ทุ่มเท่าไรก็ต้องเอา! เจาะลึกเหตุผลผีทุ่มสุดตัวคว้าโยโร่เสริมหลังทันที

Pipat Sathirawut

July 17, 2024 · 3 min read

ทุ่มเท่าไรก็ต้องเอา! เจาะลึกเหตุผลผีทุ่มสุดตัวคว้าโยโร่เสริมหลังทันที
ฟุตบอล | July 17, 2024

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะได้นักเตะใหม่เป็นรายที่ 2 ในช่วงซัมเมอร์นี้ ต่อจาก โจชัว เซิร์คซี่ กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่คว้าตัวมาจากโบโลญญ่าเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยล่าสุด รายงานจากสื่อต่างประเทศทุกสำนักยืนยันตรงกันว่าทีมปีศาจแดงกำลังจะเซ็นสัญญาคว้าตัว เลนี่ โยโร่ เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสวัย 18 ปีมาจากลีลล์ ทีมใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส มาด้วยค่าตัวรวม add-ons เป็นมูลค่ารวมกันสูงถึง 70 ล้านยูโร

จากรายงานของ เดวิด ออร์นสตีน ผู้สื่อข่าวระดับที่ได้รับความเชื่อถือสูงสุดแห่ง ดิ แอธเลติก เผยว่าค่าตัวเบื้องต้นที่ลีลล์จะได้รับจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะอยู่ที่ 62 ล้านยูโร (ประมาณ 52 ล้านปอนด์) และมี add-ons อีกมากมาย ที่จะทำให้ราคารวมของเขาสูงถึง 70 ล้านยูโร หรือ 58.8 ล้านปอนด์ในอนาคต

เดิมทีโยโร่ตั้งใจจะย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นสโมสรในฝัน แต่ทีมราชันชุดขาวตั้งใจจะเซ็นสัญญาแบบฟรีๆ เมื่อนักเตะหมดสัญญากับลีลล์ในช่วงซัมเมอร์ปีหน้าแทนมากกว่า นั่นทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ยอมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลกลายเป็นทีมเต็งที่จะได้ตัวไปแต่เพียงผู้เดียวในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะไม่มีสโมสรอื่นอีกแล้วที่จะพร้อมจ่ายเงินค่าตัวในระดับที่ลีลล์พึงพอใจได้

รายงานข่าวเผยว่า โยโร่จะบินไปแมนเชสเตอร์ในวันพุธที่ 17 กรกฎาคมนี้ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย ก่อนเซ็นสัญญาย้ายสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 48 ชั่วโมงนี้ โดยจะเซ็นสัญญายาวถึงปี 2029 ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด แฟนผีจะได้เห็นกองหลังดาวรุ่งจากแดนน้ำหอมรายนี้เปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ภายในช่วงสุดสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามก็คือ การใช้เงินเป็นจำนวนสูงถึง 70 ล้านยูโร (รวม add-ons) หรือเป็นมูลค่าระดับเกือบๆ 60 ล้านปอนด์กับผู้เล่นที่อายุเพียง 18 ปี และยังไม่เคยติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว แถมสัญญากับลีลล์ก็เข้าสู่ปีสุดท้ายแล้ว มันคือการทุ่มเงินแบบหน้ามืดเกินเหตุหรือไม่

แต่นี่คือเหตุผลหลัก ว่าทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงจำเป็นต้องรีบรวบหัวรวบหาง เลนี่ โยโร่ มาเลยทันที ชนิดที่พร้อมสู้ราคาเต็มที่ จ่ายแพงแค่ไหนก็ต้องยอม

 

สเปกของ INEOS แข้งที่เซ็นสัญญามาใหม่ ต้องใช้งานได้ยาว

ย้อนไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะเซ็นสัญญาคว้าตัวนักเตะที่พิสูจน์ตัวเองมามากพอจนมีชื่อชั้นเป็นที่รู้จักดีของแฟนบอลมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น เอดินสัน คาวานี่, ราฟาแอล วาราน, คริสเตียน เอริคเซ่น หรือ คาเซมิโร่ แต่ทั้งหมดนั้นไม่มีใครเลยที่สามารถเป็นกำลังสำคัญได้ในระยะยาว เต็มที่อาจจะยึดตัวหลักและเล่นได้ดีจริงๆ แค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น เพราะกว่าที่แต่ละคนที่เอ่ยมาจะย้ายเข้ามา ก็เป็นช่วงที่ผ่านพ้นวัยพีคไปเรียบร้อยแล้ว

นั่นทำให้สเปกผู้เล่นใหม่ที่กลุ่ม INEOS ของ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ที่เข้ามาถือหุ้นสโมสร 27.7% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และได้อำนาจปฏิวัติการบริหารด้านฟุตบอลใหม่ทั้งหมดให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องเป็นนักเตะที่มีอายุการใช้งานในระยะยาว และพร้อมพัฒนาให้มีมูลค่าสูงกว่าวันแรกที่เซ็นสัญญาเข้ามาได้

โจชัว เซิร์คซี่ ที่เป็นนักเตะใหม่คนแรกในยุคที่สโมสรบริหารโดย INEOS ปัจจุบันอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น ส่วนสเปกตำแหน่งสำคัญอย่างเซนเตอร์แบ็ก ที่ INEOS อยากได้ ก็ล้วนแล้วมีอายุไม่เกิน 24 ปีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น จาร์ราด แบรนธ์เวต กองหลังชาวอังกฤษของเอฟเวอร์ตัน, มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะมาจบที่ดีลของ เลนี่ โยโร่ ที่อายุเพียง 18 ปี

 

ปัญหาเซนเตอร์สลับกันเจ็บเพียบ ทำให้โยโร่คือตัวเลือกที่ใช่

ตลอดทั้งฤดูกาล 2023-24 ที่ผ่านมา เอริค เทน ฮาก เจอปัญหานักเตะตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กสลับกันบาดเจ็บตลอดทั้งซีซั่น จนทำให้สมดุลแนวรับของทีมเสียไป

ลิซานโดร มาร์ติเนซ ซึ่งเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวเลือกแรกของ เทน ฮาก มีปัญหาบาดเจ็บเล่นงานแทบจะตลอดทั้งซีซั่น จนฟิตพร้อมลงสนามได้แค่ 14 นัดรวมทุกรายการเท่านั้น ขณะที่ ราฟาแอล วาราน ก็สภาพร่างกายโรยราลง แถมมีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อรบกวนเป็นช่วงๆ จนสุดท้ายสโมสรต้องยอมปล่อยให้วารานกลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์ไป เพราะพิจารณาแล้วว่าไม่คุ้มค่าที่จะจ่ายค่าเหนื่อยแพงๆ อีก

ส่วน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็มีสภาพร่างกายที่บาดเจ็บง่ายกว่าเดิม โดยลินเดอเลิฟพร้อมลงเล่นในพรีเมียร์ลีกซีซั่นที่แล้วไม่ถึง 20 นัด ส่วนแม็กไกวร์ก็มีปัญหาบาดเจ็บช่วงท้ายฤดูกาล จนเรียกความฟิตไม่ทันติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกยูโร 2024 จน จอนนี่ อีแวนส์ ที่เดิมทีสโมสรเซ็นสัญญาคว้าตัวมาแบบฟรีๆ ให้เป็นแค่อะไหล่สำรอง ได้ลงสนามมากถึง 30 นัดรวมทุกถ้วยเลยทีเดียว

แต่สภาพร่างกายของ เลนี่ โยโร่ วัยเพียง 18 ปีถือว่ายังดีมากๆ ถ้าหากไม่นับตำแหน่งผู้รักษาประตู เขาคือผู้เล่นที่ลงสนามเป็นจำนวนนาทีมากที่สุดของลีลล์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยลงเล่นรวมกัน 2,672 นาทีใน ลีก เอิง และได้ออกสตาร์ทตัวจริงมากถึง 30 นัด (ลงเป็นตัวสำรอง 2 นัด) โดยไร้ปัญหาบาดเจ็บ เขามีชื่ออยู่ในทีมชีทของลีลล์ใน ลีก เอิง ฤดูกาลที่แล้วครบทุกเกม

 

เผยโปรไฟล์คือวันเดอร์คิดตำแหน่งเซนเตอร์

เลนี่ โยโร่ มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของ ลีก เอิง ประจำฤดูกาล 2023-24 ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กคู่กับมาร์กินญอส กองหลังกัปตันทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง นั่นบ่งบอกว่าเขาคือปราการหลังตัวกลางที่โดดเด่นเหนือใครๆ ในลีกสูงสุดฝรั่งเศสฤดูกาลที่ผ่านมา

เว็บไซต์ดังอย่าง Squawka ซึ่งมักจะนำเสนอเนื้อหาที่อ้างอิงข้อมูลสถิติประกอบเผยว่า เลนี่ โยโร่ คือเซนเตอร์แบ็กที่อายุต่ำกว่า 23 ปีเพียงคนเดียวเท่านั้นในบรรดา 5 ลีกดังของยุโรปเมื่อซีซั่น 2023-24 ที่มีสถิติดวลชนะทั้งลูกกลางอากาศและการดวลตัวต่อตัวภาคพื้นดินมากกว่า 60% และยังเป็นเซนเตอร์อายุไม่เกิน 23 ปีเพียงคนเดียวที่มีสถิติจ่ายบอลสำเร็จไม่น้อยกว่า 90%

ด้วยส่วนสูงถึง 190 เซนติเมตร ช่วยให้โยโร่มีจุดเด่นในการเล่นลูกกลางอากาศ โดยเขามีเปอร์เซ็นต์ขึ้นแย่งโหม่งชนะมากถึง 67.86% ในศึก ลีก เอิง เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเหนือกว่าเพื่อนร่วมทีมของลีลล์ทุกคน และรั้งอันดับ 5 ของชาร์ทนักเตะที่มีเปอร์เซ็นต์ดวลชนะลูกกลางอากาศได้มากที่สุดของทั้งลีก

ส่วนการเล่นบอลด้วยเท้าก็ทำได้ดี สถิติจากเว็บไซต์ Whoscored เผยว่า โยโร่จะผ่านบอลเฉลี่ย 63.3 ครั้งต่อ 90 นาทีเมื่อซีซั่นก่อน และมีเปอร์เซ็นต์จ่ายแม่นยำถึง 92.2% ซึ่งถือเป็นอันดับ 1  ในบรรดานักเตะที่ลงตัวจริงใน ลีก เอิง ฤดูกาล 2023-24 ไม่น้อยกว่า 25 นัด

ด้วยผลงานที่ยิ่งเล่นยิ่งดี ทำให้ ซามูเอล อุมติตี้ อดีตเซนเตอร์แบ็กตัวหลักทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ที่ปัจจุบันอายุ 30 ปี ยังต้องเป็นตัวเลือกรองต่อจากเจ้าหนูโยโร่วัย 18 ปี และเมื่ออุมติตี้มีปัญหาเจ็บเข่าในช่วงท้ายซีซั่น ยิ่งทำให้ตำแหน่งตัวจริงของโยโร่ยิ่งมั่นคงขึ้นไปอีก และฟอร์มการเล่นของเขาก็ไปเข้าตาทีมใหญ่ทั่วยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติการเป็นเซนเตอร์แบ็กที่ผ่านบอลบนพื้นดินอย่างแม่นยำ ถือว่าเป็นที่ต้องการของแทบทุกสโมสรในปัจจุบัน

 

ถ้าหากผีไม่รีบคว้าตัวตอนนี้ เสร็จทีมใหญ่ทีมอื่นแน่นอน

ตลอดช่วงที่ผ่านมา ชื่อของ เลนี่ โยโร่ ตกเป็นข่าวกับทีมยักษ์ใหญ่ทั้ง เรอัล มาดริด, ลิเวอร์พูล และ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ด้วย ไม่ใช่แค่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้น

เรอัล มาดริด ถือเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะทีมราชันชุดขาวคือสโมสรในฝันสำหรับตัวนักเตะ ถ้าหากไม่มีทีมไหนยื่นซื้อในราคาที่ลีลล์ต้องการในช่วงซัมเมอร์นี้ จะทำให้โยโร่ย้ายไปค้าแข้งในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในปีหน้า ตามรอยดาวรุ่งอนาคตไกลของฝรั่งเศสหลายคนในช่วงที่ผ่านมา ทั้ง เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า และ โอเรเลียง ชูอาเมนี่

แต่ท่าทีของ เรอัล มาดริด ก็คือพวกเขาไม่จำเป็นต้องรีบทุ่มเงินคว้าตัวโยโร่ไปในตอนนี้ เพราะตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กที่ประกอบด้วย อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เอแดร์ มิลิเตา และ ดาวิด อลาบา ถือว่าแทบไม่มีที่ว่างให้โยโร่สอดแทรกลงตัวจริงอยู่แล้ว ทีมราชันชุดขาวจึงหวังจะรอเซ็นฟรีในช่วงซัมเมอร์ปีหน้าซะมากกว่า และช่วงที่ผ่านมา ทั้ง ลิเวอร์พูล กับ เปแอสเช ก็รับรู้ดีถึงความตั้งใจของตัวนักเตะที่อยากไปเล่นที่สเปน จึงไม่ต้องการยื่นข้อเสนอแข่งขัน เพราะมองว่าใจของนักเตะต้องการไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ให้ได้ในสักวันแน่ๆ

แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่านี่คือโอกาส เพราะการที่โยโร่เหลือสัญญากับลีลล์แค่ปีเดียว จะทำให้ลีลล์ต้องการหาทางขายในราคาที่น่าพอใจที่สุดแน่ ซึ่งเดิมที ลีลล์ตั้งค่าตัวของปราการหลังเด็กปั้นรายนี้ไว้สูงถึง 100 ล้านยูโรเลยด้วยซ้ำ เพราะมองว่าบรรดายักษ์ใหญ่ของยุโรปจะต้องมารุมแย่งตัวแน่ๆ แต่สุดท้ายข้อเสนอที่บอร์ดบริหารทีมปีศาจแดงยื่นให้จำนวนมูลค่ารวม 70 ล้านยูโร ก็เพียงพอให้ลีลล์พึงพอใจ และเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดเท่าที่ต้นสังกัดของนักเตะจะรับได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ แทนที่จะต้องเสี่ยงเสียให้ เรอัล มาดริด ฟรีๆ ในปีหน้า

 

ความพยายามของผี ชนะใจนักเตะ

อันที่จริง เจตนารมณ์ของ เลนี่ โยโร่ เขาอยากจะไปเล่นให้ เรอัล มาดริด มากที่สุด แต่ข้อเสนอในระดับที่ปฏิเสธไม่ได้ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยื่นซื้อ ทำให้ลีลล์พยายามเกลี้ยกล่อมนักเตะให้ยอมย้ายไปเล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย โดยทีมปีศาจแดงก็จะได้กองหลังอนาคตไกลที่พวกเขาต้องการ ส่วนลีลล์ก็จะได้ค่าตัวจำนวนมหาศาลจากการขายเด็กปั้นพรสวรรค์สูงที่สุดในรอบหลายปี

แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มค่าจ้างในระดับที่สูงมากๆ สำหรับผู้เล่นดาวรุ่ง ขณะที่ทีมเจรจาที่นำโดย แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ก็นำเสนอโปรเจ็คต์ใหญ่ที่มองว่าโยโร่จะเป็นคีย์แมนสำคัญ ทำให้ตัวปราการหลังวัย 18 ปีรู้สึกประทับใจในความเอาจริงเอาจังของทีมปีศาจแดง และแจ้งให้ทางฝั่ง เรอัล มาดริด ทราบตั้งแต่คืนวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม ว่าเขาและตัวแทนได้ตัดสินใจแล้วที่จะย้ายไปเล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

 

ชี้ค่าตัว+ค่าเหนื่อยโยโร่ ไม่แพงเกินกว่าเป้าหมายอื่น

ก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมาเร่งปิดดีลคว้าตัว เลนี่ โยโร่ เอาในช่วงไม่กี่วันมานี้ พวกเขาพยายามเจรจากับเอฟเวอร์ตัน เพื่อหวังซื้อตัว จาร์ราด แบรนธ์เวต ไปเสริมทัพ แต่ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินยืนกรานว่าต้องการได้ค่าตัวไม่น้อยกว่า 70 ล้านปอนด์ และนั่นทำให้ดีลของแบรนธ์เวตไม่มีความคืบหน้า

ค่าตัว 58.8 ล้านปอนด์ของโยโร่จึงถือว่าถูกกว่าแบรนธ์เวตประมาณ 12 ล้านปอนด์ แถมอายุการใช้งานของกองหลังชาวฝรั่งเศสก็ยาวนานกว่า

ขณะที่ดีลของ มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ นั้น ถึงแม้ว่า บาเยิร์น มิวนิค จะตั้งค่าตัวไม่แรงนักที่ประมาณ 50 ล้านยูโร (42 ล้านปอนด์) แต่อุปสรรคสำคัญก็คือเรื่องของเพดานค่าเหนื่อยที่ เดอ ลิกท์ รับกับทีมเสือใต้ปีละ 15 ล้านยูโร แถมมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้งในซีซั่นที่ผ่านมา ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มองว่าการทุ่มค่าตัวให้โยโร่ แต่จ่ายค่าจ้างให้ปีละ 7 ล้านยูโร ซึ่งถูกกว่าดีลของ เดอ ลิกท์ ครึ่งนึง คือสิ่งที่ทีมปีศาจแดงประเมินว่าสมควรลงทุนกว่าในตอนนี้