โจ ฮิวกิลล์ : กองหน้าดาวรุ่งที่ยิงให้ผีเกมอุ่นเครื่อง พอๆ กับช่วงโดนปล่อยยืมให้ทีมอื่น

ทุกครั้งที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เห็นทีมรักทำผลงานได้ไม่ดีนัก ก็มักจะคิดว่าควรให้โอกาสดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นบางคนที่พอได้เห็นฟอร์มจากเกมอุ่นเครื่อง จะทำให้แฟนบอลคาดหวังได้มากเป็นพิเศษ

ซึ่งในรายของ โจ ฮิวกิลล์ ศูนย์หน้าวัย 20 ปี ที่เพิ่งมีชื่อทำประตูได้ในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นนัดล่าสุดที่ทีมปีศาจแดงเอาชนะเรนเจอร์สไป 2-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา กลายเป็นชื่อที่แฟนผีจำนวนหนึ่งอยากให้ขึ้นมาเป็นอะไหล่ในตำแหน่งศูนย์หน้าในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน โจ ฮิวกิลล์ ยังไม่เคยได้ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเลยสักนัด ทั้งที่ 2 ซีซั่นที่ผ่านมา เอริค เทน ฮาก มีตัวเลือกตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าน้อยมากจากการที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล มีปัญหาบาดเจ็บอยู่ตลอด

 

ยิงในเกมอุ่นเครื่อง แทบจะเท่ากับยิงในช่วงโดนปล่อยยืม

ประตูล่าสุดที่ฮิวกิลล์หลุดไปยิงใส่เรนเจอร์สอย่างเด็ดขาด อาจจะเป็นประตูที่ 2 ที่เขายิงให้ทีมปีศาจแดงชุดใหญ่ได้ในช่วงปรีซีซั่น หลังจากที่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 เขาก็เคยยิงในเกมอุ่นเครื่องกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้มาแล้วเช่นกัน แต่เชื่อหรือไม่ว่า 2 ประตูดังกล่าวที่เขาทำได้ น้อยกว่าจำนวนประตูที่หัวหอกชาวอังกฤษรายนี้ยิงได้ในเกมระดับชุดใหญ่ตลอดทั้ง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา

 

ในซีซั่น 2022-23 ฮิวกิลล์อาจจะยิงได้ 11 ประตูให้ทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 2 (ลีกสำรองสำหรับทีมชุดยู-21 ที่ให้โควตานักเตะอายุเกิน 21 ปีลงสนามได้ทีมละ 5 คนไม่รวมผู้รักษาประตู) แต่พอต้องเล่นร่วมกับนักเตะอายุมากขึ้น ตอนที่ถูกส่งตัวไปให้ทีมนอกลีกอย่าง อัลทรินแชม ยืมใช้งานเป็นช่วงสั้นๆ แค่ 7 นัด เขายิงได้แค่เกมเดียวเท่านั้นในนัดประเดิมสนาม หลังจากนั้นก็ไม่มีชื่อทำประตูได้อีกเลย

เช่นเดียวกับในฤดูกาล 2023-24 แม้จะได้โอกาสลงซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ปีก่อน และยิงประตูได้ในเกมอุ่นเครื่องกับลีดส์ แต่เขาก็ยังไม่ใช่กองหน้าที่ดีพอที่จะขึ้นมาเป็นอะไหล่ของ เทน ฮาก ได้ โดยหลักๆ ยังต้องเล่นในระดับยู-21 ของสโมสรไปก่อน จากนั้นในช่วงเดือนมกราคม 2024 ทีมใน ลีก วัน อย่าง เบอร์ตัน อัลเบี้ยน ติดต่อขอยืมตัวไปใช้งาน แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ โจ ฮิวกิลล์ ยิงได้ทันทีในเกมแรก ก่อนที่หลังจากนั้นเขาทำประตูใน ลีก วัน ไม่ได้อีกเลย

สถิติตอนเล่นกับอัลทรินแชม คือลง 7 นัดยิง 1 ประตู ขณะที่ตอนเล่นกับ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน ก็ยิงได้เพียง 1 ลูกจาก 12 เกม ซึ่งต้องไม่ลืมว่านั่นคือเกมระดับลีกรอง ยังทำผลงานได้ไม่โดดเด่น จะนับประสาอะไรให้ขึ้นไปรับความกดดันที่หนักหน่วงกว่า และเป็นเกมระดับสูงกว่าอย่างพรีเมียร์ลีก

 

ถ้าหากเจ๋งจริง จะได้ขึ้นมาเอง แฟนบอลไม่ต้องห่วง

สิ่งที่แฟนบอลที่รู้จักทีมแค่จากการได้เห็นการถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันของทีมชุดใหญ่ควรตระหนักไว้ ก็คือสโมสรอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีผู้อำนวยการเทคนิค มีผู้อำนวยการอะคาเดมี่ และมีทีมงานสต๊าฟฟ์ที่จะคอยรายงานพัฒนาการของนักเตะเยาวชนต่อผู้จัดการทีมชุดใหญ่อย่าง เอริค เทน ฮาก อยู่แล้ว ขณะที่ตัวของ เทน ฮาก เองก็จับตาดูดาวรุ่งที่มีแวว เพื่อให้โอกาสดึงขึ้นมาซ้อมในทีมชุดใหญ่อยู่เสมอถ้าหากมีจังหวะเหมาะสมอยู่ตลอด

ดังนั้นแฟนบอลควรต้องเข้าใจด้วยว่า ถ้าหากนักเตะดาวรุ่งคนไหนยังไม่ได้โอกาสจากทีมชุดใหญ่มากนัก ไม่ใช่เพราะผู้จัดการทีมไม่กล้า แต่เป็นเพราะกุนซือที่ทำงานอยู่ในศูนย์ฝึกซ้อมย่อมรู้ดีกว่าแฟนบอลที่รู้จักนักเตะจากแค่ภาพที่เห็นในเกมถ่ายทอดสดหลายสิบเท่าแน่นอน

ซีดาน อิคบาล คือกองกลางที่ฉายแววดีมากๆ ตอนอุ่นเครื่องปรีซีซั่น 2022 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับโอกาสขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่อย่างจริงๆ จังๆ ก่อนโดนขายขาดให้อูเทร็คท์เมื่อปีที่แล้ว จน เอริค เทน ฮาก โดนแฟนบอลบางส่วนด่าว่า “มีของดีแต่ไม่รู้จักใช้”

ทั้งที่ความเป็นจริง อิคบาลยังไม่สามารถเป็นตัวจริงให้ทีมชาติอิรักได้อย่างสม่ำเสมอด้วยซ้ำ ขณะที่ช่วงเวลาที่ไปเล่นให้อูเทร็คท์ ก็ได้ลงตัวจริงในศึกเอเรดิวิซี่เพียง 4 เกม (ถูกส่งลงเป็นตัวสำรองอีก 13 นัด) นั่นน่าจะบ่งบอกได้แล้วว่าเขาดีพอสำหรับการขึ้นชุดใหญ่ให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริงๆ หรือเปล่า หรือการขายออกจากทีม เพื่อรอเจียระไนดาวรุ่งรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาแทนคือเรื่องที่สโมสรทำถูกแล้ว

ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา มีนักเตะดาวรุ่งหลายคนได้โอกาสขึ้นไปเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในยุคของกุนซือชาวดัตช์ ไม่ว่าจะเป็น อเลฮานโดร การ์นาโช่, ค็อบบี้ เมนู, โอมารี่ ฟอร์สัน, วิลลี่ คัมบวาล่า และ อีธาน วีทลี่ย์ ซึ่งถ้าหากดาวรุ่งเหล่านั้นมีศักยภาพที่สูงมากจริงๆ ก็สามารถกลายเป็นกำลังสำคัญของสโมสรได้ เหมือนอย่างที่ การ์นาโช่ และ เมนู ทำให้เห็น และติดทีมชาติชุดใหญ่กันไปแล้วทั้งคู่

 

สัปดาห์หน้า 2 หัวหอกตัวหลักจะกลับมา

ในช่วงปรีซีซั่นปีนี้ เอริค เทน ฮาก ยังมีโอกาสใช้งาน ราสมุส ฮอยลุนด์ หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติเดนมาร์ก และ โจชัว เซิร์คซี่ กองหน้าตัวใหม่ดีกรีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่สโมสรเพิ่งเซ็นสัญญามาจากโบโลญญ่า เนื่องจาก 2 คนนี้ยังได้พักร้อนเพิ่มเติม จากการที่ต้องไปรับใช้ทีมชาติของตัวเองชุดสู้ศึกยูโร 2024

แต่คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า 2 คนนี้น่าจะรายงานตัวซ้อม และเตรียมเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นร่วมกับต้นสังกัดที่สหรัฐอเมริกาด้วย เพื่อเตรียมลงอุ่นเครื่องอีก 3 นัดที่นั่น และนั่นจะเป็นช่วงที่ เอริค เทน ฮาก เตรียมทีมชุดใหญ่สำหรับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่อย่างจริงจัง โดยบรรดาดาวรุ่งจะเริ่มค่อยๆ ได้โอกาสลงสนามเป็นจำนวนนาทีที่น้อยลง แต่จะได้ร่วมประสบการณ์จากการร่วมเก็บตัวซ้อมและใช้เวลาร่วมกับรุ่นพี่ทีมชุดใหญ่แทน

ถ้าหาก โจ ฮิวกิลล์ จะได้โอกาสเป็นอะไหล่ในทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2024-25 เขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าระดับของเขาในปีนี้ไปถึงแล้ว

แต่ก็มีอีกปัจจัยที่ไม่ควรลืมเช่นกัน ว่าบางที การหาทางปล่อยตัวไปลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของทีมอื่นอย่างสม่ำเสมอ เช่นสโมสรในลีกแชมเปี้ยนชิพ น่าจะดีต่อพัฒนาการของดาวรุ่งมากกว่าการจับนั่งสำรองยาวๆ แล้วไม่ได้โอกาสลงสนาม