เมื่อ มูรินโญ่ หวนร่วมงาน กับ เฟร็ด อีกครั้งที่ตุรกี

โชเซ่ มูรินโญ่ เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการโยกไปคุมทัพ เฟเนบาห์เช่ ทีมชั้นน้ำในบลีกตุรกี เจ้าของรองแชมป์ลีกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

แน่นอนว่านี่คือความท้าทายใหม่ของนายใหญ่วัย 61 ปี และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004 ที่เจ้าของวลี the special one ไม่ได้คุมทีมใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป

ภารกิจของ มูรินโญ่ ในการรับงานครั้งนี้นอกจากต้องพาทีมประสบความสำเร็จแล้ว อีกจุดที่น่าสนใจไม่ต่างกันคือการหวนมาร่วมงานกับ เฟร็ด อดีตลูกทีมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 สมัยที่ ‘น้ามู’ ยังคุมทัพ ปีศาจแดง ตอนนั้นทีมไปคว้าตัว เฟร็ด มาจาก ชัคตาร์ โดเน็ตส์ก ด้วยค่าตัว 47 ล้านปอนด์ ทว่ากองกลางจากบราซิลได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมภายใต้เจ้านายคนนี้เพียง 12 เกมเท่านั้น

จากรายงานจาก The Athletic ในตอนนั้นระบุว่าแท้จริง มูรินโญ่ ไม่ได้อยากได้ตัว เฟร็ด มาร่วมทีมเลย แต่ที่ต้องดึงตัวมาร่วมทีมเพราะเขารู้สึกว่า ถ้าเขาไม่ทำ ยูไนเต็ด จะไม่เซ็นสัญญากองกลางคนไหนเลยในช่วงซัมเมอร์นั้น และการเซ็นสัญญานักเตะคนนี้ก็ดีกว่าการไม่เซ็นสัญญากับใครเลย

หลังจาก มูรินโญ่ โดนไล่ออกในช่วงปลายปี 2018 เฟร็ด ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแดนกลางในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แม้จะมีเสียงวิจารณ์มากพอสมควร

จนกระทั่งซัมเมอร์ 2023 เฟร็ด โบกมือลา แมนฯ ยูไนเต็ด ไปร่วมทัพ เฟเนบาห์เช่ ก่อนกลายเป็นเดอะ แบก แดนกลาง ลงสนามไปมากถึง 35 นัด เรียกได้ว่าถ้าไม่เจ็บ ไม่แบน ยังไงก็ได้ลงสนาม

และแน่นอนในซีซั่นหน้าทั้ง มูรินโญ่ และ เฟร็ด จะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ว่ากันตามผลงานก่อนหน้านี้ เฟร็ด ควรเป็นตัวเลือก แต่สถานะคงอาจไม่แน่นอนในกรณีที่นายใหญ่ชาวโปรตุเกสจะไปดึงมิดฟิลด์คนอื่นๆ มาร่วมทีม