่างฟุตบอลโลกในปี 1998 และ 2002 มาแล้ว

เปิดประวัติเรจิส ไม่ใช่ชาวอเมริกัน แต่ได้สัญชาติเพราะเมีย

ดาวิด เรจิส ไม่ใช่ชาวอเมริกันโดยกำเนิด และไม่ได้เติบโตมาในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

เขาลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1968 ที่เกาะมาร์ตินิก ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของทะเลแคริบเบียน และเป็นหนึ่งในพื้นที่ดินแดนโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส ทำให้เขาได้เริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลที่ฝรั่งเศส โดยสโมสรแรกในอาชีพค้าแข้งของเขาคือวาล็องเซียนส์ ก่อนจะย้ายไปเล่นให้ทีมอื่นๆ ในลีกสูงสุดแดนน้ำหอมทั้ง สตราส์บูร์ก และ ล็องส์ ในเวลาต่อมา

ด้วยเหตุนั้น แน่นอนว่าภาษาหลักที่เขาจะพูดคือภาษาฝรั่งเศส และไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกับใครเลย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ ดาวิด เรจิส ค้าแข้งที่ฝรั่งเศสนั่นเอง เขาได้พบรักกับ นิกกี้ โฟเกิ้ล ในปี 1993 โดยนิกกี้เป็นสาวที่มาจากเมืองซาวานนาห์ที่อยู่ในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรื่องที่น่าตลกก็คือ ดาวิด เรจิส ไม่เคยไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเลย จนกระทั่งปี 1994 ที่เขาอายุได้ 25 ปี และต้องไปที่นั่นเพื่อพบกับครอบครัวฝ่ายหญิง ก่อนจะพูดคุยกันเรื่องการแต่งงานอย่างจริงจัง

ดาวิด เรจิส ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง แอลเอ ไทม์ส โดยเล่าเหตุผลที่ต้องไปสหรัฐอเมริกาครั้งแรกว่า “ผมต้องมาที่นี่เพื่อพบพ่อแม่ของเธอ (นิกกี้) พวกเขาได้เห็นรูปถ่ายผม และอ่านเรื่องราวของผมในหนังสือพิมพ์ก่อนหน้านั้นแล้ว”

การแต่งงานระหว่าง ดาวิด กับ นิกกี้ จริงๆ เป็นเรื่องของความรักและการสร้างครอบครัวล้วนๆ แต่ในเวลาต่อมามันกลับกลายเป็นปัจจัยสำคัญว่าเขาจะได้เล่นให้กับทีมชาติใด

 

การเปลี่ยนสัญชาติในปี 1998

ทีมชาติสหรัฐอเมริกาถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่ม F ของศึกฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศส โดยมีคู่แข่งอย่าง เยอรมนี, ยูโกสลาเวีย และ อิหร่าน ร่วมสาย

ณ ตอนนั้น สตีฟ แซมป์สัน เฮดโค้ชของทีมชาติสหรัฐอเมริกาต้องการกองหลังที่มีประสบการณ์สักคนที่จะเข้ามาเป็นกำลังเสริมช่วยทีมชาติได้ในศึกบอลโลก ฟร้องซ์ 98 และคนที่เหมาะสมก็คือ ดาวิด เรจิส ซึ่งในฤดูกาล 1997-98 ลงเล่นให้กับคาร์ลสรูห์ สโมสรในบุนเดสลีกา

สตีฟ แซมป์สัน โค้ชทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดลุยฟุตบอลโลก 1998

การที่เรจิสค้าแข้งในลีกเมืองเบียร์ น่าจะมีประโยชน์กับความคุ้นเคยในการรับมือนักเตะทีมชาติเยอรมนี รวมถึงดาวดังของอิหร่านที่เล่นในบุนเดสลีกาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อาลี ดาอี, คาริม บาเกรี่ และ โคดาดัด อาซิซี่ แถมในตอนนั้น นักเตะอเมริกันยังไม่ค่อยได้ไปค้าแข้งที่ยุโรปมากนัก ดังนั้นการคว้าโอกาสดึงตัวนักเตะที่ค้าแข้งในลีกใหญ่ๆ ของยุโรปไปช่วยทีมชาติได้ คือสิ่งที่สหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องทำ

สหพันธ์ฟุตบอลของสหรัฐอเมริการู้ว่ามีช่องโหว่ที่จะทำให้ ดาวิด เรจิส โอนสัญชาติมาเป็นนักเตะอเมริกันได้ เพราะภรรยาของเขาคือชาวอเมริกัน ส่วนกุนซือของทีมชาติอย่าง สตีฟ แซมป์สัน ก็ติดต่อไปหา ดาวิด เรจิส โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งเรจิสลงตัวจริงในทีมชาติโดยอัตโนมัติทันที และการันตีตำแหน่งตัวหลักใน 11 คนแรกของทีมชุดลุยฟุตบอลโลก ถ้าหากเขายื่นเรื่องขอสัญชาติอเมริกันได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม การได้สัญชาติอเมริกันของเรจิสให้ทันลุยบอลโลกได้นั้น ทางการสหรัฐอเมริกาต้องให้ความร่วมมือช่วยซิกแซกให้แบบเร่งด่วนด้วย เพราะปกติแล้ว การที่ชาวต่างชาติจะขอ Green Card หรือบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ เมื่อปี 1998 นั้นจะมีระยะเวลาในกระบวนการนานถึงประมาณ 5 ปี แต่ถ้าหากชาวอเมริกันทำงานเป็นพนักงานให้กับบริษัทอเมริกันที่ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะทำให้การพาคู่สมรสเข้าไปใช้ชีวิตอย่างถาวรที่สหรัฐอเมริกา โดยได้รับสิทธิ์เป็นพลเมืองอเมริกันกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก

ภรรยาของ ดาวิด เรจิส ซึ่งเป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิดอย่าง นิกกี้ โฟเกิ้ล (ซึ่งในเวลาต่อมาใช้นามสกุลเรจิส) พยายามช่วยเหลือสามีเต็มที่ ด้วยการตอบตกลงรับงานในบริษัท Gulliver’s Sports Travel ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันที่เป็นพาร์ทเนอร์ของฟีฟ่า และมีสำนักงานในหลายประเทศ โดยบริษัทนี้ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายแพ็กเกจทัวร์ดูฟุตบอลโลกได้อย่างถูกต้องในประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นพันธมิตรที่สนับสนุนสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี

สุดท้ายในวันที่ 20 พฤษภาคม 1998 ดาวิด เรจิส ได้รับการโอนสัญชาติเป็นชาวอเมริกันได้สำเร็จ และเขาได้ลงประเดิมสนามให้ทีมชาติสหรัฐอเมริกาทันทีในอีก 3 วันต่อมา ช่วยให้ทีมเปิดบ้านชนะคูเวต 2-0 ในเกมอุ่นเครื่องสำหรับเตรียมทำศึกฟุตบอลโลกฟร้องซ์ 98 และเขามีชื่อลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพตามสัญญา โดยถูกส่งลงตัวจริงครบทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม แม้ว่าสุดท้ายสหรัฐอเมริกาจะแพ้ทั้ง 3 นัดรวด โดยพ่ายเยอรมนี 0-2, แพ้อิหร่าน 1-2 และแพ้ยูโกสลาเวีย 0-1

ดาวิด เรจิส (เสื้อสีขาว เบอร์ 6 แถวยืน) ได้ลงสนามให้ทีมชาติสหรัฐอเมริกาครบทุกนัด ทุกนาที ในศึกฟุตบอลโลก 1998

การที่เรจิสไม่เคยเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชาติสหรัฐอเมริกามาก่อนเลยในช่วงก่อนหน้านั้น แถมสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ต้องรับบทกองหลังตัวหลัก เนื่องจากได้รับความไว้วางใจจากกุนซือว่าเป็นผู้เล่นที่คุณภาพดีกว่าหลายๆ คนในทีม จากการที่ค้าแข้งอยู่ในยุโรป ทำให้ผลงานของทีมมะกันไม่ดีอย่างที่คิด และสุดท้ายก็ต้องตกรอบแรกอย่างรวดเร็วโดยเก็บแต้มจากใครไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม บรรดานักเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่เคยร่วมงานกับเรจิสต่างบอกว่า ถึงแม้เขาจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ก็เป็นคนที่เป็นมิตร และเข้ากับคนง่ายมาก โดยมักจะเล่นสนุกกับเพื่อนเป็นประจำ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญกับการช่วยทำลายอุปสรรคด้านภาษา ก่อนที่เขาจะยังได้โอกาสติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาอีกในเวลาต่อมา

 

การติดทีมชาติของเรจิส คือเป้าหมายเพื่อบอลโลกเป็นการเฉพาะกิจ

ดาวิด เรจิส ลงเล่นให้ทีมชาติสหรัฐอเมริกาไปทั้งหมด 27 นัด ระหว่างปี 1998-2002 โดยหลังจากประเดิมสนามในเดือนพฤษภาคม 1998 และลงตัวจริงครบทุกนัดทุกนาทีในศึกบอลโลกที่ฝรั่งเศส เขาก็แทบไม่ได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติมากนักในเกมอุ่นเครื่อง แต่พอเข้าสู่ปี 2000 ที่สหรัฐอเมริกาต้องเตรียมตัวทำศึกฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก โซนคอนคาเคฟ เรจิสก็ถูกเรียกตัวกลับมาลงสนามอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ซึ่งจากทั้งหมด 15 นัดที่สหรัฐฯ ต้องลงเตะในศึกคัดบอลโลก 2002 เรจิสได้ลงสนามมากถึง 12 เกม

ดาวิด เรจิส ถูกเรียกตัวเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพลทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดลุยฟุตบอลโลกอีกครั้งในปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม ซึ่งถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะเข้ารอบลึก โดยไปไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแต่ต้องตกรอบเพราะแพ้เยอรมนี 0-1 แต่เรจิสไม่ได้โอกาสลงเล่นในศึกเวิลด์คัพ 2002 เลยแม้แต่นัดเดียว และเขาก็ตัดสินใจอำลาทีมชาติทันทีหลังจบทัวร์นาเมนต์ ปล่อยให้ช่วงเวลาของการเป็นนักเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกากลายเป็นอดีตไปตลอดกาล

Pipat Sathirawut

Recent Posts

“เพื่อนร่วมรุ่นฮาก” – “มือขวา อาร์เน่อ” บอก 2 คนนี้เหมือนกันแค่ทรงผม

ฟุตบอลของ เอริค เทน ฮาก และ อาร์เน่ สล๋อต ต่างมีแนวทางของตัวเองกันทั้งคู่ อาจจะไม่ได้เอาสไตล์ที่ถือเป็นศาสตร์เบื้องต้นของฟุตบอลดัตช์ทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าจะจาก โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ…

11 hours ago

ใครเตะเยอะไป? รู้จักลีกบราซิลสุดโหดหวดหลัก 60 นัดต่อฤดูกาล

ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รูปแบบใหม่ ประเดิมนัดแรกกันไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากเหล่าผู้เล่น ที่มองว่าพวกเขากำลังจะลงเตะ “มากเกินไป” ในหนึ่งฤดูกาล อย่างไรก็ดีในอีกซีกโลก มีลีกประเทศหนึ่งที่เตะกันอย่างดุเดือดในระดับ 50-60 นัดต่อฤดูกาลอยู่เสมอ และ บราซิล ก็คือประเทศนั้น…

15 hours ago

อาร์เตต้าชี้ปืนเตะ UCL วันพฤหัสไม่เสียเปรียบเรือ ยันจัดเต็มเจอ อตาลันต้า

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มของอาร์เซน่อล เผยว่าการที่ต้องลงเตะเกมแรกของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส ที่จะต้องบุกเยือนแชมป์ ยูโรปา ลีก อย่างอตาลันต้าในคืนวันพฤหัสบดี ไม่น่าจะทำให้ทีมปืนใหญ่เสียเปรียบ…

18 hours ago

แปลกกว่าที่เคย : เผยเหตุผล ทำไมปีนี้มีเกม UCL เตะวันพฤหัสบดี

ปกติแล้ว ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มักจะแข่งกันในคืนวันอังคารหรือไม่ก็คืนวันพุธ มีเพียงแค่เกมรอบชิงชนะเลิศที่จะเตะกันในคืนวันเสาร์เท่านั้นที่เตะในวันที่แตกต่างจากรอบปกติ แต่ในฤดูกาลนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกไปจากที่เคยพอสมควร เมื่อจะมีเกม UCL ในคืนวันพฤหัสบดีด้วย โปรแกรม แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพฤหัสบดีที่…

21 hours ago

ฮาลันด์พลาดโอกาสโค่นสถิติพี่โด้ หลังยิงงูใหญ่ไม่ได้

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ พลาดโอกาสโค่นสถิติที่ไม่เคยมีใครใกล้เคียงจะโค่นลงได้ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่ไม่สามารถมีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้สำเร็จ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส ที่…

21 hours ago

มือขวาอาร์เตต้า รับงานปุ๊ปนั่งดูวีดีโอย้อนหลัง 2 ปี เพื่อแก้เซ็ตพีซโดยเฉพาะ

มิเกล อาร์เตต้า รับงานกับ อาร์เซน่อล และไม่ได้ร้องขอแค่การเสริมทัพเพื่อได้นักเตะที่ถูกต้องตรงปรัชญาเท่านั้น แต่เขายังเรียกร้องการเสริมทีมงานสต๊าฟฟ์ที่แก้ไขจุด่อนทุกทีมที่เคยมี โดยเฉพาะเรื่องของลูกตั้งเตะที่เป็นจุดสลบของทีมมาตลอด กระบวนการสรรหาของ อาร์เซน่อล เริ่มขึ้นหลังจากนั้น คนที่ อาร์เตต้า ร้องขอคือ นิโคลาส โจเวอร์…

1 day ago