มิคุนิ เวิลด์ สเตเดียม : สนามค่าตั๋ว ‘หลักร้อย’ แต่วิว ‘หลักล้าน’ ทีม J3 ญี่ปุ่น

Maruak Tanniyom

June 06, 2024 · 1 min read

มิคุนิ เวิลด์ สเตเดียม : สนามค่าตั๋ว ‘หลักร้อย’ แต่วิว ‘หลักล้าน’ ทีม J3 ญี่ปุ่น
Uncategorized | June 06, 2024

หากบอกว่านี่คือสนามของทีมระดับดิวิชั่น 3 จะเชื่อไหม? ทั้งด้วยความจุระดับ 15,300 ที่นั่ง บรรยากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเล ไปจนถึงงบประมาณก่อสร้างที่สูงถึง 11,500 ล้านเยน หรือราว 2,700 ล้านบาท

และคำตอบก็เป็นเช่นนั้น เพราะ มิคุนิ เวิลด์ สเตเดียม คือรังเหย้าของ กิราวานซ์ คิตะคิวชู สโมสรจากฟุคุโอกะ ที่กำลังล้มลุกคลุกคลานอยู่ในเจ3ลีก ลีกระดับ 3 ของญี่ปุ่น

อย่างไรก็ดี สนามแห่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ กิราวานซ์ ใช้จ่ายเกินตัว เนื่องจากมันมีแพลนที่จะสร้างตั้งแต่ที่พวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในเจ2ลีก ได้ในปี 2010

ในตอนนั้น กิราวานซ์ มองว่า ฮอนโจ แอธเลติก สเตเดียม รังเหย้าเดิมที่มีความจุเพียง 10,000 ที่นั่ง อาจจะคับแคบเกินไป จนไม่ผ่านเงื่อนไขคลับไลเซนซิ่ง หากได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นใน เจ1ลีก

นอกจากนี้ แม้ว่ามันจะเป็นรังเหย้าของ กิราวานซ์ แต่เจ้าของสนามที่แท้จริงคือสภาเมืองคิตะคิวชู ทำให้งบประมาณในการลงทุนทั้งหมด ไม่ได้มาจากสโมสร แต่การระดมทุนจากผู้คนในเมือง และสปอนเซอร์

อันที่จริง นี่เป็นเรื่องปกติของลีกญี่ปุ่น ที่สภาของเมืองจะถือสิทธิ์เจ้าของสนาม และปล่อยให้สโมสรฟุตบอล เบสบอล หรือรักบี้ เช่าไปใช้งาน เป็นรายนัด หรือรายฤดูกาล ตามตกลง และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมทีมในเจลีก จึงมีรังเหย้าหลายสนาม

ยกตัวอย่างเช่น ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ที่ชาวไทยคุ้นเคย ก็มี ซัปโปโร โดม เป็นสนามเหย้าหลัก แต่หากวันใด ตารางแข่งชนกับ นิปปอนแฮม ไฟเตอร์ส ทีมเบสบอลของเมือง พวกเขาก็จะย้ายไปเล่นที่ ซัปโปโร อัตสึเบ็ตสึ สเตเดียม แทน

สำหรับ มิคุนิ เวิลด์ สเตเดียม ได้ลงเสาเข็มเริ่มสร้างครั้งแรกในปี 2015 ที่บริเวณที่จอดรถเก่าของสถานีรถไฟโคคุระเหนือ ใกล้กับท่าเรือ ที่ตั้งอยู่ ทางตอนเหนือของจังหวัดฟูคูโอกะ

นอกจากนี้ ด้วยความที่พื้นที่ของมันอยู่ใกล้กับช่องแคบคัมมง ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างเกาะฮอนชูและเกาะคิวชู ทำให้มันกลายเป็นสนามที่อยู่ใกล้กับทะเลมากที่สุดของญี่ปุ่น

หลังจากใช้เวลาไป 2 ปี ในที่สุดสนามเหย้าแห่งใหม่ของ กิราวานซ์ ก็เสร็จสิ้น ก่อนจะขายชื่อให้ มิคุนิ บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ ในราคา 30 ล้านเยนต่อปี (ราว 7 ล้านบาท) ที่ทำให้มันได้ชื่อว่า มิคุนิ เวิลด์ สเดเตียม

ตัวสนามมีความโดดเด่นที่การวางตัวทอดยาวไปกับทะเล โดยมีอัฒจันทร์ด้านหนึ่งที่เปิดโล่ง เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของช่องแคบคัมมง จนทำให้มันได้รับการขนานนามว่า “สนามฟุตบอลที่มีวิวสวยที่สุดของญี่ปุ่น”

อย่างไรก็ดี กิราวานซ์ ไม่ได้มีโอกาสได้ใช้สนามแห่งนี้ในเจ1ลีก หรือแม้กระทั่งเจ2ลีก เมื่อในวันที่สนามสร้างเสร็จ ทีมต้องกระเด็นตกชั้นลงมาเล่นในเจ3ลีก อย่างเจ็บปวด

แต่ถึงอย่างนั้น ทีมก็ได้รับการตอบรับที่ดีในนัดเปิดสนามเจ3 กับเบลาบิตซ์ อาคิตะ เมื่อมีแฟนบอลเข้ามาชมเกมมากถึง 14,935 คน หรือเกือบเต็มความจุ ที่กลายเป็นสถิติผู้ชมสูงสุดตลอดกาล เจ3ลีก มาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ด้วยความตั๋วราคาที่ไม่แพงมาก อย่างตั๋วผู้ใหญ่ฝั่งอัฒจันทร์หลักที่เห็นวิวทะเล มีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 2,500 เยน หรือราว 587 บาท ทำให้ มิคุนิ เวิลด์ สเดเตียม กลายเป็นหมุดหมายของแฟนบอลทั้งขาจร และขาประจำแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นับตั้งแต่สนามสร้างเสร็จ กิราวานซ์ มียอดแฟนบอลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 3,224 คนในฤดูกาล 2016 ซึ่งน้อยที่สุดในเจ2 มาเป็น 5,939 คนในฤดูกาลต่อมา และเคยขึ้นไปถึง 6,049 คนในฤดูกาล 2019 (แต่ก็เริ่มตกลงมาหลังโควิดระบาด)

สำหรับใครที่สนใจ อยากสัมผัสกับประสบการณ์ดูฟุตบอลริมทะเล สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟ โดยลงที่สถานีโคคุระ แล้วค่อยเดินเท้าต่ออีกราว 15 นาที ก็จะถึงสนาม

แต่ถ้าให้ดีควรมาในวันที่มีแข่ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์ และต้องเป็นวันที่ กิราวานซ์ เล่นเป็นทีมเหย้า (เช็คได้ที่นี่ https://www.jleague.co/fixtures/j3/2024/all/kitakyushu/ ) ไม่เช่นนั้น อาจจะได้มาดูแค่สนามเปล่าๆ ที่ไร้ผู้คนแทน